ขับรถเร็วเกินกำหนดยังเป็นสาเหตุหลักอุบัติเหตุทางรถยนต์ 69%
วันนี้ ( 12 มี.ค.64) กรมทางหลวง โดยสำนักอำนวยความปลอดภัย ได้สรุปรายงานข้อมูลอุบัติเหตุบนทางหลวงทั่วประเทศประจำ เดือนกุมภาพันธ์ 2564 จากการรายงานอุบัติเหตุทางระบบ HAIMS พบว่า อุบัติเหตุเกิดขึ้นบนทางหลวงในความรับผิดชอบของกรมทางหลวง จำนวน 1,157 ครั้ง ทำให้มีผู้เสียชีวิต 156 คน ได้รับบาดเจ็บทั้งสิ้น 884 คน จำนวน รถที่เกิดอุบัติเหตุ 1,811 คัน เป็นเหตุให้ทรัพย์สินของกรมทางหลวงเสียหายประมาณ 11 ล้านบาท เมื่อเปรียบเทียบสถิติอุบัติเหตุประจำเดือนกุมภาพันธ์ 2563 จำนวนอุบัติเหตุลดลงจากปีที่ผ่านมา 23% ผู้เสียชีวิตลดลง 40% บาดเจ็บลดลง 36% จำนวนรถที่เกิดอุบัติเหตุลดลง 23%
โดยสาเหตุหลักการเกิดอุบัติเหตุมาจากผู้ขับขี่ขับรถด้วยความเร็วสูงกว่ากฎหมายกำหนด 69% (796 ครั้ง) รองลงมาได้แก่ การตัดหน้าระยะกระชั้นชิด 8% (87 ครั้ง) หลับใน 4% (57 ครั้ง) และอุปกรณ์รถบกพร่อง 4% (52 ครั้ง)
สำหรับอุบัติเหตุส่วนใหญ่เกิดบริเวณทางตรง 68% (784 ครั้ง) ทางโค้งปกติ 13% (148 ครั้ง) และทางแยกระดับเดียวกัน 8% (80 ครั้ง) ยานพาหนะที่เกิดอุบัติเหตุส่วนใหญ่ ได้แก่ รถปิคอัพบรรทุก 4 ล้อ37% (678 คัน) รถยนต์นั่ง 29% (528 คัน) และรถจักรยานยนต์ 12% (226 คัน) ซึ่งหากจำแนกตามภาคของการเกิดอุบัติเหตุพบว่าเส้นทางในภาคเหนือเกิดอุบัติเหตุสูงสุด 24% ภาคตะวันออกเฉียงเหนือ 20% และภาคใต้ 12% นอกจากนี้ ทางหลวงที่เกิดอุบัติเหตุสูงสุด คือ ทางหลวงหมายเลข 7 ตอน แขวงคลองสองต้นนุ่น – พิมพา จำนวน 42 ครั้ง หากจำแนกตามรายจังหวัดพบว่ากรุงเทพมหานคร เกิดอุบัติเหตุสูงสุด รองลงมาได้แก่ จังหวัดสุพรรณบุรี และจังหวัดชลบุรี ตามลำดับ
อย่างไรก็ตาม กรมทางหลวงได้มีมาตรการแก้ไขที่ได้ดำเนินการร่วมกับตำรวจทางหลวงในการบังคับใช้กฎหมายอย่างต่อเนื่อง โดยเฉพาะการตรวจจับความเร็วยานพาหนะที่วิ่งบนทางหลวง ซึ่งเป็นมาตรการที่สำคัญในการลดและป้องกันอุบัติเหตุที่อาจเกิดขึ้น กรมทางหลวงขอความร่วมมือผู้ใช้ทางโปรดขับขี่ด้วยความระมัดระวัง เพื่อความปลอดภัยทั้งผู็ขับขี่และผู้ร่วมทาง รวมถึงป้องกันและลดอุบัติเหตุให้ได้ประสิทธิผล