Saab ผู้ผลิต Gripen เปิดตัว "Nimbrix" ขีปนาวุธต่อต้านโดรน คุ้มค่าและแม่นยำเพื่อรับมือภัยคุกคามโดรน

2 กันยายน 2568 ( 13:33 )
8
28 สิงหาคมที่ผ่านมา บริษัท Saab ซึ่งเป็นบริษัทด้านการป้องกันและความปลอดภัยชั้นนำสัญชาติสวีเดน ผู้ผลิตเครื่องบิน Gripen ที่ประจำการในกองทัพอากาศไทย ประกาศเปิดตัวขีปนาวุธขนาดเล็ก Nimbrix อย่างเป็นทางการ ซึ่งเป็นขีปนาวุธ Counter-Unmanned Aerial System (C-UAS) โดยเฉพาะรุ่นแรกของบริษัท การเปิดตัวครั้งนี้มีขึ้นเพื่อตอบสนองต่อภัยคุกคามที่เพิ่มขึ้นอย่างรวดเร็วจากโดรนขนาดเล็กที่ใช้ในสนามรบยุคใหม่
ภัยคุกคามจากโดรนที่ทวีความรุนแรงและข้อจำกัดของระบบปัจจุบัน
ในช่วงไม่กี่ปีที่ผ่านมา การใช้โดรนขนาดเล็ก โดรนคามิกาเซ่ และโดรน FPV (First-Person View) ที่ดัดแปลงมาเพื่อหย่อนระเบิด ได้แพร่หลายและมีราคาถูกอย่างมาก ทำให้การสกัดกั้นโดรนเหล่านี้กลายเป็นเรื่องที่ยากและมีค่าใช้จ่ายสูง
วิธีการสกัดกั้นโดรนแบ่งได้เป็นสองประเภทหลัก
1. Soft Kill การรบกวนสัญญาณ เช่น การใช้เครื่องแจมสัญญาณ GPS หรือวิทยุมีประสิทธิภาพในระดับหนึ่ง แต่โดรนมีการพัฒนาระบบควบคุมเป็นแบบใช้สาย Fiber Optic ซึ่งสามารถบินได้ไกลกว่ามากและไม่สามารถรบกวนสัญญาณได้
2. Hard Kill การทำลาย เช่น การยิงโดรนด้วยปืนเล็กยาวหรือลูกซองนั้นไม่มีประสิทธิภาพนัก เนื่องจากขนาดที่เล็กและความคล่องตัวของโดรน ในขณะที่ขีปนาวุธต่อสู้อากาศยานแบบดั้งเดิม เช่น ขีปนาวุธ Patriot สามารถสกัดกั้นโดรนได้ แต่มีราคาแพงมหาศาล โดยขีปนาวุธ Patriot หนึ่งลูกมีราคาสูงถึง 4 ล้านดอลลาร์สหรัฐ หรือประมาณ 100-120 ล้านบาท
ซึ่งเมื่อเทียบกับโดรน Shahed ของอิหร่านที่มีราคาเพียงหลักหมื่นบาท ทำให้ไม่คุ้มค่าทางเศรษฐกิจอย่างยิ่งในการสกัดกั้น นอกจากนี้ ระบบที่ซับซ้อนและแพงเหล่านั้นอาจไม่สามารถตรวจจับหรือสกัดกั้นโดรนขนาดเล็กได้ด้วยซ้ำ
ซึ่งเมื่อเทียบกับโดรน Shahed ของอิหร่านที่มีราคาเพียงหลักหมื่นบาท ทำให้ไม่คุ้มค่าทางเศรษฐกิจอย่างยิ่งในการสกัดกั้น นอกจากนี้ ระบบที่ซับซ้อนและแพงเหล่านั้นอาจไม่สามารถตรวจจับหรือสกัดกั้นโดรนขนาดเล็กได้ด้วยซ้ำ
Nimbrix ขีปนาวุธ C-UAS ที่ออกแบบมาเพื่อความคุ้มค่า
