'พระเทพปริยัติ' กำชับพระในปกครองอยู่ในพระธรรมวินัย ชี้แก๊งหมูกระทะขอบวชใหม่ ให้พระอุปัชฌาย์พิจารณา
‘พระเทพปริยัติ’ เจ้าคณะจังหวัดเชียงใหม่ เผยพระสงฆ์ปาร์ตี้หมูกระทะ-ดื่มแอลกอฮอล์ จบทางโลก-ทางธรรมหลังลาสิกขาแล้ว บอกเป็นคนปกติทั่วไป ไม่เกี่ยวกับวงการสงฆ์อีก กำชับเจ้าคณะอำเภอดูแลสอดส่องพระในปกครอง ปฏิบัติตนให้ ปชช.เคารพศรัทธา ถ้าขอบวชใหม่ ให้พระอุปัชฌาย์เป็นผู้พิจารณา ตรวจสอบประวัติอาชญากรรม-ศาลตัดสินลงโทษแล้วหรือไม่
ข่าววันนี้ 31 สิงหาคม พระเทพปริยัติ เจ้าอาวาสวัดเจ็ดยอด พระอารามหลวง ต.ช้างเผือก อ.เมือง จ.เชียงใหม่ ในฐานะเจ้าคณะจังหวัดเชียงใหม่ เผยถึงอดีตพระสงฆ์ 7 รูป พร้อมลูกศิษย์ จัดปาร์ตี้หมูกระทะ พร้อมดื่มแอลกอฮอล์ในกุฎิวัดปันเสา ต.ศรีภูมิ อ.เมือง จนเจ้าหน้าที่จับกุม ก่อนศาลสั่งจำคุกและปรับเงิน จากนั้นพระสงฆ์ 7 รูปได้ลาสิกขาไปแล้วนั้น ว่าเรื่องดังกล่าวเป็นเรื่องส่วนบุคคลที่ไม่ปฏิบัติตามพระธรรมวินัย ซึ่งพระสงฆ์ดังกล่าวยอมรับสารภาพที่มั่วสุม และฝ่าฝืนคำสั่งคณะกรรมการควบคุมโรคติดต่อจังหวัด จนถูกศาลตัดสินลงโทษจำคุก 15 วัน แต่ให้รอลงอาญา 1 ปี และได้ลาสิกขาด้วยความสมัครใจแล้ว ซึ่งถือว่าสิ้นสุดการพิจารณาคดีในทางโลกและทางธรรมแล้ว เพราะพระดังกล่าวได้ลาบวชและสึกออกไปเป็นคนปกติทั่วไปแล้ว
ไม่เกี่ยวข้องกับวงการสงฆ์และพระพุทธศาสนาอีก
พระเทพปริยัติกล่าวว่า ส่วนมาตรการควบคุมดูแลวัดกว่า 2,000 แห่ง และพระสงฆ์ สามเณรที่มีอยู่กว่า 10,000 รูปนั้น มีคณะสงฆ์ปกครองทุกระดับชั้น ภายใต้การบริหารจัดการของมหาเถรสมาคม ได้วางมาตรการควบคุมดูแลวัดและพระสงฆ์มานานแล้ว ทั้งนี้ ได้พูดคุยและกำชับพระในปกครองให้อยู่ในพระธรรมวินัย และกฎระเบียบมหาเถรสมาคมอยู่ตลอด ไม่ได้ปล่อยปละละเลย หลังจากนี้ได้กำชับไปยังเจ้าคณะอำเภอ 25 อำเภอ สั่งการไปยังเจ้าคณะตำบลให้สอดส่องดูแลพระในปกครองเข้มงวดมากขึ้น เพื่อรักษาพระธรรมวินัย พร้อมปฏิบัติตนให้ประชาชนเคารพศรัทธา และเป็นที่ยอมรับของสังคม เพื่อฟื้นฟูและเผยแผ่พระพุทธศาสนาให้เจริญงอกงามกว่าเดิม ภายใต้คำสอนขององค์สัมมาสัมพุทธเจ้า ทั้งนี้ ไม่ได้เรียกประชุมคณะสงฆ์ปกครอง เพื่อชี้แจงและทำความเข้าใจเรื่องดังกล่าว เนื่องจากเป็นช่วงโควิดระบาด และมีคำสั่งห้ามชุมนุมหรือทำกิจกรรมเกิน 20 คนขึ้นไป
ผู้สื่อข่าวถามว่า หากพระสงฆ์ 7 รูปที่ลาสิกขาไปแล้ว ขอกลับมาบวชใหม่ได้หรือไม่ พระเทพปริยัติกล่าวว่า เป็นอำนาจหน้าที่ของพระอุปัชฌาย์พิจารณา โดยเฉพาะเจ้าคณะอำเภอ ต้องพิจารณาร่วมกับเจ้าคณะตำบลว่า เห็นชอบหรือไม่ พร้อมตรวจสอบว่ามีทะเบียนประวัติอาชญากรรม หรือศาลตัดสินลงโทษแล้วหรือไม่ เพื่อประกอบการขอบวชเป็นพระสงฆ์ ซึ่งเป็นไปตามระเบียบขั้นตอนของพระราชบัญญัติ (พ.ร.บ.) คณะสงฆ์ พ.ศ.2505 และแก้ไขเพิ่มเติมด้วย