เที่ยวไทย ปลอดโควิด! เช็กเงื่อนไขเดินทางท่องเที่ยว คนไทย-ต่างชาติ มีอะไรบ้าง
หลังจากเปิดประเทศวันที่ 1 พฤศจิกายน 2564 ทำให้มีนักท่องเที่ยวเดินทางเข้ามาในประเทศไทยมากขึ้น แต่การเดินทางท่องเที่ยวในประเทศไทยนั้น ยังต้องถูกควบคุมด้วยมาตรการทางด้านสาธารณสุข เพื่อป้องกันการแพร่ระบาดของเชื้อไวรัสโควิด-19 ด้วยเช่นกัน ส่วนจะมีเงื่อนไขในแต่ละกลุ่มอย่างไรบ้าง เช็กได้ที่นี่...
กรณีเดินทางท่องเที่ยวภายในประเทศ (เดินทางข้ามจังหวัด)
ศบค.มีการปรับระดับพื้นที่สถานการณ์ย่อยในพื้นที่ทั่วราชอาณาจักรและการประบมาตรการป้องกันควบคุมโรคโควิด-19 แบบบูรณาการ โดยมีระดับพื้นที่และมาตรการ ดังนี้
พื้นที่ควบคุมสูงสุดและเข้มงวด (สีแดงเข้ม) 7 จังหวัด จันทบุรี ตาก นครศรีธรรมราช นราธิวาส ปัตตานี ยะลา และสงขลา
- การห้ามออกนอกเคหสถาน ขอความร่วมมือหลีกเลี่ยงการเดินทางที่ไม่จำเป็น ห้ามออกนอกเคหสถานตั้งแต่เวลา 23.00 - 03.00 น.
- Work From home อย่างน้อย 50 % หน่วยงานของรัฐ ผู้ประกอบการภาคเอกชนปรับเพิ่มได้ตามความเหมาะสม
- สถานศึกษาทุกระดับ สถาบันกวดวิชา ให้ใช้อาคารสถานที่ เพื่อจัดการเรียนการสอน กิจกรรมที่มีการรวมคนจำนวนมาก โดยผ่านความเห็นชอบจากผู้แทนกระทรวงศึกษาธิการ และกระทรวงอว. ร่วมกับคณะกรรมการโรคติดต่อตังหวัด โดยมีมาตรการกำกับอย่างเคร่งครัด
- สถานรับเลี้ยงเด็ก และสถานดูแลผู้สูงอายุ ให้เปิดดำเนินการแบบรับไป-กลับได้ โดยผ่านการพิจารณาจากคณะกรรมการโรคติดต่อจังหวัด
- สถานที่เล่นกีฬา หรือ แข่งขันกีฬา เปิดตามเวลาปกติ แต่ไม่เกิน 22.00 น. จำกัดผู้เข้าร่วมจัดการ จัดการแข่งขันได้ จำกัดผู้ชม ได้แก่ กีฬาในร่ม ไม่มีผู้ชม กีฬากลางแจ้ง ผู้ชมไม่เกิน 25 % กรณีแข่งขันให้คณะกรรมการโรคติดต่อจังหวัดพิจารณา
- โรงภาพยนตร์ โรงมหรสพ การแสดงพื้นบ้าน หรือ สถานที่ลักษณะเดียวกัน จำกัดจำนวนผู้ชม ห้ามบริโภคฯ พื้นที่ที่มีเครื่องปรับอากาศ 50 % พื้นที่เปิดโล่ง 75 %
- ศูนย์แสดงสินค้า ศูนย์ประชุม หรือ สถานที่จัดนิทรรศการ รวมถึงสถานที่ลักษณะเดียวกัน ในห้างสรรพสินค้า และโรงแรม จัดประชุม ไม่เกิน 500 คน และให้เหมาะสมกับขนาดพื้นที่เพื่อไม่ให้แออัด
- ศูนย์การค้า ห้างสรรพสินค้า ซิตี้มอล์ เปิดตามเวลาปกติ แต่ไม่เกิน 22.00 น. งดจัดกิจกรราส่งเสริมการขาย ปิดบริการตู้เกม เครื่องเล่น ร้านเกม สวนสนุก และสวนน้ำ
- ร้านสะดวกซื้อ ตลาด ตลาดนัด เปิดตามเวลาปกติ แต่ไม่เกิน 22.00 น. กรณีเปิดบริการเครื่องเล่น สวนสนุก ให้ผ่านการพิจารณาจากคณะกรรมการโรคติดต่อจังหวัด
- ร้านอาหาร ทั้งในและนอกศูนย์การค้า ห้างสรรพสินค้า หรือ สถานที่อื่นใดที่มีร้านอาหาร บริโภคในร้านได้ จำกัดลูกค้า ร้านไม่มีเครื่องปรับอากาศ 75 % ร้านมีเครื่องปรับอากาศ 50 % กำหนดเกณฑ์ผู้รับบริการ ผู้ให้บริการ เปิดตามปกติ แต่ไม่เกิน 22.00 น. งดการจำหน่ายและงดดื่มสุราในร้าน)
- ร้านเสริมสวน ร้านนวด สปา สถานเสริมความงาม ร้านสัก เปิดบริการได้ ยกเว้น การใช้ไอน้ำ เปิดได้ตามปกติ แต่ไม่เกิน 22.00 น.
