อีคอมเมิร์ซจีนเดือด JD–Alibaba สงครามราคาเขย่ากำไร

สำนักข่าวรอยเตอร์ รายงานว่า การแข่งขันในธุรกิจอีคอมเมิร์ซจีนกำลังทวีความดุเดือด โดยเฉพาะในตลาด "อินสแตนต์รีเทล" หรือการส่งสินค้าภายในหนึ่งชั่วโมง ซึ่งกำลังได้รับความนิยมสูงในหมู่ผู้บริโภค บริษัทชั้นนำอย่าง Alibaba, JD.com และ Meituan ต่างอัดแคมเปญส่วนลดและคูปองจำนวนมาก เพื่อแย่งชิงส่วนแบ่งตลาด แต่กลยุทธ์นี้กลับทำให้กำไรระยะสั้นและระยะกลางถูกกดดันอย่างหนัก
นักวิเคราะห์ประเมินว่าเพียงไตรมาสสองของปีนี้ เงินสดที่ใช้เผาในสงครามราคาอาจสูงกว่า 4 พันล้านดอลลาร์สหรัฐ และมีแนวโน้มเพิ่มขึ้นอีก โดย S&P Global คาดว่าในช่วง 12–18 เดือนข้างหน้า บริษัทยักษ์ใหญ่ทั้งสามจะต้องทุ่มงบรวมไม่ต่ำกว่า 160,000 ล้านหยวน หรือราว 22.37 พันล้านดอลลาร์สหรัฐ เพื่อป้องกันและขยายส่วนแบ่งตลาด
ความเคลื่อนไหวครั้งนี้ยังดึงดูดความสนใจจากภาครัฐ เนื่องจากจีนกำลังเผชิญแรงกดดันด้านเศรษฐกิจ ทั้งจากราคาที่อยู่อาศัยอ่อนตัว ความไม่มั่นคงในตลาดแรงงาน และการใช้จ่ายผู้บริโภคที่ซบเซา ทำให้รัฐบาลกังวลว่าสงครามราคาจะยิ่งซ้ำเติมภาวะเงินฝืด
ผู้บริหารหลายค่ายแสดงความกังวลเช่นกัน ซีอีโอของ JD.com เตือนว่าการแข่งขันที่รุนแรงเกินไป ไม่อาจยั่งยืนได้ ขณะที่ซีอีโอ Meituan ชี้ว่านี่คือ เฟสใหม่ของการแข่งขัน ส่วนผู้บริหาร PDD Holdings ก็ยอมรับว่าแรงกดดันในอุตสาหกรรมเพิ่มขึ้นต่อเนื่อง
ด้านผลประกอบการ Meituan อาจได้รับผลกระทบหนักที่สุด เพราะธุรกิจดิลิเวอรีคือรายได้หลัก ขณะที่ JD.com ขาดทุนจากการส่งอาหารจนเกือบลบกำไรไตรมาสสองทั้งหมด ส่วน Alibaba แม้จะมีธุรกิจ Ele.me แต่สัดส่วนในรายได้ยังไม่ใหญ่เท่าไร
แม้สงครามราคาจะกดดันกำไร แต่องค์กรต่างก็ยังเชื่อในผลลัพธ์ระยะยาว เช่น Alibaba คาดว่าตลาดอินสแตนต์รีเทลอาจสร้างมูลค่าเพิ่มถึง 1 ล้านล้านหยวน ในอีกสามปีข้างหน้า และจะดึงผู้ใช้ใหม่เข้าสู่แพลตฟอร์มอีคอมเมิร์ซหลักมากขึ้น
อย่างไรก็ตาม รัฐบาลจีนได้ส่งสัญญาณชัดเจนให้ผู้เล่นรายใหญ่หลีกเลี่ยงการแข่งขันแบบตัดราคาไม่สิ้นสุด บริษัทชั้นนำทั้งสามต่างออกแถลงการณ์ในเดือนกรกฎาคมว่าจะร่วมมือกับนโยบายรัฐเพื่อควบคุมสงครามราคา และคาดว่าการแข่งขันจะค่อย ๆ ถูกปรับให้อยู่ในระดับที่สมดุลมากขึ้นในอนาคต
Tag
ยอดนิยมในตอนนี้
