ตามล่า 3 คนไทย ถือหุ้นปริศนา โยงเหตุการณ์ตึก สตง. ถล่ม?

ล่าตัว 3 คนไทยกรณีถือหุ้นแทน: เบื้องหลัง 'นอมินี' ที่แท้จริง
เริ่มจากการสืบสวนบริษัทคู่สัญญาภาครัฐ
หลังเกิดโศกนาฏกรรมอาคารสำนักงานการตรวจเงินแผ่นดิน (สตง.) พังถล่มเมื่อเดือนมีนาคม 2568 หน่วยงานด้านกระบวนการยุติธรรมได้เปิดการสอบสวนบริษัทผู้รับเหมาก่อสร้างที่เกี่ยวข้อง โดยเฉพาะ บริษัท ไชน่า เรลเวย์ นัมเบอร์ 10 ซึ่งเป็นหนึ่งในคู่สัญญาที่รับงานก่อสร้างในรูปแบบกิจการร่วมค้า
การตรวจสอบเบื้องต้นของกรมสอบสวนคดีพิเศษ (DSI) พบประเด็นน่าสงสัยเกี่ยวกับโครงสร้างการถือหุ้นของบริษัทฯ ที่อาจละเมิด พระราชบัญญัติการประกอบธุรกิจของคนต่างด้าว พ.ศ. 2542 เนื่องจากมีคนไทยถือหุ้นมากกว่า 50% แต่มีข้อมูลบ่งชี้ว่าอาจไม่ได้มีบทบาทในการบริหารจัดการบริษัทอย่างแท้จริง
ร่องรอยทางการเงินเปิดเผยความเชื่อมโยง
ข้อมูลจาก DSI ระบุว่า การตรวจสอบธุรกรรมทางการเงินพบวงเงินกว่า 2,000 ล้านบาทที่เชื่อมโยงกับกรรมการชาวต่างชาติ ซึ่งมีแนวโน้มว่าเป็นผู้ให้กู้แก่ผู้ถือหุ้นชาวไทยบางรายในบริษัทฯ ปัจจุบันอยู่ระหว่างการพิสูจน์ว่าบุคคลเหล่านี้เป็นเจ้าของหุ้นตัวจริง หรือเป็นเพียง "นอมินี" ที่รับถือหุ้นแทนชาวต่างชาติซึ่งผิดกฎหมายหรือไม่
อย่างไรก็ตาม ข้อมูลทั้งหมดยังอยู่ในขั้นตอนการสอบสวน และยังไม่มีข้อสรุปทางกฎหมายที่ชี้ชัดถึงความผิดของบุคคลใดเป็นการเฉพาะ
การไล่ล่าผู้ต้องสงสัยในคดี
พันตำรวจเอก ทวี สอดส่อง รัฐมนตรีว่าการกระทรวงยุติธรรม เผยว่า DSI ได้ขออนุมัติหมายจับจากศาลสำหรับผู้ต้องสงสัยทั้งสิ้น 4 ราย ประกอบด้วยกรรมการชาวต่างชาติที่จับกุมได้แล้ว และบุคคลสัญชาติไทยอีก 3 ราย ซึ่งมีชื่อปรากฏเป็นผู้ถือหุ้นใหญ่ในบริษัทดังกล่าว ขณะนี้ยังอยู่ระหว่างการติดตามตัวเพื่อนำเข้าสู่กระบวนการสอบปากคำและตรวจสอบข้อเท็จจริง
DSI ได้บูรณาการการทำงานร่วมกับหน่วยงานด้านความมั่นคงและตรวจคนเข้าเมือง เพื่อป้องกันการหลบหนีและติดตามเส้นทางการเงินเพิ่มเติม เพื่อพิสูจน์ความเกี่ยวพันเชิงนิติบุคคลของผู้ต้องสงสัยกับการประกอบธุรกิจในประเทศไทย
ประเด็นที่ต้องขยายผลเชิงระบบ
การถือหุ้นแทนของคนไทยในบริษัทต่างชาติไม่ใช่เพียงประเด็นทางกฎหมาย แต่ยังแสดงให้เห็นความจำเป็นในการปรับปรุงระบบจัดซื้อจัดจ้างภาครัฐที่เกี่ยวข้องกับการคัดกรองคุณสมบัติของบริษัทเอกชนก่อนเข้าร่วมประมูลงาน
กรณีนี้ยังคงอยู่ในช่วงรวบรวมพยานหลักฐาน และยังไม่มีคำพิพากษาถึงความผิดของบุคคลใด ทุกฝ่ายยังคงมีสถานะเป็นผู้ถูกกล่าวหาตามกระบวนการยุติธรรม
มองภาพใหญ่: ผลกระทบต่อความมั่นคงทางเศรษฐกิจ
แม้เหตุการณ์นี้จะเริ่มต้นจากอุบัติเหตุในโครงการก่อสร้าง แต่ได้นำไปสู่การทบทวนกฎหมายและแนวทางบริหารความเสี่ยงในภาครัฐ โดยเฉพาะการป้องกันไม่ให้บุคคลหรือบริษัทต่างชาติแอบแฝงเข้ารับงานที่มีข้อห้ามโดยมิชอบ
หน่วยงานที่เกี่ยวข้องจำเป็นต้องดำเนินการอย่างรอบคอบและเป็นธรรม เพื่อให้ได้ข้อเท็จจริงที่ครบถ้วน และสร้างความเชื่อมั่นแก่สาธารณชนว่าระบบการใช้จ่ายงบประมาณและมาตรฐานความปลอดภัยในงานก่อสร้างภาครัฐจะได้รับการปฏิรูปอย่างจริงจัง