พื้นที่ควบคุมสูงสุด 38 จังหวัด (สีแดง) กาญจนบุรี ขอนแก่น ชลบุรี ชุมพร เชียงราย เชียงใหม่ ฉะเชิงเทรา ตรัง ตราด นครปฐม นครนายก นครราชสีมา นครสวรรค์ นนทบุรี ปทุมธานี ประจวบคีรีขันธ์ ปราจีนบุรี พระนครศรีอยุธยา พัทลุง พิจิตร พิษณุโลก เพชรบุรี เพชรบูรณ์ ระนอง ระยอง ราชบุรี ลพบุรี สตูล สมุทรปราการ สมุทรสงคราม สมุทรสาคร สระบุรี สระแก้ว สุพรรณบุรี สุราษฎร์ธานี อ่างทอง อุดรธานี อุบลราชธานี
- ไม่มีการห้ามออกนอกเคหะสถาน
- Work From home หน่วยงานของรัฐ ผู้ประกอบการภาคเอกชนดำเนินการได้ตามความเหมาะสม
- การจัดกิจกรรมรวมกลุ่ม กรณีเกินจำนวนให้คณะกรรมการโรคติดต่อจังหวัด/กทม.พิจารณา ห้ามจัดกิจกรรมรวมคนมากกว่า 200 คน
- สถานศึกษาทุกระดับ สถาบันกวดวิชา ให้ใช้อาคารสถานที่ เพื่อจัดการเรียนการสอน กิจกรรมที่มีการรวมคนจำนวนมาก โดยผ่านความเห็นชอบจากคณะกรรมการโรคติดต่อจังหวัด
- สถานรับเลี้ยงเด็ก และสถานดูแลผู้สูงอายุ เปิดดำเนินการปกติ
- สถานที่เล่นกีฬา หรือ แข่งขันกีฬา เปิดตามเวลาปกติ แต่ไม่เกิน 23.00 น. จำกัดผู้เข้าร่วมจัดการ จัดการแข่งขันได้ จำกัดผู้ชม ได้แก่ กีฬาในร่ม ผู้ชมไม่เกิน 25 % กีฬากลางแจ้ง ผู้ชมไม่เกิน 50 % กรณีแข่งขันให้แจ้งคณะกรรมการโรคติดต่อจังหวัดเพื่อทราบ
- โรงภาพยนตร์ โรงมหรสพ การแสดงพื้นบ้าน หรือ สถานที่ลักษณะเดียวกัน จำกัดจำนวนผู้ชม พื้นที่ที่มีเครื่องปรับอากาศ 75 % พื้นที่เปิดโล่งตามขนาดพื้นที่
- ศูนย์แสดงสินค้า ศูนย์ประชุม หรือ สถานที่จัดนิทรรศการ รวมถึงสถานที่ลักษณะเดียวกัน ในห้างสรรพสินค้า และโรงแรม จัดประชุม จัดมหกรรมด้านกีฬา จัดแสดงสินค้า (ไม่มีชิมอาหาร) ไม่เกิน 500 คน ตามขนาดพื้นที่
- ศูนย์การค้า ห้างสรรพสินค้า ซิตี้มอล์ เปิดตามเวลาปกติ งดจัดกิจกรรมส่งเสริมการขาย เปิดบริการตู้เกม เครื่องเล่น ร้านเกม ไม่เปิด สวนสนุก และสวนน้ำ
- ร้านสะดวกซื้อ ตลาด ตลาดนัด เปิดได้ตามปกติ
- ร้านอาหาร ทั้งในและนอกศูนย์การค้า ห้างสรรพสินค้า หรือ สถานที่อื่นใดที่มีร้านอาหาร บริโภคในร้านได้ เปิดตามเวลาปกติ ไม่เกิน 23.00 น. งดการจำหน่ายและงดดื่มสุราในร้าน
- ร้านเสริมสวย ร้านนวด สปา สถานเสริมความงาม ร้านสัก เปิดบริการได้ตามปกติ แต่ไม่เกิน 23.00 น.
