ทำงานเกาหลี! กระทรวงแรงงาน ตั้งเป้าปีนี้ส่งคนไทยไปกว่า 1 หมื่นคน

นายพิพัฒน์ รัชกิจประการ รัฐมนตรีว่าการกระทรวงแรงงาน พร้อมด้วย นายบุญสงค์ ทัพชัยยุทธ์ ปลัดกระทรวงแรงงาน นายสมชาย มรกตศรีวรรณ อธิบดีกรมการจัดหางาน รองอธิบดีกรมพัฒนาฝีมือแรงงาน พร้อมคณะผู้บริหารกระทรวงแรงงาน เดินทางเยือนสาธารณรัฐเกาหลี เพื่อจัดโครงการ “Thailand MOL Overseas Matching in the Republic of Korea” ที่กรุงโซล โดยมีเป้าหมายเพื่อเปิดตลาดแรงงานใหม่ให้แรงงานไทย และส่งเสริมให้การเดินทางไปทำงานต่างประเทศเป็นไปอย่างถูกต้องตามกฎหมาย
นายพิพัฒน์ เปิดเผยว่า งานครั้งนี้มีนายจ้างและสมาคมจากเกาหลีเข้าร่วมกว่า 35 บริษัท และ 5 สมาคม เช่น สมาคมผู้รับเหมาก่อสร้างเฉพาะทาง (Specialty Contractors Association) ที่มีสมาชิก ผู้ประกอบการ กว่า 60,000 บริษัท ครอบคลุมทั้งภาคก่อสร้าง บริการ และอุตสาหกรรมอาหาร พร้อมบริษัทจัดหางานจากไทย 21 แห่ง ซึ่งทางกระทรวงมีเป้าการจัดส่งปีนี้ ให้ไม่น้อยกว่า 10,000 คน
โดยงานนี้มีการจับคู่ เจรจาธุรกิจ และนำเสนอภารกิจจากกรมการจัดหางาน กรมพัฒนาฝีมือแรงงาน และสำนักงานประกันสังคม เพื่อสร้างความเชื่อมั่นให้นายจ้างเกาหลีว่าการจ้างแรงงานไทยผ่านระบบของรัฐนั้น “ปลอดภัย โปร่งใส และมีคุณภาพ”
การจับคู่งานครั้งนี้ไม่เพียงเปิดประตูสู่ตลาดแรงงานคุณภาพ แต่ยังเป็นการสะท้อนวิสัยทัศน์ของไทยในการส่งเสริมการทำงานต่างประเทศอย่าง “ถูกต้องตามกฎหมาย เพิ่มโอกาส สร้างรายได้ และคุ้มครองสิทธิแรงงานไทยในทุกมิติ” พร้อมย้ำว่ากระทรวงแรงงานมีระบบเตรียมความพร้อมทั้งด้านทักษะ ฝีมือ และความรู้ใน 280 สาขา โดยเชื่อมต่อกับภาคอุตสาหกรรมจริงผ่านความร่วมมือทั้งภาครัฐและเอกชน
พร้อมกันนี้ ได้รับเกียรติจาก นายธานี แสงรัตน์ เอกอัครราชทูต ณ กรุงโซล เป็นผู้กล่าวต้อนรับ พร้อมย้ำความสัมพันธ์อันแน่นแฟ้นระหว่างไทย–เกาหลี ทั้งด้านเศรษฐกิจ การศึกษา การท่องเที่ยว และโดยเฉพาะความร่วมมือด้านแรงงานที่มีมาอย่างต่อเนื่อง ท่านทูตขอบคุณกระทรวงแรงงานไทยที่ริเริ่มโครงการนี้ และยืนยันว่าสถานเอกอัครราชทูตพร้อมสนับสนุนการทำงานอย่างถูกหมาย และดูแลแรงงานไทยในประเทศเกาหลีอย่างเต็มที่
ด้าน นายบุญสงค์ ทัพชัยยุทธ์ ปลัดกระทรวงแรงงาน กล่าวเน้นว่า การจับคู่งานครั้งนี้ไม่เพียงเปิดประตูสู่ตลาดแรงงานคุณภาพ แต่ยังเป็นการสะท้อนวิสัยทัศน์ของไทยในการส่งเสริมการทำงานต่างประเทศอย่าง “ถูกต้องตามกฎหมาย เพิ่มโอกาส สร้างรายได้ และคุ้มครองสิทธิแรงงานไทยในทุกมิติ” พร้อมย้ำว่ากระทรวงแรงงานมีระบบเตรียมความพร้อมทั้งด้านทักษะ ฝีมือ และความรู้ใน 280 สาขา โดยเชื่อมต่อกับภาคอุตสาหกรรมจริงผ่านความร่วมมือทั้งภาครัฐและเอกชน
ภายหลังการประชุม นายพิพัฒน์ และ ผู้บริหารกระทรวงแรงงาน พบปะกับ เครือข่ายอาสาสมัครแรงงานไทยในเกาหลีใต้ เพื่อรับฟังเสียงจากภาคปฏิบัติและร่วมวางแนวทางแก้ปัญหาอย่างเป็นระบบ โดยเน้นย้ำว่าอาสาสมัครแรงงานคือ “หัวใจ” ของการดูแลแรงงานในต่างแดน พร้อมมอบนโยบาย 3 ด้าน ได้แก่ 1.สร้างความรู้ความเข้าใจในสิทธิประกันสังคม 2.ป้องกันปัญหายาเสพติด การพนัน และหนี้สิน 3.ส่งเสริมให้แรงงานทุกคนขึ้นทะเบียนอย่างถูกต้อง พร้อมส่งเสริม ให้เข้าสู่ระบบประกันสังคม เพื่อให้แรงงาน ได้มีหลักประกันในการงาน
อาสาสมัครแรงงานยังได้รายงานปัญหาและข้อเสนอแนะเพิ่มเติม เช่น ข้อจำกัดในการส่งแรงงานที่มีขั้นตอนที่มีระยะเวลาที่ยาวนาน ไม่สอดคล้องกับความต้องการนายจ้าง หรือ การสอนภาษาเกาหลีเพื่อการสื่อสารกับนายจ้าง เพื่อความคล่องตัว และความก้าวหน้าในการทำงาน ซึ่งนายพิพัฒน์ ได้มอบหมายให้กรมพัฒนาฝีมือแรงงาน ดูแลหลักสูตรให้สอดคล้องกับความต้องการของนายจ้างจริง และเตรียมออกใบรับรองฝีมือสำหรับผู้ที่ต้องการมาทำงานในเกาหลี
“แรงงานไทยเป็นที่ชื่นชมในสายตานายจ้างเกาหลี เพราะมีวินัย ขยัน และมีความยืดหยุ่น กระทรวงพร้อมเดินหน้าสร้างโอกาส ส่งเสริมให้แรงงานทุกคนได้ทำงานในระบบอย่างถูกต้อง ตั้งแต่ต้นทาง” นาย พิพัฒน์ กล่าวทิ้งท้าย