Nimbrix ได้รับการออกแบบมาเพื่อแก้ปัญหาความไม่สมดุลนี้ ด้วยแนวคิดสำคัญคือ "ต้นทุนต่อการสังหารมีความสำคัญอย่างยิ่ง" สเตฟาน โอเบิร์ก (Stefan Öberg) หัวหน้าหน่วยธุรกิจ Missile Systems ของบริษัท Saab กล่าวว่า "Nimbrix คือ คำตอบของเราสำหรับภัยคุกคามจากอากาศยานไร้คนขับที่ทวีความรุนแรงขึ้นในช่วงไม่กี่ปีที่ผ่านมา มันคุ้มค่าซึ่งเป็นสิ่งสำคัญเมื่อพิจารณาถึงการแพร่กระจายของ UAS ในสนามรบ"
มัตส์-โอโลฟ ริดเบิร์ก (Mats-Olof Rydberg) หัวหน้าหน่วยผลิตภัณฑ์ป้องกันภัยทางอากาศภาคพื้นดินของบริษัท Saab เสริมว่า บริษัทใช้วิธีการทำงานร่วมกับซัพพลายเออร์และพันธมิตรเพื่อ "การผลิตขีปนาวุธถูกควบคุมต้นทุนราคาให้อยู่ในระดับที่ต่ำมาก"
มัตส์-โอโลฟ ริดเบิร์ก (Mats-Olof Rydberg) หัวหน้าหน่วยผลิตภัณฑ์ป้องกันภัยทางอากาศภาคพื้นดินของบริษัท Saab เสริมว่า บริษัทใช้วิธีการทำงานร่วมกับซัพพลายเออร์และพันธมิตรเพื่อ "การผลิตขีปนาวุธถูกควบคุมต้นทุนราคาให้อยู่ในระดับที่ต่ำมาก"
คุณสมบัติหลักของขีปนาวุธ Nimbrix
1. ขีปนาวุธ C-UAS แบบ "ยิงแล้วลืม" (Fire-and-forget)
2. ออกแบบมาเพื่อปิดช่องว่างระหว่างระบบ C-UAS ระยะใกล้ที่ใช้ปืน เช่น Saab Trackfire RWS และขีปนาวุธป้องกันภัยทางอากาศระยะใกล้มาก (VSHORAD) ที่หนักกว่า เช่น Saab RBS 70 NG โดยมีระยะการทำงานที่เหมาะสมที่สุดคือ 2-5 กม. และสามารถจัดการกับเป้าหมายประเภท NATO Class 2 UAS หรือโดรนขนาดเล็กได้
3. พิสัยการยิงสูงสุด 5 กิโลเมตร
4. ระบบนำวิถีมี Target Seeker (เซ็นเซอร์ติดตามเป้าหมาย) แบบ Active Saab Saab ระบุว่า "เซ็นเซอร์ระบบอิเล็กทรอนิกส์ต่างๆ เป็นระบบที่ Saab คิดค้นออกมาเอง ซึ่งเป็นการ Adapt เทคโนโลยีต่างๆ ให้มีราคาที่ถูกลง" มีการคาดการณ์ว่าอาจใช้ระบบ AI ในการวิเคราะห์และติดตามเป้าหมาย ระบบนำวิถีนี้ไม่น่าจะเป็นอินฟราเรด เนื่องจากโดรนขนาดเล็กส่วนใหญ่ใช้พลังงานไฟฟ้าและไม่ปล่อยความร้อนมากนัก
5. หัวรบเป็นแบบ Hard-kill ที่ทำลายเป้าหมายโดยตรง และสามารถใช้โหมด air-burst หรือ ระเบิดกลางอากาศได้อย่างมีประสิทธิภาพเพื่อต่อต้านฝูง UAS โดยเฉพาะโดรนขนาดเล็กที่มีน้ำหนักเบา หัวรบเป็นแบบ High Explosive Fragmentation
6. ขนาดและน้ำหนัก มีน้ำหนักน้อยกว่า 3 กิโลกรัม และมีความยาวน้อยกว่า 1 เมตร ขนาดที่เล็กและเบาทำให้ง่ายต่อการใช้งานและบำรุงรักษา วัสดุที่ใช้คาดว่าอาจทำจากโพลิเมอร์หรือพลาสติก แต่ยังไม่มีข้อมูลยืนยัน
