ยอดดับโควิด-19 'อังกฤษ' พุ่งสูงอีกครั้ง เริ่มล็อกดาวน์พฤหัสฯ นี้
ลอนดอน, 4 พ.ย. (ซินหัว) -- เมื่อวันอังคาร (3 พ.ย.) ทางการสหราชอาณาจักรเปิดเผยว่ายอดผู้เสียชีวิตจากโรคติดเชื้อไวรัสโคโรนาสายพันธุ์ใหม่ (โควิด-19) ในสหราชอาณาจักรเพิ่มขึ้น 397 ราย รวมเป็น 47,250 ราย ถือเป็นสถิติการเพิ่มขึ้นรายวันสูงสุดนับตั้งแต่เดือนพฤษภาคมขณะเดียวกันสหราชอาณาจักรตรวจพบผู้ป่วยโรคโควิด-19 เพิ่ม 20,018 ราย ทำให้ยอดผู้ป่วยสะสมในประเทศอยู่ที่ 1,073,882 ราย โดยตัวเลขเหล่านี้เกิดขึ้นขณะสหราชอาณาจักรเตรียมดำเนินมาตรการล็อกดาวน์นาน 1 เดือน นับตั้งแต่วันพฤหัสบดี (5 พ.ย.) เพื่อยับยั้งการกลับมาแพร่ระบาดของโรคโควิด-19
คริส วิตตี หัวหน้าเจ้าหน้าที่การแพทย์ของสหราชอาณาจักร ได้สนับสนุนการตัดสินใจของรัฐบาล โดยกล่าวว่าจุดมุ่งหมายของการล็อกดาวน์ครั้งใหม่ ซึ่งถือเป็นครั้งที่ 2 นับตั้งแต่เกิดการระบาดของโรคร้ายนี้ในสหราชอาณาจักร คือลดอัตราการติดเชื้อเพื่อนำพาประเทศสู่สภาวะใหม่ในเดือนธันวาคม"จุดมุ่งหมายของการตัดสินใจนี้คือลดตัวเลขผู้ป่วยและผู้เสียชีวิตลงให้มากเท่าที่จะทำได้ เพื่อก้าวสู่สภาวะที่แตกต่างจากเดิม" วิตตีกล่าวตอบฝ่ายนิติบัญญัติของสหราชอาณาจักร
คำสั่งล็อกดาวน์ครั้งใหม่ ซึ่งจะมีผลจนถึงวันที่ 2 ธ.ค. กำหนดให้ผู้คนในสหราชอาณาจักรสามารถออกจากบ้านด้วยเหตุผลบางประการเท่านั้น เช่น การศึกษา การทำงาน หรือการซื้ออาหาร ส่วนผับ บาร์ และร้านอาหารทั่วประเทศจะเปิดให้บริการแบบซื้อกลับบ้านเท่านั้น ส่วนร้านค้าที่ไม่จำเป็น ร้านทำผม สถานสันทนาการและสถานบันเทิงจะปิดให้บริการขณะเดียวกันผู้คนจากต่างครัวเรือนจะถูกห้ามพบปะกัน แต่ซัพพอร์ต บับเบิล (support bubble - เครือข่ายที่อนุญาตให้ครัวเรือนที่มีผู้ใหญ่ 1 คน ติดต่อใกล้ชิดกับครัวเรือนขนาดใดก็ได้ 1 ครัวเรือน) และไชลด์แคร์ บับเบิล (childcare bubble - เครือข่ายที่อนุญาตให้ 1 ครัวเรือน ดูแลเด็ก 1 คนของครัวเรือนอื่นที่อายุเทียบเท่าหรือต่ำกว่า 13 ปีได้) จะยังคงอยู่โรงยิมจะปิดให้บริการแต่ผู้คนยังสามารถออกกำลังกายกลางแจ้งได้ โดยมีคนจากต่างครัวเรือนเข้าร่วมด้วยได้มากสุด 1 คนเท่านั้น ด้านโรงเรียน วิทยาลัย และมหาวิทยาลัยจะยังคงเปิดทำการ และผู้ที่ไม่สามารถทำงานจากที่บ้านได้ เช่น คนงานก่อสร้างหรือคนงานสายการผลิต จะได้รับการสนับสนุนให้ทำงานต่อได้