พื้นที่ควบคุม 23 จังหวัด (สีส้ม) กาฬสินธุ์ กำแพงเพชร ชัยนาท ชัยภูมิ บุรีรัมย์ พะเยา แพร่ มหาสารคาม แม่ฮ่องสอน ยโสธร ร้อยเอ็ด ลำปาง ลำพูน เลย สิงห์บุรี สุโขทัย สุรินทร์ หนองคาย หนองบัวลำภู อุตรดิตถ์ อุทัยธานี อำนาจเจริญ ศรีสะเกษ
- ไม่มีการห้ามออกนอกเคหะสถาน
- Work From home หน่วยงานของรัฐ ผู้ประกอบการภาคเอกชนดำเนินการได้ตามความเหมาะสม
- การจัดกิจกรรมรวมกลุ่ม กรณีเกินจำนวนให้คณะกรรมการโรคติดต่อจังหวัด/กทม.พิจารณา ห้ามจัดกิจกรรมรวมคนมากกว่า 500 คน
- สถานศึกษาทุกระดับ สถาบันกวดวิชา ให้ใช้อาคารสถานที่ เพื่อจัดการเรียนการสอนตามปกติ ภายใต้มาตรการป้องกันโรคที่ราชการกำหนด
- สถานรับเลี้ยงเด็ก และสถานดูแลผู้สูงอายุ เปิดดำเนินการปกติ
- สถานที่เล่นกีฬา หรือ แข่งขันกีฬา เปิดตามเวลาปกติ จัดการแข่งขันได้ จำกัดผู้ชม กีฬาในร่ม ผู้ชมไม่เกิน 50 % กีฬากลางแจ้ง ผู้ชมไม่เกิน 75 %
- โรงภาพยนตร์ โรงมหรสพ การแสดงพื้นบ้าน หรือ สถานที่ลักษณะเดียวกัน เปิดได้ตามปกติ
- ศูนย์แสดงสินค้า ศูนย์ประชุม หรือ สถานที่จัดนิทรรศการ รวมถึงสถานที่ลักษณะเดียวกัน ในห้างสรรพสินค้า และโรงแรม จัดประชุม จัดมหกรรมด้านกีฬา จัดแสดงสินค้า (ชิมอาหารได้) จัดงานอื่น ๆ ได้ ไม่เกิน 1,000 คน
- ศูนย์การค้า ห้างสรรพสินค้า ซิตี้มอล์ เปิดตามเวลาปกติ เปิด สวนสนุก และสวนน้ำเฉพาะพื้นที่เปิดโล่ง
- ร้านสะดวกซื้อ ตลาด ตลาดนัด เปิดได้ตามปกติ
- ร้านอาหาร ทั้งในและนอกศูนย์การค้า ห้างสรรพสินค้า หรือ สถานที่อื่นใดที่มีร้านอาหาร บริโภคในร้านได้ เปิดตามเวลาปกติ (งดการจำหน่ายและงดดื่มสุราในร้าน) ให้คณะกรรมการโรคติดต่อจังหวัดพิจารณากำหนดเวลาปิดตามสถานการณ์พื้นที่ได้
- ร้านเสริมสวย ร้านนวด สปา สถานเสริมความงาม ร้านสัก เปิดบริการได้ตามปกติ แต่ไม่เกิน 24.00 น.
