กูเกิล คลาวด์ (Google Cloud) ประเทศไทย ได้เน้นย้ำถึงข้อมูลเชิงลึกที่สำคัญและโอกาสทางธุรกิจที่องค์กรต่าง ๆ สามารถนำไปใช้ประโยชน์เพื่อพัฒนาการฟื้นตัวและสร้างการเติบโตแก่การท่องเที่ยวของประเทศ หลังจากเปิดรับนักท่องเที่ยวต่างชาติอย่างเต็มที่ ผ่านความร่วมมือเชิงกลยุทธ์กับ บริษัท ท่าอากาศยานไทย หรือ ทอท. บริษัท สกาย ไอซีที หรือ สกาย (SKY) และ บริษัท อีวีมี พลัส (EVME PLUS) หรืออีวีมี (EVme) โดยองค์กรเหล่านี้จะใช้ประโยชน์จากระบบคลาวด์ข้อมูลแบบเปิด (Open Cloud System) ของกูเกิล คลาวด์ เพื่อขับเคลื่อนการส่งมอบประสบการณ์การเดินทางแบบดิจิทัลที่ยั่งยืน

Google Cloud และอิทธิพลของการท่องเที่ยวที่มีต่ออุตสาหกรรมใกล้เคียง

มากกว่า 1 ใน 2 ของผู้บริโภคดิจิทัลในเขตเมืองของประเทศไทยใช้บริการด้านการท่องเที่ยวออนไลน์ และมีแนวโน้มเติบโต 22% ในแต่ละปี สร้างมูลค่าทางเศรษฐกิจดิจิทัลของประเทศไทยถึง 9,00 ล้านเหรียญสหรัฐ หรือประมาณ  3 แสนล้านบาท ภายในปี 2568 ผู้ประกอบการด้านการเดินทางรายต่าง ๆ จึงต้องให้ความสำคัญกับการนำเสนอบริการดิจิทัลที่เปิดตลอดเวลา เรียบง่าย เป็นส่วนตัว และปลอดภัย

ในขณะเดียวกัน เทรนด์การค้นหาของกูเกิล (Google) พบว่าคำค้นหา “ประกันการเดินทาง” และ “การท่องเที่ยวเชิงการแพทย์” ในประเทศไทย เติบโตขึ้นมากกว่า 900% และ 500% ตามลำดับ ในรอบ 12 เดือนที่ผ่านมา บ่งชี้ว่าการท่องเที่ยวในประเทศไทยมีการฟื้นตัว ซึ่งเป็นโอกาสของอุตสาหกรรมใกล้เคียงอีกด้วย ดังนั้น สถาบันการเงินและผู้ให้บริการด้านสุขภาพจึงต้องหาวิธีนำเสนอบริการที่เหมาะกับนักเดินทางที่ต้องการความคุ้มครองมากขึ้นจากการเปลี่ยนแปลงที่ไม่คาดคิดและมาเยือนประเทศไทยเพื่อจุดประสงค์หลักในการรับการรักษาพยาบาล 

คุณเอพริล ศรีวิกรม์ ผู้จัดการประจำประเทศไทยของ Google Cloud กล่าวว่า "เมื่อเราพิจารณาผลกระทบทางเศรษฐกิจของการท่องเที่ยว เรามักจะเน้นที่การสนับสนุนจากส่วนหลัก เช่น การบินและที่พัก เป็นต้น แต่การวิเคราะห์ของเราได้ขยายขอบเขตสู่การเน้นย้ำถึงผลกระทบของการท่องเที่ยวที่มีผลต่อภาคส่วนอื่น ๆ ตั้งแต่บริการทางการเงิน การดูแลสุขภาพ ไปจนถึงการค้าปลีกและการขนส่ง เราจึงมุ่งมั่นที่จะเสริมศักยภาพให้กับองค์กรต่าง ๆ ในหลากหลายอุตสาหกรรม”

Google Cloud ผลักดันเทคโนโลยีเบื้องหลังเพื่อช่วยฟื้นตัวการท่องเที่ยวไทย

ปริมาณการค้นหาของ Google ในวันที่ 1 ตุลาคม 2565 หรือวันที่ประเทศไทยประกาศยกเลิกข้อจำกัดด้านโควิด-19 ทั้งหมด พบว่ามีความต้องการขาเข้าเพิ่มขึ้น 386% เมื่อเทียบกับวันเดียวกันในปีก่อนหน้า และเพิ่มขึ้น 161% เมื่อเทียบเป็นรายปีจนถึงปัจจุบัน ทั้งหมดนี้สะท้อนความต้องการเดินทางทางอากาศขาเข้าในประเทศไทยมีการเติบโตอย่างมากนั่นเอง ในขณะที่ความต้องการเดินทางขาออกเพิ่มขึ้น 544% เมื่อเทียบกับวันเดียวกันในปีก่อนหน้า และเพิ่มขึ้น 187% เมื่อเทียบเป็นรายปีจนถึงปัจจุบัน

