รีเซต

SAPPEพร้อมจ่ายปันผล2.18บ. ตลาดใน-นอกดันงบโค้งแรกดี

SAPPEพร้อมจ่ายปันผล2.18บ. ตลาดใน-นอกดันงบโค้งแรกดี
ทันหุ้น
23 เมษายน 2567 ( 11:27 )
3
SAPPEพร้อมจ่ายปันผล2.18บ. ตลาดใน-นอกดันงบโค้งแรกดี

#SAPPE #ทันหุ้น –SAPPE อนุมัติปันผลปี 2566 ที่ 2.18 บาทต่อหุ้น คิดเป็นจำนวนเงินรวมทั้งสิ้น 672.1 ล้านบาท แย้มงบไตรมาส 1/66 สดใส ยอดขายในประเทศเติบโตดี หน้าร้อนหนุน พร้อมต่างประเทศเติบโต ยุโรปยอดเข้าต่อเนื่อง เล็งออกสินค้าเพิ่มอีก 20 SKU รองรับดีมานด์  แถมช่องทางไลน์ช่วยกระตุ้นยอด ทั้งปีคงเป้ายอดขายรวม 20-25% โบรกมองกำไรปกติไตรมาส 1/2567 กลับมาทำ New High ที่ 1,824 ล้านบาท ชี้เป้าราคา 110.00 บาท

 

นายชินวิทย์ เลิศบรรณพงษ์ นักลงทุนสัมพันธ์ บริษัท เซ็ปเป้ จำกัด (มหาชน) หรือ SAPPE เปิดเผยว่า  ล่าสุดคณะกรรมการบริษัทร่วมประชุมสามัญผู้ถือหุ้นประจำปี 2567 (AGM) เพื่อแจ้งผลการดำเนินงานปี 2566 ซึ่งสามารถสร้างสถิติใหม่สูงสุดเป็นประวัติการณ์อย่างต่อเนื่อง โดยมีรายได้จากการขาย 6,052.6 ล้านบาท เติบโต 32.5% และทำกำไรสุทธิ 1,074.2 ล้านบาท เพิ่มขึ้น 64.5% จากปีก่อน ที่ประชุมผู้ถือหุ้นได้อนุมัติแผนการจ่ายเงินปันผลจากกำไรสุทธิปี 2566 ในอัตรา 2.18 บาทต่อหุ้น คิดเป็นจำนวนเงินรวมทั้งสิ้น 672.1 ล้านบาท เตรียมขึ้นเครื่องหมาย XD ในวันที่ 24เมษายน 2567 ผู้ถือหุ้นเตรียมรับเงินปันผลในวันที่ 17 พฤษภาคม 2567

 

*หน้าร้อนหนุนยอดขาย

 

อย่างไรก็ดีผลประกอบการไตรมาส 1/2567 คาดว่าจะเติบโตได้ตามเป้าหมาย โดยยอดขายในประเทศเติบโตได้ดี โดยเฉพาะช่วงฤดูร้อน ทำให้เครื่องดื่มขายดี  เช่น แบรนด์ B'lue สามารถทำยอดขายได้ดี ส่วนตลาดต่างประเทศก็เติบโตได้ตามเป้าหมาย โดยกลุ่มสินค้าโมกุ โมกุ ยังได้รับความนิยมต่อเนื่อง โดยสัดส่วนยอดขายยังมาจากต่างประเทศกว่า 80% โดยปีนี้ยังเดินหน้าในการออกสินค้าใหม่อีกกว่า 20 SKU เพื่อรองรับความต้องการของลูกค้า พร้อมกันนี้ยังเดินหน้าในการขยายช่องทางออนไลน์ที่จะเป็นส่วนช่วยผลักดันยอดขายทั้ง แพลตฟอร์มออนไลน์ Facebook : Sappe Beauti Drink และ Tiktok : Sappeonline  แม้สัดส่วนยอดขายจากออนไลน์อาจจะยังไม่สูงมาก แต่ก็เป็นอีกหนึ่งช่องทางที่จะทำให้ลูกค้ารู้จักสินค้าของบริษัท และต่อยอดการขายออฟไลน์ได้ ดังนั้นเชื่อว่าปีนี้ยอดขายจะเติบโต 20-25% จากปีก่อน

 