พื้นที่เฝ้าระวังสูง 5 จังหวัด (สีเหลือง) นครพนม น่าน บึงกาฬ มุกดาหาร สกลนคร
- ไม่มีการห้ามออกนอกเคหะสถาน
- Work From home หน่วยงานของรัฐ ผู้ประกอบการภาคเอกชนดำเนินการได้ตามความเหมาะสม
- การจัดกิจกรรมรวมกลุ่ม กรณีเกินจำนวนให้คณะกรรมการโรคติดต่อจังหวัด/กทม.พิจารณา ห้ามจัดกิจกรรมรวมคนมากกว่า 1,000 คน
- สถานศึกษาทุกระดับ สถาบันกวดวิชา ให้ใช้อาคารสถานที่ เพื่อจัดการเรียนการสอนตามปกติ ภายใต้มาตรการป้องกันโรคที่ราชการกำหนด
- สถานรับเลี้ยงเด็ก และสถานดูแลผู้สูงอายุ เปิดดำเนินการปกติ
- สถานที่เล่นกีฬา หรือ แข่งขันกีฬา เปิดตามเวลาปกติ จัดการแข่งขันได้ จำกัดผู้ชม กีฬาในร่ม ผู้ชมไม่เกิน 75 % กีฬากลางแจ้ง ผู้ชมไม่เกิน ผู้ชมตามความจุจองสนาม และมาตรการเว้นระยะห่าง
- โรงภาพยนตร์ โรงมหรสพ การแสดงพื้นบ้าน หรือ สถานที่ลักษณะเดียวกัน เปิดดำเนินการได้ตามปกติ จำนวนผู้ชมตามาตรการที่กำหนด
- ศูนย์แสดงสินค้า ศูนย์ประชุม หรือ สถานที่จัดนิทรรศการ รวมถึงสถานที่ลักษณะเดียวกัน ในห้างสรรพสินค้า และโรงแรม จัดงานได้ตามเหมาะสม
- ศูนย์การค้า ห้างสรรพสินค้า ซิตี้มอล์ เปิดบริการได้ตามปกติ
- ร้านสะดวกซื้อ ตลาด ตลาดนัด เปิดบริการได้ตามปกติ
- ร้านอาหาร ทั้งในและนอกศูนย์การค้า ห้างสรรพสินค้า หรือ สถานที่อื่นใดที่มีร้านอาหาร บริโภคในร้านได้ เปิดตามเวลาปกติ ให้คณะกรรมการโรคติดต่อจังหวัด/กทม.พิจารณากำหนดเวลาปิดตามสถานการณ์พื้นที่ได้
- ร้านเสริมสวย ร้านนวด สปา สถานเสริมความงาม ร้านสัก เปิดบริการได้ตามปกติ
- ร้านเสริมสวย ร้านนวด สปา สถานเสริมความงาม ร้านสัก เปิดบริการได้ตามปกติ
- เปิดให้มีการขายและดื่มเครื่องดื่มแอลกอฮอล์ในร้านอาหารได้ แต่ต้องกำหนดมาตรการเฉพาะในแต่ละพื้นที่ โดยเฉพาะในกทม. ตั้งแต่วันที่ 1 พ.ย.64 เป็นต้นไป
พื้นที่นำร่องท่องเที่ยว 4 จังหวัด (สีฟ้า) กรุงเทพมหานคร กระบี่ พังงา ภูเก็ต
- ไม่มีการห้ามออกนอกเคหะสถาน
- การจัดกิจกรรมรวมกลุ่ม กรณีเกินจำนวนให้คณะกรรมการโรคติดต่อจังหวัด/กทม.พิจารณา จัดกิจกรรมรวมคนตามความเหมาะสม
- โรงภาพยนตร์ โรงมหรสพ การแสดงพื้นบ้าน หรือ สถานที่ลักษณะเดียวกัน เปิดดำเนินการได้ตามปกติ จำนวนผู้ชมตามาตรการที่กำหนด
- ศูนย์แสดงสินค้า ศูนย์ประชุม หรือ สถานที่จัดนิทรรศการ รวมถึงสถานที่ลักษณะเดียวกัน ในห้างสรรพสินค้า และโรงแรม จัดงานได้ตามเหมาะสม
- ศูนย์การค้า ห้างสรรพสินค้า ซิตี้มอล์ เปิดบริการได้ตามปกติ