ดังนั้น เพื่อรองรับปริมาณผู้โดยสารขาเข้าและขาออกของท่าอากาศยานนานาชาติ 6 แห่ง (สุวรรณภูมิ ดอนเมือง เชียงใหม่ เชียงราย ภูเก็ต และหาดใหญ่) ทาง ทอท. และพันธมิตรสกาย (SKY) ผู้ให้บริการโซลูชันเทคโนโลยีการบินชั้นนำ จึงได้ย้ายอสังหาริมทรัพย์ดิจิทัลของ ทอท. ไปยังโครงสร้างพื้นฐานแบบเปิดที่ปรับขนาดได้และปลอดภัยของกูเกิล คลาวด์ (Google Cloud) ซึ่งสนับสนุนบริการการบินภาคพื้นดิน และแอปพลิเคชันมือถือ SAWASDEE by AOT ในการจัดการภาระงาน (Task) ที่เกิดขึ้นในการใช้งานมากถึง 10 เท่า เมื่อเทียบจากปริมาณการใช้งานปกติ และยังปรับขนาดลงเองได้อัตโนมัติเพื่อลดต้นทุนในช่วงที่ไม่ต้องการทรัพยากรการประมวลผลเพิ่มเติม

คุณกิตติพจน์ เวณุนันทน์ รองกรรมการผู้อำนวยการใหญ่ สายงานเทคโนโลยีดิจิทัลและการสื่อสาร บริษัท ท่าอากาศยานไทย จำกัด (มหาชน) มองว่า การเป็นพันธมิตรทางธุรกิจกับบริษัท SKY และ Google Cloud นั้น ทำให้องค์กรได้มีการใช้งานระบบบริหารจัดการทางด้าน IT แบบอัตโนมัติควบคู่ไปกับแนวคิดการจัดการด้านนวัตกรรมใหม่ ๆ เพื่ออำนวยความสะดวกแก่ผู้โดยสารอย่างมีประสิทธิภาพ และบริหารจัดการปริมาณข้อมูลจำนวนมากได้อย่างมีประสิทธิภาพ

ทาง ทอท. และ SKY ได้เพิ่มขีดความสามารถในการรับและส่งข้อมูลอัปเดตตามเวลาจริง (Realtime) ของข้อมูลสนามบินและเที่ยวบินไปยังผู้โดยสารหลายล้านคนได้ตามเวลาที่ต้องการ ผ่านการใช้บริการจัดการฐานข้อมูลของ Google Cloud เพื่อจำแนกและจัดเปลี่ยนข้อมูลภายในคลังต่าง ๆ ขององค์กร ซึ่งช่วยให้ผู้โดยสารหลายล้านคนได้รับข้อมูลสนามบินและเที่ยวบินตามเวลาจริง และเพลิดเพลินไปกับประสบการณ์ที่ราบรื่นและมีประสิทธิภาพมากขึ้น ตั้งแต่การเช็กอิน การตรวจคนเข้าเมือง การขึ้นเครื่อง ไปจนถึงการรับสัมภาระ

คุณขยล ตันติชาติวัฒน์ ประธานเจ้าหน้าที่ฝ่ายเทคโนโลยี บริษัท สกาย ไอซีที จำกัด (มหาชน) ให้ความเห็นว่า หลักการพัฒนาแบบโอเพนซอร์ส (Open Source) หรือการพัฒนาที่เปิดรับทุกการเปลี่ยนแปลงจากนักพัฒนาทั่วโลก บนพื้นฐานความปลอดภัยของ Google Cloud จะช่วยให้สามารถผสานรวมเทคโนโลยีใหม่ ๆ เข้ากับบริการได้อย่างราบรื่น อาทิ ระบบนำทางภายในอาคาร ที่จอดรถอัจฉริยะ และไบโอเมตริกซ์ ตลอดจนการเข้ารหัสกระแสข้อมูลในระบบ

Google Cloud ร่วมผลักดันเส้นทางการท่องเที่ยวสู่การเดินทางที่ยั่งยืน

ความยั่งยืนของการท่องเที่ยวในประเทศไทยเป็นหนึ่งในหัวข้อที่ทำให้เกิดการตื่นตัวมากขึ้น และกลายเป็นข้อพิจารณาหลักในการวางแผนการเดินทางของผู้คน ในช่วง 12 เดือนที่ผ่านมา ข้อความค้นหาที่เกี่ยวข้องกับ "การท่องเที่ยวอย่างยั่งยืน" ในประเทศไทยขยับเพิ่มขึ้นมากกว่า 200% ขณะเดียวกัน มีผู้บริโภคยุคดิจิทัล เกือบ 4 ใน 10 ราย ในประเทศไทยออกมาประกาศว่ายินดีจ่ายมากขึ้นเพื่อซื้อผลิตภัณฑ์หรือบริการที่ยั่งยืน