7. การใช้งาน เป็นระบบภาคพื้นดิน สามารถทำงานได้อย่างอิสระหรือเป็นส่วนหนึ่งของระบบป้องกันภัยทางอากาศขนาดใหญ่ มีตัวเลือกการติดตั้งที่ยืดหยุ่น สามารถติดตั้งบนยานพาหนะต่างๆ หรือในการกำหนดค่าแบบคงที่ ปัจจุบันยังไม่มีรุ่นที่สามารถประทับบ่าเพื่อยิงได้
สถานะการพัฒนาและการจำหน่าย
ขีปนาวุธ Nimbrix ได้รับการพัฒนาอย่างรวดเร็วภายในบริษัท Saab โดยมีรุ่นต้นแบบที่สร้างจากเครื่องพิมพ์ 3 มิติในปี พ.ศ. 2567 และมีการทดสอบยิงเรียบร้อยแล้ว ขีปนาวุธนี้จะถูกจัดแสดงต่อสาธารณะเป็นครั้งแรกที่งาน DSEI ในลอนดอน สหราชอาณาจักร ระหว่างวันที่ 9-12 กันยายน พ.ศ. 2568 การหารือกับลูกค้าทั่วโลกกำลังดำเนินการอยู่ และ Saab ตั้งเป้าหมายสำหรับการส่งมอบครั้งแรกในปี พ.ศ. 2569
บริบทของ Saab และอุตสาหกรรมป้องกันประเทศ
Saab เป็นบริษัทด้านการป้องกันและความปลอดภัยชั้นนำของสวีเดน ก่อตั้งในปี พ.ศ. 2480 โดยย่อมาจาก "Svenska Aeroplan Aktiebolaget" (The Swedish Aeroplane Corporation) เดิมสร้างเครื่องบินให้กองทัพอากาศสวีเดน ปัจจุบัน Saab ผลิตระบบขั้นสูงในด้านอากาศยาน อาวุธ การควบคุมและบังคับบัญชา เซ็นเซอร์ และระบบใต้น้ำ เช่น เครื่องบินขับไล่ JAS 39 Gripen และอาวุธต่อต้านรถถัง NLAW
อุตสาหกรรมป้องกันประเทศกำลังเผชิญกับความต้องการโซลูชั่น C-UAS ที่มีประสิทธิภาพและคุ้มค่าอย่างมาก ซึ่ง Nimbrix มุ่งตอบสนองความต้องการนี้ ผู้แสดงความคิดเห็นใน Reddit ยังได้ชี้ให้เห็นถึงความสำคัญของราคาในสมการความสำเร็จของอาวุธ โดยบางรายเสนอว่าหาก Nimbrix มีราคาอยู่ที่ประมาณ 100,000-200,000 บาทต่อลูก ก็จะเป็นยุทธภัณฑ์ที่คุ้มค่าอย่างยิ่ง
อุตสาหกรรมป้องกันประเทศกำลังเผชิญกับความต้องการโซลูชั่น C-UAS ที่มีประสิทธิภาพและคุ้มค่าอย่างมาก ซึ่ง Nimbrix มุ่งตอบสนองความต้องการนี้ ผู้แสดงความคิดเห็นใน Reddit ยังได้ชี้ให้เห็นถึงความสำคัญของราคาในสมการความสำเร็จของอาวุธ โดยบางรายเสนอว่าหาก Nimbrix มีราคาอยู่ที่ประมาณ 100,000-200,000 บาทต่อลูก ก็จะเป็นยุทธภัณฑ์ที่คุ้มค่าอย่างยิ่ง
Nimbrix ของ Saab เป็นตัวอย่างของนวัตกรรมที่ทันสมัยและคุ้มค่า ซึ่งได้รับการออกแบบมาเพื่อจัดการกับภัยคุกคามจากโดรนขนาดเล็กที่เพิ่มขึ้นอย่างต่อเนื่อง ตอกย้ำถึงความมุ่งมั่นของ Saab ในการนำเสนอโซลูชั่นที่ตอบโจทย์ความท้าทายด้านการป้องกันประเทศในปัจจุบันได้อย่างมีประสิทธิภาพ
Tag
ยอดนิยมในตอนนี้