- ร้านสะดวกซื้อ ตลาด ตลาดนัด เปิดบริการได้ตามปกติ
- ร้านอาหาร ทั้งในและนอกศูนย์การค้า ห้างสรรพสินค้า หรือ สถานที่อื่นใดที่มีร้านอาหาร บริโภคในร้านได้ เปิดตามเวลาปกติ ให้คณะกรรมการโรคติดต่อจังหวัด/กทม.พิจารณากำหนดเวลาปิดตามสถานการณ์พื้นที่ได้
- ร้านเสริมสวย ร้านนวด สปา สถานเสริมความงาม ร้านสัก เปิดบริการได้ตามปกติ
- เปิดให้มีการขายและดื่มเครื่องดื่มแอลกอฮอล์ในร้านอาหารได้ แต่ต้องกำหนดมาตรการเฉพาะในแต่ละพื้นที่ โดยเฉพาะในกทม. ตั้งแต่วันที่ 1 พ.ย.64 เป็นต้นไป
ขั้นตอนการเตรียมตัวตามมาตรการเดินทางข้ามจังหวัด
แนวทางปฏิบัติตัว ก่อนเดินทาง
- เช็คมาตรการการปฏิบัติตัวตาม มาตรการเดินทางข้ามจังหวัด ที่จังหวัดปลายทางกำหนด
- เตรียมเอกสารและหลักฐานตามที่จังหวัดปลายทางกำหนด เช่น ใบรับรองการฉีดวัคซีนครบ 2 เข็ม หรือเคยติดเชื้อโควิดไม่เกินวันที่แต่ละจังหวัดกำหนด , ผลตรวจโควิด ATK หรือ RT-PCR ขึ้นอยู่กับเงื่อนไขของจังหวัดนั้นๆ
- ก่อนเดินทางล่วงหน้าอย่างน้อย 3 วัน ควรเช็กมาตรการที่จังหวัดปลายทางกำหนดอีกครั้งด้วยว่า มีการเปลี่ยนแปลงหรือไม่
แนวทางปฎิบัติตัวเมื่อถึงจังหวัดปลายทาง
- ปฏิบัติตามคำสั่งและให้ความร่วมมือกับเจ้าหน้าที่ที่จังหวัดปลายทาง
- ปฏิบัติตามมาตรการที่จังหวัดปลายทางกำหนด เช่น สังเกตอาการของตนเองตลอดระยะเวลาที่อยู่ในจังหวัดปลายทาง
- ดาวน์โหลดแอปพลิเคชั่น หมอชนะ , ไทยชนะ หรือแอปพลิเคชั่นของจังหวัดนั้นๆ ที่กำหนดสำหรับผู้เดินทางข้ามจังหวัด
สามารถตรวจสอบ คำสั่ง/ประกาศของแต่ละจังหวัด มาตรการเดินทางข้ามจังหวัด ตามแนวทางการควบคุมโรค ของจังหวัดปลายทางที่ต้องการเดินทางไปอย่างเคร่งครัด ด้วยการดาวน์โหลดแอปพลิเคชั่นติดตามตัวทุกครั้ง ไม่ว่าจะไปจังหวัดใดก็ตาม* และปฏิบัติตามรายละเอียดที่แตกต่างกันออกไปตามการดำเนินงานของแต่ละจังหวัด
เช็กเงื่อนไข มาตรการ คำสั่งของแต่ละจังหวัดได้ที่นี่ www.moicovid.com
กรณีเดินทางจากต่างประเทศทั้งคนไทย-ต่างชาติ แบ่งเป็น 3 กลุ่ม
1.กลุ่มเข้ารับการกักตัวรูปแบบต่างๆ ซึ่งเดินทางจากประเทศใดก็ได้
เงื่อนไข
1.1 ประเทศต้นทาง : เดินทางมาจากประเทศใดก็ได้
1.2 ระบบเทคโนโลยีที่เกี่ยวข้อง : ผู้ประกอบการ/โรงพยาบาล/หน่วยงาน COSTE
1.3 การกักตัว : เข้ารับการกักตัวในสถานกักกันที่ราชการกำหนด (AQ OQ AHQ SQ)
- ได้รับวัคซีนครบตามเกณฑ์ เดินทางมาจากทุกช่องทางต้องกักตัว 7 วัน
- ไม่ได้วัคซีน เดินทางมาจากทางอากาศ-ทางน้ำ ต้องกักตัว 10 วัน เดินทางจากทางบกต้องกักตัว 14 วัน
