'หมอยง' ชี้ บอกความจริงกับหมอ คือ 'ความซื่อสัตย์' ที่จะช่วยควบคุมโควิดได้
‘หมอยง’ ชี้ บอกความจริงกับหมอ คือ ‘ความซื่อสัตย์’ ที่จะช่วยควบคุมโรคโควิดได้
เมื่อวันที่ 3 พฤษภาคม ศาสตราจารย์นายแพทย์ยง ภู่วรวรรณ หัวหน้าศูนย์เชี่ยวชาญเฉพาะทางด้านไวรัสวิทยา คลินิกภาควิชากุมารเวชศาสตร์ คณะแพทยศาสตร์ จุฬาลงกรณ์มหาวิทยาลัย ได้โพสต์ข้อความลงในเฟซบุ๊กส่วนตัว “Yong Poovorawan” เกี่ยวกับเรื่อง “โควิด 19 กับความซื่อสัตย์” ความว่า
เมื่อวานเล่าเรื่องคุณหมอโนกุจิ วันนี้ขอเล่าต่อ ในภาวะที่มีการระบาดของโรค โควิด 19 และในยามปกติ
สิ่งที่สำคัญอีกอย่างหนึ่งคือ “ความซื่อสัตย์” ผู้ป่วยไปหาหมอถ้าไม่บอกความจริงทั้งหมด ก็จะทำให้บุคลากรทางการแพทย์ติดโรคเป็นจำนวนมาก ที่ผ่านมามีโรงพยาบาล แห่งหนึ่งติดโรค จากผู้ป่วยอยู่คนเดียว ทำให้บุคลากรทางการแพทย์ ติดโรคไปร่วม 10 คน
ถ้าเราเป็นกลุ่มเสียงสัมผัสโรคมา หรือไม่สบายเจ็บป่วย ควรบอกความจริง กับแพทย์ผู้รักษา ตั้งแต่การตรวจกรองเข้าโรงพยาบาลตามความเป็นจริง การบริจาคโลหิตก็เช่นเดียวกัน จะมีให้กรอกข้อมูล ก็ขอให้บอกตามความเป็นจริง
คุณหมอโนกุจิ มีความคิดและเป็นนโยบายส่วนตัว เน้นถึงความซื่อสัตย์ ผมได้เห็นบันทึกของคุณหมอ และบทความที่ตีพิมพ์ในวารสาร American J Trop Med Hyg ในปี 1928 เชื่อเลยว่าคุณหมอเป็นคนซื่อสัตย์มาก ในบทความนี้ เขียนการทดลองที่ใช้เชื้อไข้เหลือง จากคนไข้ชื่อ อาชีบี้ ไปฉีดให้ลิง ลิงเสียชีวิตจากไข้เหลือง แต่คนไข้ อาชีบี้ ไม่ตาย และต่อมาไวรัสของคนไข้ ที่เอามาทำวัคซีน ไข้เหลือง จึงชื่อว่า อาชีบี้ ที่เราใช้อยู่ทุกวันนี้
ถ้าใครอ่านหนังสือการ์ตูนถึงตอนนี้ จะทราบว่าท่านได้ทำร่วมกับหมอหลายคน ในการหาเชื้อก่อโรคที่ทำให้เกิดไข้เหลือง และใช้ลิงเป็นสัตว์ทดลอง จุดอวสานของท่าน ท่านติดโรคไข้เหลือง ที่ได้รับจากลิงในการทดลอง และเสียชีวิตก่อนวัยอันควร ในหน้าที่การงาน ที่หลุมศพของคุณหมอโนกุจิ ถ้าใครไปมา จะได้เห็น ลายมือของคุณหมอ noguchi เขียนไว้ ว่า ความซื่อสัตย์เป็นนโยบายที่ดีที่สุดของเรา
จึงอยากสอนให้ทุกคนมีความซื่อสัตย์ไม่ว่าจะเป็นหมอหรือไม่ใช่เป็นหมอ
ในการควบคุมโรคระบาด โควิด 19 นอกจากความซื่อสัตย์แล้วยังต้องอาศัยระเบียบวินัย ถ้าทุกคนช่วยกันมีระเบียบวินัย ปฏิบัติตามคำแนะนำ ให้มากที่สุด คงไม่ต้องใช้กฎหมายโรคติดต่ออันตรายมาบังคับ เราก็จะสามารถควบคุมการระบาดของโรคได้ หรือแม้แต่การระบาดก็จะทำให้เกิดการสูญเสียน้อยที่สุด
ยังมีอีกหลายตอนที่คุณหมอโนกุจิ ได้พยายามต่อสู้กับโรคระบาด เช่นโรคกาฬโรคในจีน โรคซิฟิลิสในอเมริกา และไข้เหลืองในแอฟริกา จะได้นำมาเล่าต่อไป