บีโอไอไม่ห่วงรัสเซียบุกยูเครน "กดลงทุนไทย" สบช่องดึงอุตฯเป้าหมายจากรัสเซีย
ข่าววันนี้ นายนฤตม์ เทอดสถีรศักดิ์ รองเลขาธิการสำนักงานคณะกรรมการส่งเสริมการลงทุน(บีโอไอ) กล่าวถึงกรณีรัสเซียบุกยูเครน ว่าผลกระทบโดยตรงต่อการลงทุนในประเทศไทยคาดว่าจะมีไม่มากนัก ในช่วง 5 ปีที่ผ่านมา มีการขอรับการส่งเสริมการลงทุนจากรัสเซียและยูเครนในไทยไม่มาก จำนวน 20 โครงการ เงินลงทุนรวม 3,221 ล้านบาท คิดเป็นสัดส่วน 0.1% ของมูลค่าการลงทุนจากต่างประเทศทั้งหมด ขณะที่การส่งออกสินค้าจากไทยไปรัสเซียและยูเครนมีสัดส่วนเพียง 0.4% ของมูลค่าการส่งออกทั้งหมด
ขณะเดียวกัน ต้องติดตามผลทางอ้อมที่ต้องติดตามใกล้ชิดคือ การปรับเพิ่มขึ้นของราคาน้ำมัน ทำให้ต้นทุนการผลิตและค่าขนส่งสินค้าสูงขึ้น รวมทั้งเรื่องที่หลายประเทศกังวลเกี่ยวกับวัตถุดิบสำคัญในการผลิตเซมิคอนดักเตอร์(ชิป) อย่างก๊าซนีออนและแร่พาลาเดียม ซึ่งรัสเซียและยูเครนเป็นผู้ผลิตหลัก ส่งออกก๊าซนีออนเกือบ 70% และพาลาเดียมถึง 40% ให้กับทั่วโลก ถ้าราคาเพิ่มสูงขึ้นมาก ก็จะกระทบกับการผลิตชิปที่มีปัญหาขาดแคลนอยู่แล้ว
อย่างไรก็ตาม ในอีกด้านหนึ่ง สถานการณ์รัสเซีย-ยูเครน จะเป็นโอกาสดึงการลงทุนมาที่ไทยได้มากขึ้น ทั้งจากยุโรปและรัสเซีย เพราะไทยเป็นประเทศที่มีความมั่นคง ปลอดภัย มีความสัมพันธ์ที่ดีกับนานาประเทศ มีโครงสร้างพื้นฐานและบุคลากรที่มีคุณภาพ มีปัจจัยที่เอื้อต่อการตั้งฐานการลงทุนระยะยาว ขณะที่รัสเซียเป็นประเทศที่มีเทคโนโลยีโดดเด่นในหลายด้าน
“อุตสาหกรรมเป้าหมายที่ไทยต้องการดึงการลงทุนจากรัสเซีย เช่น ดิจิทัล เทคโนโลยีชีวภาพ การผลิตวัสดุขั้นสูง อุปกรณ์วิทยาศาสตร์และการแพทย์ อุปกรณ์ประหยัดพลังงาน ชิ้นส่วนอิเล็กทรอนิกส์และโทรคมนาคม เป็นต้น โดยต้องติดตามสถานการณ์การลงทุนจากนี้อีกครั้ง”นายนฤต์กล่าว