MAJORป๊อปคอร์นบุก7-11 หนังทำเงินเข้าฉายเพียบ
#MAJOR #ทันหุ้น – MAJOR ขยายธุรกิจป๊อปคอร์นในเซเว่น-อีเลฟเว่น ไตรมาส 1/2565 ปีนี้ผลงานฟื้นหนังทำเงินเข้าฉายเพียบ เตรียมเปิดบริการเพิ่มจาก 75% ชู Spider-Man และ 4King ทำเงินเกิน 100 ล้านบาท รุกขยายตลาดจีนเพิ่มโอกาสทำเงิน โบรกมองปี 2565 ฟื้นรายได้โฆษณากลับ ป๊อปคอร์นโตวางกำไรปีนี้ 793 ล้านบาท เป้า 25.00 บาท
ฝ่ายนักลงทุนสัมพันธ์ บริษัท เมเจอร์ ซีนีเพล็กซ์ กรุ้ป จำกัด (มหาชน) หรือ MAJOR เปิดเผยว่า บริษัทคาดผลประกอบการปีนี้จะฟื้นตัวขึ้นจากสถานการณ์ต่างๆ ที่มีแนวโน้มที่ดีขึ้นทั้งในด้านการเข้าชมภาพยนตร์ และอัตราการใช้บริการโรงหนังที่จะเปิดเพิ่มขึ้นหลังการแพร่ระบาดของโควิด-19 ไม่ได้รุนแรง โดยปัจจุบันที่มีการเปิดให้บริการราว 75% คาดว่าจะทยอยดีขึ้นต่อเนื่อง
ขณะเดียวกันในปีนี้ก็จะมีหนังทำเงินหลายเรื่องทยอยเข้าฉาย The Batman, FANTASTIC BEASTS, DOCTOR STRANGE เป็นต้น นอกจากนี้ยังมีหนังไทยที่จะเข้าฉายอีกจำนวนมาก และมองว่าจะเป็นหนังที่มีคุณภาพมากยิ่งขึ้น ซึ่งมีพันธมิตร เข้ามาร่วมดำเนินการทำให้หนังไทยเป็นหนังที่มีคุณภาพมากขึ้น รวมไปถึงแพลตฟอร์มสตรีมมิ่งอย่าง Disney+ ก็เข้ามาร่วมเป็นพันธมิตร มีการเข้ามาซื้อโฆษณาจากทางบริษัทด้วย จึงมั่นใจว่าปีนี้อุตสาหกรรมภาพยนตร์จะมีปรับเปลี่ยนในทิศทางที่ดีขึ้น
“ปีนี้ผลประกอบการของ MAJORก็น่าจะมีทิศทางที่ดีขึ้น ที่ผ่านมาก็มีหนังทำเงินเกิน 100 ล้านบาท 2 เรื่องอย่าง Spider-Man และ 4King เห็นได้ว่าประชาชนยังออกมาใช้ชีวิต และเชื่อว่าหากสถานการณ์ไม่ได้รุนแรงกว่านี้ ทุกอย่างน่าจะมีแนวโน้มดีขึ้น จำนวนที่นั่งในโรงภาพยนตร์ก็จะมีแนวโน้มเพิ่มขึ้นด้วย ตอนนี้ก็นั่งอยู่ประมาณ 75% ก็คาดหวังให้ในอนาคตเพิ่มขึ้น และปีนี้ก็จะมีหนังเข้าฉายใหม่ๆ หลายเรื่อง ที่เป็นหนังทำเงิน และยังมีหนังไทยที่จะมีแนวโน้มมีคุณภาพมากยิ่งขึ้น”ฝ่ายนักลงทุนสัมพันธ์ กล่าว
@บุกตลาดจีน-ป๊อปคอร์นเข้า 7-11
ขณะเดียวกันปีนี้ก็มีความร่วมมือกับพันธมิตร ในการทำหนังที่จะฉายในประเทศจีน คาดว่าจะสามารถฉายได้ในปีนี้ โดยในประเทศจีนนั้นมีจอโรงภาพยนตร์กว่า 8 หมื่นจอ หากเข้าฉายได้ราว 5 พันจอ ก็มองว่าจะสามารถทำรายได้ในระดับที่ดี และสร้างรายได้ให้แก่บริษัทด้วย
