ไบเดนตราหน้าปูติน “อาชญากรสงคราม” ทุ่ม 3 หมื่นล้าน-ส่งอาวุธเพิ่มช่วยยูเครน
ไบเดนตราหน้าปูติน - วันที่ 19 มี.ค. บีบีซี และ เอเอฟพี รายงานสถานการณ์ความไม่สงบใน ประเทศยูเครน หลังจากกองกำลังรัสเซียประกาศสงครามรุกรานดินแดนยูเครนมานานกว่า 3 สัปดาห์ว่า ประธานาธิบดีโวโดิมีร์ เซเลนสกี ผู้นำยูเครน แถลงการณ์ผ่านวิดีโอว่านานาชาติต้องยอมรับร่วมกันว่ารัสเซียเป็นรัฐก่อการร้าย
“โลกต้องรับรองอย่างเป็นทางการว่ารัสเซียได้กลายเป็นรัฐก่อการร้ายแล้ว” ผู้นำยูเครนยังเรียกร้องให้เพิ่มมาตรการคว่ำบาตรรัสเซีย รวมถึงสนับสนุนอาวุธยุทโธปกรณ์เพิ่มเติมแก่ยูเครน และประกาศเขตห้ามบินเหนือน่านฟ้าของยูเครน
“สิ่งสำคัญที่สุดสำหรับผมในการเจรจาคือต้องมีความชัดเจน การสิ้นสุดของสงคราม การรับประกันความมั่นคง อำนาจอธิปไตย การฟื้นฟูบูรณภาพแห่งดินแดน การมีหลักประกันและการปกป้องประเทศของเราอย่างแท้จริง” นายเซเลนสกีย้ำ
ประธานาธิบดีเซเลนสกียังกล่าวสุนทรพจน์ต่อสภาคองเกรสสหรัฐอเมริกาผ่านระบบประชุมออนไลน์ตามคำเชิญของนางแนนซี เพโลซี ประธานสภาผู้แทนราษฎร และนายชัค ชูเมอร์ ผู้นำเสียงข้างมากในวุฒิสภาของพรรคเดโมแครต
โดยนายเซเลนสกีเรียกร้องให้ชาวอเมริกันรำลึกถึงเหตุโจมตีเพิร์ลฮาร์เบอร์ และเหตุวินาศกรรม 11 กันยายน หรือ 9/11 ก่อนพูดถึงการรุกรานของรัสเซียที่เข่นฆ่าพลเรือนชาวยูเครน พร้อมร้องขอให้สนับสนุนระบบป้องกันการโจมตีทางอากาศ และเครื่องบินขับไล่ เพื่อเป็นทางเลือกในการป้องกันประเทศ
ต่อมาประธานาธิบดีโจ ไบเดน ผู้นำสหรัฐ ตอบรับคำร้องของนายเซเลนสกีด้วยการประกาศให้ความช่วยเหลือด้านอาวุธเพิ่มเติมคิดเป็นมูลค่ากว่า 800 ล้านดอลลาร์สหรัฐ หรือกว่า 26,600 ล้านบาท รวมแล้วสหรัฐจะสนับสนุนยุทโธปกรณ์แก่ยูเครนคิดเป็นมูลค่าถึง 33,245 ล้านบาท
สำหรับความช่วยเหลือรอบใหม่ประกอบด้วยระบบต่อต้านอากาศยานโจมตี 800 เครื่อง ระบบต่อต้านรถถังและรถหุ้มเกราะ 9,000 เครื่อง ปืนกล 7,000 กระบอก เครื่องยิงลูกระเบิดและลูกระเบิด 20 ล้านลูก และโดรน 100 ลำ
