ระเบิดบินได้จากอเมริกา เคลมเหนือกว่าโดรนกามิกาเซ่ทั่วไป บินได้ไม่ง้อ GPS ไกลสุด 10 กิโลเมตร

ดีเอฟเอ ซิสเต็มส์ (DFA Systems) สตาร์ตอัปในรัฐนิวเม็กซิโกของสหรัฐอเมริกา เปิดตัวระบบโดรนที่เรียกว่า PFG (Precision Flying Grenade) หรือระบบระเบิดบินแบบแม่นยำ เคลมว่าเหนือกว่าโดรนกามิกาเซ่ทั่วไปใน 2 จุด คือ ทหารคนไหนก็ใช้งานได้ และต้านทานการก่อกวนทางอิเล็กทรอนิกส์ (Electronic Warfare: EW) 

สเปกระเบิดบินได้จากอเมริกา

• ลักษณะ เป็นท่อกลวงยาว 46 เซนติเมตร สำหรับบรรจุระเบิดภายใน

• ปีกแบบ 4 ใบพัด พับเก็บขนานกับท่อได้

• เส้นผ่านศูนย์กลาง 6 เซนติเมตร

• วัสดุ โครงคาร์บอนไฟเบอร์ 

• สภาพอากาศปฏิบัติการ -20 - 60 องศาเซลเซียส

• ความเร็วลมที่ทนได้ 64 กิโลเมตรต่อชั่วโมง

• ระยะเวลาการบิน 20 นาที

• ระยะการบิน 10 กิโลเมตร

• ประเภทระเบิดที่รองรับ

  • ระเบิดสังหารบุคคล (Anti-Personnel Fragmentation)

  • ระเบิดอาวุธเพลิง (Incendiary)

  • ระเบิดเจาะเกราะ (Armor Piercing: AP)

  • ระเบิดหัวทะลวง (Shaped Charge)

การใช้งานระเบิดบินได้จากอเมริกา

โดรน PFG ของบริษัทในระบบควบคุมการบินที่เรียกว่า Fly-by-wire ซึ่งเคลมว่าทำให้ใช้งานง่ายกว่าระบบ FPV ในโดรนทั่วไป มาพร้อมกับ AI ที่นำทางขั้นตอนสุดท้ายไปยังเป้าหมายได้อัตโนมัติ แม้ว่าจะถูกรบกวนสัญญาณวิทยุสำหรับสั่งการหรือ GPS นำทางก็ตาม

ขั้นตอนการทำงานของโดรน PFG มี 3 ขั้นตอน คือการนำออกจากกระเป๋า กางใบพัดซึ่งเป็นระบบเซฟตี้ในตัวป้องกันการใช้งานโดยไม่ตั้งใจ และควบคุมการบินด้วยรีโมตไปยังเป้าหมาย ซึ่งทางบริษัทเคลมว่าการควบคุมขั้นตอนการปฏิบัติไม่ได้ต่างหรือซับซ้อนไปจากการฝึกทหารใช้อาวุธต่อต้านรถถังหรือปืนกลอัตโนมัติแต่อย่างใด

ที่มาและเป้าหมายการผลิตระเบิดบินได้จากอเมริกา

ทางบริษัทระบุเหตุผลของการทำ PFG ไว้ว่า “ในยูเครน โดรน FPV (โดรนพร้อมระบบมุมมองบุคคลที่ 1 สำหรับบังคับการบิน) ได้แสดงคุณค่าในสนามรบ แต่ก็รวมถึงข้อจำกัดด้วยเช่นกัน”

“ในขณะที่ระบบเหล่านั้นมีประโยชน์ต่อสนามรบอย่างมาก แต่ก็ยังคงเผชิญหน้ากับขีดจำกัดในด้านการปฏิบัติการ โดยโดรนเหล่านั้นยังมีอัตราภารกิจล้มเหลวถึง 90% จากความยากเย็นในการทำการบิน และการเสื่อมสภาพจากสงครามอิเล็กทรอนิกส์ (EW)”

ด้วยเหตุนี้ เป้าหมายหลักของบริษัทคือการยกระดับให้ทหารประจำการของสหรัฐอเมริกาสามารถพกพายุทโธปกรณ์มีประสิทธิภาพสูงที่ใช้งานง่าย ยกระดับอำนาจการรบและการทำลายล้างในสนามรบจริงได้ดียิ่งขึ้น พร้อมมีต้นทุนการผลิตที่ต่ำเพียงพอต่อการใช้เป็นอาวุธประจำกายทหาร โดยเรียนรู้จากข้อจำกัดในการใช้งานโดรนเพื่อการทหารในสมรภูมิต่าง ๆ ทั่วโลกในปัจจุบัน 

ปัจจุบัน DFA Systems อยู่ระหว่างการพัฒนาต้นแบบและสาธิตการใช้งานให้พันธมิตร เพื่อหานักลงทุนและต่อยอดสู่การขายให้กับกองทัพสหรัฐฯ หรือหน่วยงานความมั่นคงอื่น ๆ ต่อไป