นอกจากนี้บริษัทยังมีรายได้จากการขายสินค้าผ่าน Delivery รวมไปถึงในไตรมาส 1/2565 บริษัทจะมีการนำป๊อปคอร์น เข้าไปจำหน่ายในร้านค้าสะดวกซื้อเซเว่น-อีเลฟเว่น ที่จะทำให้รายได้เพิ่มจากธุรกิจจำหน่ายป๊อปคอร์นในปีนี้ และจะมีการขยายจอภาพยนตร์เพิ่มอีกราว 20-30 จอในหัวเมืองต่างจังหวัด
อย่างไรก็ดี ปีนี้ธุรกิจของบริษัทมีแนวโน้มฟื้นตัว นักลงทุนสถาบันรวมถึงนักลงทุนรายย่อยก็ยังให้ความสนใจในธุรกิจและโอกาสการเติบโตของ MAJOR
@ ไตรมาส 4 กำไรปกติฟื้น
ด้านบริษัทหลักทรัพย์ เอเซีย พลัส จำกัด (มหาชน) ระบุถึง MAJOR ว่า โรงหนังพร้อมกลับมาสร้างสีสันให้ผู้ชม คาดกำไรสุทธิไตรมาส 4/2564 อยู่ที่ 57 ล้านบาท พลิกจากขาดทุนปกติในงวด ไตรมาส 3/2564 ที่ 684 ล้านบาท (ไม่รวมธุรกรรมขายหุ้น SF) หลักๆ มาจากธุรกิจภาพยนตร์ที่ฟื้นตัวจากหนังฟอร์มยักษ์ Spiderman : No Way Home ที่ทำรายได้สูงสุดของปี รวมถึงธุรกิจป๊อปคอร์นที่ฟื้นตัวจากการกลับมาขายในโรงหนังได้แล้ว ซึ่งมีอัตรากำไรขั้นต้น ที่สูงกว่าการขายผ่าน Delivery อย่างไรก็ตามคาดจะมีการตั้งสำรองค่าเผื่อหนี้สูญและการตั้ง Impairment สินทรัพย์ราว 20 ล้านบาท
@ สภาพคล่องดีเป้า 25 บาท
แนวโน้มผลประกอบการปี 2565 คาดฟื้นตัวต่อเนื่องจากหนังฟอร์มยักษ์ที่รอคิวเข้าฉายอีกมาก ซึ่งจะกลับมาพร้อมรายได้โฆษณาในโรงหนัง จาก Momentum เชิงบวกของหนัง Spiderman : No Way Home ที่กระแสตอบรับดีเกินคาด บวกกับหนังฟอร์มยักษ์ที่รอคิวเข้าฉายอีกมาก อาทิ The Batman, Black Panther : Wakanda Forever, THOR : Love and Thunder, AVATAR 2, John Wick 4 เป็นต้น ส่วนธุรกิจขายป๊อปคอร์นที่กลับมาขายหน้าโรงได้แล้ว อีกทั้ง MAJOR ยังมีแผนในการขยายธุรกิจเพิ่มเติมโดยจะวางจำหน่ายป๊อปคอร์นในการขายผ่านร้านค้าสะดวกซื้อ อาทิ เซเว่น-อีเลฟเว่น เป็นต้น ที่จะเป็นอีกแรงหนุนช่วยให้รายได้ธุรกิจป๊อปคอร์นเติบโตต่อเนื่อง ประเมินกำไรปี 2565 ที่ 793 ล้านบาท
อีกทั้งฝ่ายวิจัยเชื่อว่าความสามารถในการสร้างกระแสเงินสดของ MAJOR ยังอยู่ในระดับสูง รวมถึงธุรกรรมขาย SF ทำให้ MAJOR มีสภาพคล่องสูงขึ้นมากและมีความพร้อมสำหรับการนำเงินไปลงทุนต่อยอดเพื่อสร้างความแข็งแกร่งของธุรกิจเพิ่มเติม บวกกับการนำเงินบางส่วนไปคืนหนี้ส่งผลให้ดอกเบี้ยจ่ายลดลง ประเมินมูลค่าเหมาะสม ที่ 25.00 บาท ภายใต้วิธี DCF (WACC 7.7%, Terminal Growth 2%) แนะนำซื้อ