นอกจากนี้ยังเป็นครั้งแรกที่ประธานาธิบดีไบเดนเรียกประธานาธิบดีวลาดิมีร์ ปูติน ผู้นำรัสเซีย ว่า “อาชญากรสงคราม” ซึ่งทพเนียบขาวแถลงในเวลาต่อมาว่านายไบเดนพูดด้วยความรู้สึกจากใจจริง
ความเคลื่อนไหวดังกล่าวเกิดขึ้นหลังจากสภาท้องถิ่นเมืองมาริอูโปล ทางตะวันออกเฉียงใต้ แถลงว่ากองกำลังรัสเซียยิงถล่มโรงละครดรามาเธียร์เตอร์ซึ่งประชาชนกว่า 1,000 คนใช้เป็นที่หลบภัยสงคราม จากภาพถ่ายที่โพสต์บนโลกออนไลน์เผยให้เห็นอาคารโรงละครสูง 3 ชั้นพังเสียหายยับเยิน และมีเพลิงไหม้ลุกลาม
นายวาดิม บอยเชนโก นายกเทศมนตรีเมืองมาริอูโปล กล่าวประณามรัสเซียและเรียกการโจมตีว่าเป็นโศกนาฏกรรมที่น่าสะพรึงกลัว “มีชาวบ้านหลบซ่อนอยู่ที่นั่น บางคนบอกว่าพวกเขาโชคดีที่รอดมาได้ แต่ก็โชคร้ายที่ไม่ใช่ทุกคน”
“คำๆ เดียวที่จะอธิบายสิ่งที่เกิดขึ้นในวันนี้คือการฆ่าล้างเผ่าพันธุ์ ฆ่าล้างบางเผ่าพันธุ์ของเรา ชาวยูเครนของเรา แต่ผมยังมั่นใจว่าวันนั้นจะมาถึง วันที่เมืองมาริอูโปลที่สวยงามของเราจะฟื้นคืนขึ้นจากหานยะได้อีกครั้ง”
ด้านนายมิไคโล โปโดลยัก ที่ปรึกษาประธานาธิบดีเซเลนสกี ประณามกองทัพรัสเซียต่อการโจมตีเขตชุมชน ที่พักอาศัย และสถานที่หลบภัยอย่างต่อเนื่อง พร้อมตำหนิที่ชาติตะวันตกปฏิเสธคำร้องขอให้ปิดเขตการบินเหนือน่านฟ้ายูเครนเพราะกลัวว่าจะต้องทำสงครามโลกครั้งที่สามกับรัสเซีย
อย่างไรก็ตาม กระทรวงกลาโหมรัสเซียแถลงปฏิเสธการโจมตีโรงละคร และว่าเป็นฝีมือของ กองพันอาซอฟ กลุ่มนีโอนาซีและกลุ่มฝ่ายขวาในกองกำลังรักษาความปลอดภัยแห่งชาติยูเครน เช่นเดียวกับก่อนหน้านี้ที่รัสเซียกล่าวหาว่ากองพันอาซอฟอยู่เบื้องหลังการโจมตีโรงพยาบาลเด็กในเมืองมาริอูโปล
ขณะที่องค์การฮิวแมนไรตส์วอตช์ระบุว่าไม่สามารถชี้ชัดว่าฝ่ายไหนโจมตีโรงละคร แต่ข้อมูลที่เชื่อถือได้คือมีประชาชนอย่างน้อย 500 คนหลบภัยอยู่ที่โรงละครแห่งนี้
ส่วนเหตุกองกำลังรัสเซียยิงอาคารสูงในเมืองเชียร์นีฮีฟ ทางตอนเหนือ จนเศษซากปรักหักพักของอาคารตกใส่ประชาชนที่ต่อแถวรอรับขนมปังอยู่ด้านล่างเมื่อช่วงสายของวันพุธที่ 16 มี.ค.ตามเวลาท้องถิ่น มียอดผู้เสียชีวิตเพิ่มเป็นอย่างน้อย 13 ราย และหลายสิบคนที่ได้รับบาดเจ็บยังต้องพักรักษาตัวในโรงพยาบาล