1.4 หลักฐานการฉีดวัคซีน
- ไม่ได้รับหรือได้รับวัคซีนไม่ครบตามเกณฑ์ที่กำหนด
- ได้รับวัคซีนแต่ไม่เข้าเกณฑ์ Test to Go หรือ Sanfbox
1.5 หลักฐานการจองที่พัก : มีหลักฐานการจ่ายค่าที่พัก , สถานกักกันที่ราชการกำหนด จำนวน 7 , 10 , 14 วัน
1.6 ประกันภัย : ประกันภัยในวงเงินคุ้มครองไม่น้อยกว่า 50,000 ดอลลาร์สหรัฐ (ยกเว้นคนไทยมีสิทธิ์การรักษาพยาบาลอยู่แล้ว)
1.7 ผลตรวจเชื้อโควิด-19 ด้วยวิธี RT-PCR : ผลตรวจออกภายใน 72 ชั่วโมงก่อนเดินทาง (คนไทยไม่ต้องมีผลตรวจเชื้อโควิด-19 ก่อนเดินทาง)
1.8 การตรวจเชื้อโควิด-19 เมื่อเดินทางถึงไทย
ตรวจเชื้อโควิด-19 ด้วยวิธี RT-PCR
ครั้งแรก : วันที่เดินทางถึง (วันที่ 0-1)
ครั้งที่สอง : วันที่ 6-7 หรือ 8-9 แล้วแต่กรณี
2.Sandbox Programme ทางอากาศ ต้องอยู่ในพื้นที่นำร่องการท่องเที่ยวอย่างน้อย 7 วัน
กลุ่มแซนด์บ็อกซ์นำร่องท่องเที่ยว 17 จังหวัด (พื้นที่สีฟ้า) ได้แก่ กรุงเทพมหานคร กระบี่ ชลบุรี (เฉพาะอำเภอบางละมุง เมืองพัทยา อำเภอศรีราชา อำเภอเกาะสีชัง และ อำเภอสัตหีบ เฉพาะตำบลนาจอมเทียนและตำบลบางเสร่) เชียงใหม่ (เฉพาะอำเภอเมืองเชียงใหม่ อำเภอดอยเต่า อำเภอแม่ริม และอำเภอแม่แตง) ตราด (เฉพาะอำเภอเกาะช้าง) บุรีรัมย์ (เฉพาะอำเภอเมืองบุรีรัมย์) ประจวบคีรีขันธ์ (เฉพาะตำบลหัวหินและตำบลหนองแก)
พังงา เพชรบุรี (เฉพาะเทศบาลเมืองชะอำ) ภูเก็ต ระนอง (เฉพาะเกาะพยาม) ระยอง (เฉพาะเกาะเสม็ด) เลย (เฉพาะอำเภอเชียงคาน) สมุทรปราการ (เฉพาะบริเวณพื้นที่ท่าอากาศยานนานาชาติสุวรรณภูมิ) สุราษฎร์ธานี (เฉพาะเกาะสมุย เกาะพงัน และเกาะเต่า) หนองคาย (เฉพาะอำเภอเมืองหนองคาย อำเภอสังคม อำเภอศรีเชียงใหม่ และ อำเภอท่าบ่อ) อุดรธานี (เฉพาะอำเภอเมืองอุดรธานี อำเภอบ้านดุง อำเภอกุมภวาปี อำเภอนายูง อำเภอหนองหาน และ อำเภอประจักษ์ศิลปาคม)
เงื่อนไข
2.1 ประเทศต้นทาง : เดินทางมาจากประเทศใดก็ได้
2.2 ระบบเทคโนโลยีที่เกี่ยวข้อง : ก่อนเข้าราชอาณาจักร "Thailand Pass" เข้าราชอาณาจักร "หมอชนะ"
2.3 การกักตัว : พำนักในพื้นที่ Sandbox เป็นเวลา 7 วัน
2.4 หลักฐานการฉีดวัคซีน : ได้รับวัคซีนครบตามเกณฑ์ที่กำหนด เป็นเวลาไม่น้อยกว่า 14 วันก่อนเดินทาง ยกเว้นเด็กอายุต่ำกว่า 18 ปี ที่มากับผู้ปกครอง
2.5 หลักฐานการจองที่พัก : มีหลักฐานการจ่ายค่าที่พักที่ผ่านการประเมิน SHA+ และอยู่ในพื้นที่ Sandbox จำนวน 7 วัน