“ช่วงหน้าร้อนนี้ ตลาดในประเทศก็เติบโตได้ดี เครื่องดื่มก็ถือว่าได้รับความนิยม ส่วนตลาดต่างประเทศที่เป็นเป้าหมายหลักของบริษัทก็ยังเติบโตได้ดีเช่นเดียวกัน ส่วนกลุ่มตะวันออกกลางแม้มีเรื่องสถานการณ์สงคราม บริษัทก็มีการสต็อคสินค้าไว้รองรับ มองว่ายังไม่ได้รับผลกระทบอย่างมีนัยสำคัญ ปัจจุบันสัดส่วนยอดขายจากตะวันออกกลางอยู่ที่ราว 13% ดังนั้นปีนี้ยังเดินหน้าในการออกสินค้าใหม่ การทำการตลาดต่างๆ การเพิ่มช่องทางออนไลน์ และเชื่อว่ายอดขายจะทำได้ตามเป้าหมายที่วางไว้ “นายชินวิทย์ กล่าว

 

*จับตาไตรมาส 1 ทำนิวไฮ

 

บริษัทหลักทรัพย์ หยวนต้า (ประเทศไทย) จำกัด ระบุถึง SAPPE คาดยอดขายใน ไตรมาส 1/2567 ที่ 1,824 ล้านบาท (+50.9% QoQ, +20.0% YoY) แม้ยอดคำสั่งซื้อจากภูมิภาคยุโรปจะชะลอตัวลงไตรมาสก่อนหน้า เนื่องจากเป็นช่วงฤดูหนาว แต่จะชดเชยได้จากกระแสความนิยมในตะวันออกกลางและสหรัฐที่สูงขึ้นอย่างต่อเนื่อง ประกอบกับการออกสินค้าใหม่ 5 SKUs และการเริ่มรีแบรนด์“เซ็ปเป้ บิวติ” ให้สามารถเข้าถึงผู้บริโภคยุคใหม่มากขึ้น และการเปลี่ยนผู้จัดจำหน่ายในประเทศ

 

ขณะที่ราคาน้ำตาลที่ปรับตัวสูงขึ้น มองว่าบริษัทจะได้รับผลกระทบจำกัดเนื่องจากมีการล็อกราคาไว้แล้วตั้งแต่ในช่วง ไตรมาส 4/2566 ประกอบกับการรับรู้ค่าเงินบาทเทียบ USD ที่อ่อนค่า (สัดส่วนส่งออก 81% ของยอดขาย)และ U-rate ที่สูงขึ้น หนุนให้ GPM คาดอยู่ที่ 45.0% ลดลงจาก 45.3% ใน 4Q/66ส่วนค่าใช้จ่าย SG&A/Sales คาดลดลง QoQ กลับเข้าสู่ระดับปกติแล้ว เนื่องจากไม่มีค่าใช้จ่ายโบนัสพนักงาน แต่ยังสูงขึ้นYoY จากการทำการตลาดมากขึ้นทั้งในและต่างประเทศ แต่ใน ไตรมาส 1/2567บริษัทจะรับรู้ขาดทุนจากอัตราแลกเปลี่ยนราว 20 ล้านบาท ส่งผลให้เราคาดกำไรสุทธิที่ 317 ล้านบาท (+88.8% QoQ, +15.4% YoY) และหากหักรายการพิเศษกำไรปกติจะอยู่ที่ 337 ล้านบาท (+123.8% QoQ, +20.5% YoY) ทำNew High

 

ประเมินว่ากำไรปกติของ SAPPE จะสามารถทำ New High ต่อจนถึงไตรมาส 3/2567 เนื่องจากในไตรมาส 2/2567 บริษัทจะรับรู้กำลังการผลิตใหม่เต็มไตรมาส (+25.0% YoY) และลูกค้าในยุโรปที่กลับมาสั่งซื้อสินค้ามากขึ้น คาดกำไรปกติจะทำระดับสูงสุดของปี เนื่องจากเป็นช่วง High Season ของธุรกิจที่เป็นช่วงฤดูร้อนของภูมิภาคยุโรป และการได้รับอานิสงส์เชิงบวกจากงาน Olympic Summer ที่กรุงปารีส ประเทศฝรั่งเศส ซึ่งคาดจะส่งผลให้จำนวนนักท่องเที่ยวในยุโรปสูงขึ้น เป็นบวกต่อการบริโภคสินค้าในกลุ่มอาหารและเครื่องดื่ม โดยยังคงประมาณการกำไรปกติปี 2567 ที่ 1,345 ล้านบาท (+24.0% YoY) และคงราคาเหมาะสม ณ สิ้นปี 2567 ที่ 110.00 บาท

 

ยอดนิยมในตอนนี้

แท็กยอดนิยม

ข่าวที่เกี่ยวข้อง