ด้วยเหตุนี้ EVme บริษัทในเครือของปตท. (PTT) จึงได้สร้างแอปพลิเคชันไลฟ์สไตล์สำหรับรถยนต์ไฟฟ้า (EV) ที่ให้บริการเช่ารถยนต์พลังงานไฟฟ้าซึ่งได้รวบรวมมาหลากหลายแบรนด์ไปขับได้นานเท่าที่ต้องการ โดยแพลตฟอร์มนี้ได้พัฒนาบนระบบกูเกิล คลาวด์ (Google Cloud) ทั้งหมดซึ่งนับว่าเป็นระบบคลาวด์ที่สะอาดที่สุดในอุตสาหกรรม

EVme ยังได้ปรับใช้ การวิเคราะห์ขั้นสูง และ ระบบธุรกิจอัจฉริยะ ของ Google Cloud เพื่อให้พนักงานเข้าถึงข้อมูลเชิงลึกในฐานข้อมูล ซึ่งช่วยเสริมความเข้าใจต่อความต้องการของลูกค้าได้ดีขึ้น และตอบสนองต่อความต้องการลูกค้าเป็นการส่วนตัว และจากข้อมูลการเช่ารถของลูกค้า ยังช่วยให้ทางบริษัทตัดสินใจติดตั้งสถานีชาร์จ EV สาธารณะเพิ่มเติมให้ตรงกับความต้องการผู้บริโภคได้ง่ายยิ่งขึ้น ทั้งหมดนี้เพื่อสนับสนุนการเปลี่ยนแปลงของประเทศไทยสู่การเป็นสังคมคาร์บอนต่ำในอนาคต

คุณจิระพงษ์ เลาขจร ประธานเจ้าหน้าที่การพาณิชย์ บริษัท อีวี มี พลัส จำกัด กล่าวว่า “แนวคิดของการท่องเที่ยวอย่างยั่งยืนและการเดินทางที่ยั่งยืนมีความเชื่อมโยงกันอย่างลึกซึ้ง โดย EVme มีเป้าหมายในการสร้างประสบการณ์ 'การเป็นเจ้าของรถยนต์ไฟฟ้า' ให้กับคนไทยบนแพลตฟอร์มดิจิทัลที่ทันสมัยในราคาที่เหมาะสม โดยดำเนินงานแพลตฟอร์มดิจิทัลบนคลาวด์ข้อมูลแบบเปิดของกูเกิล คลาวด์ (Google Cloud) ที่เป็นผู้ให้บริการระบบคลาวด์เพียงรายเดียวที่ขับเคลื่อนโครงสร้างพื้นฐานและบริการโดยใช้พลังงานหมุนเวียน 100% อีกด้วย”

บทสรุปความร่วมมือของ Google Cloud กับผู้ประกอบการในนิเวศอุตสาหกรรมการท่องเที่ยว

ท่าอากาศยานไทย, SKY และ EVme คือ 3 ตัวแทนขององค์กรที่ใช้ระบบคลาวด์แบบเปิด และเทคโนโลยีการวิเคราะห์ขั้นสูง เพื่อกำหนดอนาคตของการเดินทางท่องเที่ยวของประเทศที่เข้าร่วมงานแถลงข่าวเมื่อวันที่ 21 มีนาคมที่ผ่านมา โดยในงานนี้ยังมีคุณนิธี สีแพร รองผู้ว่าการการท่องเที่ยวแห่งประเทศไทย (ททท.) ด้านดิจิทัล วิจัย และพัฒนามาร่วมเป็นสักขีพยานความร่วมมือครั้งสำคัญของทั้ง 3 บริษัท อีกด้วย

คุณเอพริล ศรีวิกรม์ กล่าวตอนหนึ่งว่า “ความร่วมมือของเรากับ ทอท., SKY และ EVme จะช่วยเพิ่มขีดความสามารถในการให้บริการนักท่องเที่ยวด้วยข้อเสนอแบบดิจิทัลที่ปรับให้เป็นส่วนตัวและขับเคลื่อนโดยข้อมูลบนคลาวด์แบบเปิดที่ยืดหยุ่นและปลอดภัยของเรา” โดยความร่วมมือต่าง ๆ ทางกูเกิล คลาวด์ ได้ต่อยอดมาจากการทำงานร่วมกับธุรกิจธนาคาร, โรงแรม และร้านอาหาร โดยในอนาคต กูเกิล คลาวด์ จะร่วมมือกับบริษัทเอกชนด้านการแพทย์ขนาดใหญ่ในท้องถิ่นเพื่อส่งเสริมการท่องเที่ยวเชิงการแพทย์ต่อไป

ที่มาของข้อมูลและรูปภาพ Google Cloud