2.6 ประกันภัย : ประกันภัยในวงเงินคุ้มครองไม่น้อยกว่า 50,000 ดอลลาร์สหรัฐ (ยกเว้นคนไทยมีสิทธิ์การรักษาพยาบาลอยู่แล้ว)
2.7 ผลตรวจเชื้อโควิด-19 ด้วยวิธี RT-PCR : ผลตรวจออกภายใน 72 ชั่วโมงก่อนเดินทาง
2.8 การตรวจเชื้อโควิด-19 เมื่อเดินทางถึงไทย
ครั้งแรก : ตรวจด้วย RT-PCR
ครั้งที่สอง : ตรวจ ATK ด้วยตัวเองเมื่อมีอาการ หรือในวันที่ 6-7
3.กลุ่ม Test to Go ทางอากาศ ไม่ต้องกักตัว เดินทางได้ทุกพื้นที่ทั่วประเทศไทย
กลุ่มประเทศเสี่ยงต่ำจำนวน 61 ประเทศ 2 เขตปกครองพิเศษ ได้แก่ ออสเตรเลีย ออสเตรีย บาห์เรน เบลเยียม ภูฏาน บรูไนดารุสซาลาม บัลแกเรีย กัมพูชา แคนาดา จีน ชิลี ไซปรัส เช็ก เดนมาร์ก เอสโตเนีย ฟินแลนด์ ฝรั่งเศส เยอรมนี กรีซ ฮังการี ไอซ์แลนด์ ไอร์แลนด์ อิสราเอล อิตาลี ญี่ปุ่น ลัตเวีย ลิทัวเนีย มาเลเซีย มอลตา เนเธอร์แลนด์ นิวซีแลนด์ นอร์เวย์
โปแลนด์ โปรตุเกส กาตาร์ ซาอุดิอาระเบีย สิงคโปร์ สโลวีเนีย เกาหลีใต้ สเปน สวีเดน สวิสเซอร์แลนด์ สหรัฐอาหรับเอมิเรตส์ สหราชอาณาจักร สหรัฐอเมริกา ฮ่องกง โครเอเชีย อินเดีย อินโดนีเซีย คูเวต ลาว ลักเซมเบิร์ก มัลดีฟส์ มองโกเลีย เมียนมา เนปาล โอมาน ฟิลิปปินส์ โรมาเนีย สาธารณรัฐสโลวัก ศรีลังกา เวียดนาม และไต้หวัน
เงื่อนไข
3.1 ประเทศต้นทาง : เดินทางมาจากประเทศที่กำหนด หรือพำนักในประเทศที่กำหนดมากกว่า 21 วันก่อนเดินทางเข้าประเทศไทย ยกเว้นจากประเทศไทย
3.2 ระบบเทคโนโลยีที่เกี่ยวข้อง : ก่อนเข้าราชอาณาจักร "Thailand Pass" เข้าราชอาณาจักร "หมอชนะ"
3.3 การกักตัว : พำนักเพื่อรอผลตรวจโควิด-19 แบบ RT-PCR ใน AQ หรือ SHA+ ที่มีโรงพยาบาลคู่ปฏิบัติการ เป็นเวลา 1 วัน
3.4 หลักฐานการฉีดวัคซีน : ได้รับวัคซีนครบตามเกณฑ์ที่กำหนด เป็นเวลาไม่น้อยกว่า 14 วันก่อนเดินทาง ยกเว้นเด็กอายุต่ำกว่า 12 ปี ที่มากับผู้ปกครอง
3.5 หลักฐานการจองที่พัก : มีหลักฐานการจ่ายค่าที่พักที่ผ่านการประเมิน SHA+ หรือ AQ จำนวน 1 วัน รวมค่าตรวจ RT-PCR และ ATK แล้ว และอยู่ในพื้นที่ใดก็ได้ไม่จำเป็นต้องเป็นพื้นที่แซนด์บ็อกซ์นำร่องท่องเที่ยว 17 จังหวัด (พื้นที่สีฟ้า)
3.6 ประกันภัย : ประกันภัยในวงเงินคุ้มครองไม่น้อยกว่า 50,000 ดอลลาร์สหรัฐ (ยกเว้นคนไทยมีสิทธิ์การรักษาพยาบาลอยู่แล้ว)
3.7 ผลตรวจเชื้อโควิด-19 ด้วยวิธี RT-PCR : ผลตรวจออกภายใน 72 ชั่วโมงก่อนเดินทาง
3.8 การตรวจเชื้อโควิด-19 เมื่อเดินทางถึงไทย
ครั้งแรก : ตรวจด้วย RT-PCR
ครั้งที่สอง : ตรวจ ATK ด้วยตัวเองเมื่อมีอาการ หรือในวันที่ 6-7