รีเซต

สสว. เปิดตัวมาตรการ “SME ปัง ตังได้คืน” ผ่านแพลตฟอร์มออนไลน์ BDS

สสว. เปิดตัวมาตรการ “SME ปัง ตังได้คืน” ผ่านแพลตฟอร์มออนไลน์ BDS
TNN ช่อง16
23 พฤษภาคม 2565 ( 16:44 )
110
สสว. เปิดตัวมาตรการ “SME ปัง ตังได้คืน” ผ่านแพลตฟอร์มออนไลน์ BDS

   สสว. แถลงข่าวมาตรการใหม่ล่าสุด “SME ปัง ตังได้คืน” ภายใต้โครงการส่งเสริมผู้ประกอบการผ่านระบบ BDS หรือ Business Development Service อัดฉีดงบกว่า 400 ล้านบาท ให้เอสเอ็มอีใช้บริการพัฒนาธุรกิจผ่านแพลตฟอร์มออนไลน์ BDS (https://bds.sme.go.th/) ตั้งเป้าปี 2565 ช่วยเอสเอ็มอีให้ได้กว่า 6,000 ราย   นายวีระพงศ์ มาลัย ผู้อำนวยการสำนักงานส่งเสริมวิสาหกิจขนาดกลางและขนาดย่อม (สสวฺ.) กล่าวว่า สสว. เริ่มดำเนินโครงการส่งเสริมผู้ประกอบการผ่านระบบ BDS หรือ Business Development Service มาตั้งแต่ต้น ปี 2565 มีวัตถุประสงค์เพื่อส่งเสริมและสนับสนุนผู้ประกอบการมีโอกาสเข้าถึงบริการสนับสนุนด้านการพัฒนาธุรกิจในรูปแบบใหม่ ซึ่งผู้ประกอบการสามารถเลือกประเภทของบริการที่ตรงกับความต้องการของธุรกิจตัวเองได้ เรียกว่า Business  Development Service  หรือ BDS โดย สสว. จะอุดหนุนค่าใช้จ่ายในการพัฒนาให้แก่ผู้ประกอบการ แบบร่วมด้วยช่วยจ่ายในสัดส่วนร้อยละ 50 – 80 ตามขนาดของธุรกิจ สูงสุดถึงรายละ 200,000 บาท


   ผอ.สสว. เผยอีกว่า ในปีนี้ สสว. ได้เตรียมงบประมาณเพื่อช่วยอุดหนุนผู้ประกอบการกว่า 400 ล้านบาท ให้ผู้ประกอบการกว่า 6,000 ราย มุ่งเน้นการอุดหนุนพัฒนาใน 3 ด้าน คือ การพัฒนาคุณภาพและมาตรฐานสินค้าและบริการ การพัฒนาช่องทางการจำหน่ายและการตลาด และการพัฒนาการตลาดต่างประเทศ   นายวีระพงศ์ กล่าวว่า แนวคิดหลักของมาตรการใหม่ล่าสุดของ สสว. ที่มีชื่อว่า SME ปัง ตังได้คืน คือ ต้องการช่วยเหลือผู้ประกอบการเอสเอ็มอีให้พลิกฟื้นและพัฒนาธุรกิจให้ก้าวเดินต่อไปได้อย่างมั่นคง โดยเบื้องต้น สสว. พิจารณาผู้ประกอบการใน 4 กลุ่มด้วยกัน ได้แก่ 1. กลุ่มท่องเที่ยว (Restart) เช่น โรงแรม ที่พัก ร้านอาหาร บริการเพื่อสุขภาพ นำเที่ยวหรือจำหน่ายของที่ระลึก เพื่อพลิกธุรกิจขานรับนโยบายเปิดประเทศ 2. กลุ่มผลิตอาหารและเครื่องดื่ม (Food) รวมไปถึงการผลิตยาและสมุนไพร 3. กลุ่มอุตสาหกรรม New S-Curve เช่น อุตสาหกรรมการบิน อากาศยานและเครื่องมือแพทย์ และ 4. กลุ่ม BCG เศรษฐกิจชีวภาพ เศรษฐกิจหมุนเวียน เศรษฐกิจสีเขียว กลุ่มเกษตรแปรรูป และการค้าและบริการอื่น ๆ

   “ข้อดีของมาตรการ SME ปัง ตังได้คืน คือ นอกจากเอสเอ็มอีจะโตขึ้นจากการพัฒนาบริการด้านมาตรฐานจนทำให้ธุรกิจเติบโตขึ้น จนปังแล้ว เอสเอ็มอีก็ต้องได้ตังคืนด้วย ซึ่งมองว่าได้ตังคืนสองต่อ คือ ตังได้คืน ต่อที่ 1 จากการที่เอสเอ็มอีพัฒนาเสร็จสิ้นแล้ว จะได้เงินคืนจาก สสว. 50 – 80% ไม่เกิน 200,000 บาท และตังได้คืน ต่อที่ 2 คือ หลังจากที่เอสเอ็มอีได้รับการพัฒนาธุรกิจจากการที่ได้รับมาตรฐานต่างๆ และได้กำไรกลับมาให้สู่ธุรกิจ” ผอ.สสว. ระบุ 

