เลือกตั้ง’69 พรรคประชาชนเดินหน้าเต็มรูปแบบ ชูภารกิจ “รัฐธรรมนูญใหม่” เป็นเดิมพันการเมืองไทย

เลือกตั้ง’69 พรรคประชาชนเดินหน้าเต็มรูปแบบ ชูภารกิจ “รัฐธรรมนูญใหม่” เป็นเดิมพันการเมืองไทย

การยุบสภาที่เกิดขึ้นอย่างฉับพลันได้เปลี่ยนสนามการเมืองไทยสู่โหมดเลือกตั้งทันที พรรคประชาชนจึงออกมา “ประกาศความพร้อม” และกำหนดทิศทางการต่อสู้ทางการเมืองครั้งใหม่อย่างชัดเจน โดยเฉพาะการผลักดัน รัฐธรรมนูญฉบับใหม่ ที่พรรคมองว่าเป็นเงื่อนไขสำคัญที่สุดต่ออนาคตประเทศ การแถลงล่าสุดจึงไม่ใช่เพียงการเปิดตัวคณะผู้บริหาร แต่คือการตั้งโจทย์ทางการเมืองต่อทั้งรัฐบาลและประชาชนในคราวเดียวกัน

1) ส่งครบทุกจังหวัด ตั้งเป้าเพิ่มพลังเสียงประชาชนให้ “แข็งแรงพอ” ต่อสู้กติกาเดิม

นายณัฐพงษ์ เรืองปัญญาวุฒิ หัวหน้าพรรคประชาชน ระบุว่าพรรคเตรียมส่งผู้สมัครครบทุกจังหวัด เพื่อสร้างฐานเสียงให้เข้มแข็งมากขึ้น โดยมองว่าการเมืองตลอดช่วงปี 2562–2566 สะท้อนข้อจำกัดเชิงโครงสร้างที่ทำให้เสียงของประชาชนไม่สามารถเปลี่ยนเป็นอำนาจทางการเมืองได้เต็มที่
พรรคจึงเน้นว่า การเลือกตั้งครั้งนี้ไม่ใช่การแข่งขันเก้าอี้รัฐมนตรี แต่เป็น “การสร้างพลังประชาชนให้มากพอ” เพื่อรื้อกติกาที่พรรคมองว่าเป็นอุปสรรคต่อประชาธิปไตยไทยมายาวนาน

2) เส้นทางสู่รธน.ใหม่ ย้อนบทเรียนพรรคถูกยุบ–นายกฯ ถูกถอดถอน 2 คน ใน 2 ปี

พรรคประชาชนวิเคราะห์เหตุการณ์ทางการเมืองในช่วงสองปีที่ผ่านมา ตั้งแต่การยุบพรรคก้าวไกล การไม่สามารถจัดตั้งรัฐบาลปี 2566 ไปจนถึงการถอดถอนนายกรัฐมนตรีสองรายว่าเป็น “อาการของปัญหาเชิงระบบ” มากกว่าจะเป็นความล้มเหลวของพรรคการเมืองใดพรรคหนึ่ง
ดังนั้น พรรคจึงชูภารกิจการจัดทำรัฐธรรมนูญฉบับใหม่เป็นหัวใจหลักของการเลือกตั้ง 2569 พร้อมระบุว่าหากไม่มีการแก้กติกาสูงสุด ประเทศไทยจะเดินหน้าได้ยากในทุกด้าน

3) แตกหัก MOA ปมเสียง สว. 1 ใน 3 เท้งตั้งคำถามตรงถึงนายกฯ

หลังสภาล่มการแก้มาตรา 256/28 เพราะพรรคภูมิใจไทยลงมติสวนมติวิปรัฐบาล พรรคประชาชนชี้ว่า นี่คือจุดที่ทำให้ความร่วมมือภายใต้ MOA พังลง เนื่องจากเป็นประเด็นที่กระทบต่อหัวใจของการแก้รัฐธรรมนูญ
แม้นายณัฐพงษ์ย้ำว่า MOA เป็นกรอบกว้าง ไม่ได้ระบุรายละเอียดทุกประเด็น แต่การที่ภูมิใจไทยเปลี่ยนท่าทีในชั่วโมงสุดท้าย เป็นสิ่งที่ “ต้องถามนายกรัฐมนตรีโดยตรง” ว่าทำไมมติพรรคจึงสวนทางกับท่าทีที่เคยยืนยันในกรรมาธิการและในการหารือก่อนหน้า
พรรคประชาชนระบุว่าไม่สามารถยอมรับร่างรัฐธรรมนูญที่ยังคงอำนาจ สว. 1 ใน 3 ได้ และนี่คือสาเหตุสำคัญของความผิดหวังต่อภารกิจในสภาที่ไม่อาจสำเร็จได้ในครั้งนี้

4) ประชามติยังเดินหน้า พรรคชูเลือกตั้งครั้งนี้คือ “เกมตัดสินรธน.ใหม่”

แม้สภาถูกยุบ แต่พรรคประชาชนชี้ว่ารัฐสภาได้อนุมัติให้ทำประชามติแล้ว ซึ่งถือเป็นพันธะทางกฎหมายที่รัฐบาลรักษาการต้องเดินหน้าต่อ
การเลือกตั้งครั้งนี้จึงถูกตีความว่าเป็น “ประชามติทางการเมือง” ว่าประชาชนต้องการรัฐธรรมนูญฉบับใหม่หรือไม่ พรรคย้ำว่าหากได้เสียงสนับสนุนมากพอ จะมีโอกาสผลักดันร่างฉบับใหม่อย่างเต็มรูปแบบในรัฐบาลชุดถัดไป