   ด้านคุณสมบัติของเอสเอ็มอีที่เข้าร่วมโครงการคือ กลุ่มธุรกิจ Micro SME หรือรายย่อย มีรายได้ 1.8 ล้านบาทต่อปี จะได้รับสิทธิ์ในการช่วยเหลืออุดหนุนค่าใช้จ่ายในการพัฒนาไม่เกิน 80% สูงสุดไม่เกิน 50,000 บาท กลุ่มธุรกิจขนาดย่อม ในภาคการผลิต มีรายได้ไม่เกิน 100 ล้านบาทต่อปี และภาคการค้า และภาคบริการ มีรายได้ไม่เกินปีละ 50 ล้านบาท รับเงินสนับสนุนร้อยละ 50 - 80 สูงสุดไม่เกิน 200,000 บาท โดย สสว. ตั้งเป้าจะพัฒนาและให้ความช่วยเหลือเอสเอ็มอี 6,000 ราย   สำหรับผู้ให้บริการทางธุรกิจซึ่งเป็นส่วนราชการ หน่วยงานภาครัฐ ที่มีความเชี่ยวชาญในการพัฒนาผู้ประกอบการเอสเอ็มอี ในด้านการยกระดับมาตรฐาน ด้านการตลาด ที่ขึ้นทะเบียนบนระบบ BDS เรียบร้อยแล้ว ขณะนี้มีจำนวนกว่า 80 หน่วยงาน และขึ้นบริการบนระบบแล้ว 100 บริการ ซึ่งบริการที่ได้รับความสนใจเป็นอันดับต้นๆ ได้แก่ บริการการจัดทำฉลากโภชนาการ บริการเตรียมความพร้อมเพื่อรับรองเครื่องหมายทางเลือกสุขภาพ บริการขออนุญาต อย. และบริการให้คำปรึกษาการจัดทำระบบมาตรฐานฮาลาล เป็นต้น ซึ่งคาดว่า หลังจากนี้ สสว. จะสร้างให้เกิดเครือข่ายความร่วมมือระหว่างหน่วยงานผู้ให้บริการทางธุรกิจ ที่มีเป้าหมายร่วมกันในการสร้างโอกาสและสร้างการเติบโตให้ผู้ประกอบการเอสเอ็มอีของไทย

   ผู้ประกอบการเอสเอ็มอีสามารถยื่นข้อเสนอเพื่อขอรับบริการและการพัฒนาในด้านต่าง ๆ อาทิ ด้านการพัฒนาคุณภาพและมาตรฐานสินค้าและบริการ ผ่านแพลตฟอร์มออนไลน์ BDS (https://bds.sme.go.th/) โดยขั้นตอนการรับบริการมีเพียง 3 ขั้นตอน คือ 

1) ยืนยันตัวตนเป็นผู้ประกอบการตามคุณสมบัติที่โครงการระบุ รอแจ้งผลอนุมัติผ่าน SMS และอีเมล 

2) ลงทะเบียนเข้าร่วมโครงการฯ เมื่อได้รับการอนุมัติ เอสเอ็มอีต้องเลือกผู้ให้บริการที่สนใจ แล้วจึงจัดทำข้อเสนอการพัฒนาบนระบบ พร้อมแนบใบเสนอราคาตามแพ็กเกจที่เลือกมาบนระบบ รอแจ้งผลอนุมัติผ่าน SME และอีเมล

3) ทำสัญญาข้อตกลงกับ สสว. และเริ่มการพัฒนากับหน่วยธุรกิจที่ได้เลือกไว้ เมื่อเสร็จสิ้นจึงนำใบเสร็จมาเบิกค่าใช้จ่ายที่ สสว. โดยปัจจุบันเปิดให้บริการแล้ว และเอสเอ็มอีสามารถยื่นขอรับการพัฒนาได้ถึง 31 กรกฎาคม 2565 และพัฒนาจนเสร็จสิ้นได้ถึง 30 กันยายน 2565 สนใจดูรายละเอียดได้ที่ https://bds.sme.go.th/ หรือ โทร. 1301 หรือโทร. 0 22983190 หรือ 0 2298 3050 หรือติดต่อที่ศูนย์ให้บริการ SME ครบวงจร (ศูนย์ OSS ประจำจังหวัดทุกจังหวัด) 

ยอดนิยมในตอนนี้

แท็กยอดนิยม

ข่าวที่เกี่ยวข้อง