โบรกสแกนผลงานAP ยอดขายแนวราบหนุน ชูปันผล7%-เป้า8.50บ.

ทันหุ้น –สู้โควิด –AP โบรกสแกนผลประกอบการแข็งแกร่งแม้จะอยู่ในสถานการณ์ยากลำบากในช่วงการแพร่ระบาดของโควิด-19 ขณะที่ตั้งแต่ต้นปีทำยอดขายได้แล้ว 64% ของเป้ายอดขาย แถม Backlog สูง 4.6 หมื่นล้านบาท รับรู้ยาวถึงปี 2565 ชูผลตอบแทนเงินปันผลที่ 7% แนะซื้อเป้า 8.50 บาท

บริษัทหลักทรัพย์ ฟินันเซีย ไซรัส จำกัด (มหาชน) ระบุถึง บริษัท เอพี (ไทยแลนด์) จำกัด (มหาชน) หรือ AP ว่า ยอดขายในเดือนกรกฎาคม-สิงหาคม เติบโต 7% โดยได้รับแรงหนุนจากแนวราบที่เติบโต 15% จากการเปิดตัวโครงการใหม่ และเน้นการขายโครงการเดิม สามารถทดแทนยอดขายคอนโดมิเนียมได้ทั้งหมด ส่งผลให้ตั้งแต่ต้นปีทำยอดขายได้แล้ว 64% ของเป้ายอดขายปีนี้ ขณะที่ช่วงไตรมาส 4/2563 มีแผนเปิดตัวแนวราบใหม่ มูลค่ารวม 1.2 หมื่นล้านบาท คาดว่าจะได้รับการตอบรับที่ดี คาดว่าจะหนุนยอดขายทั้งปีทะลุเป้าหมายที่วางไว้ 3.35 หมื่นล้านบาท

ขณะที่ตลาดอสังหาฯ ที่ฟื้นตัวหลังโควิด-19 และดีกว่าที่เคยประเมิน บวกกับเริ่มเห็นผู้ประกอบการหลายรายนำคอนโดมิเนียมที่ถูกเลื่อนไปกลับมาเปิดขาย ก็ได้รับผลตอบรับที่น่าพอใจ จึงทำให้มองว่า AP มีโอกาสเปิดคอนโดมิเนียมภายในปีนี้เพิ่มเติมจากแผนได้ โดยมีที่ดินพร้อมพัฒนาในมืออยู่แล้ว ซึ่งจะเป็น Upside ต่อเป้ายอดขายทั้งปี แนะซื้อ ให้ราคาเป้าหมาย 8.50 บาท

*แข็งแกร่งสวนโควิด

ด้านบริษัทหลักทรัพย์ เอเอสแอล จำกัด ระบุในบทวิเคราะห์ว่า AP คือหุ้น Top pick ของกลุ่มอสังหาฯ ที่มีอัตราผลตอบแทนจากเงินปันผลสูงถึง 7% โดยผลประกอบการยังแข็งแกร่งแม้จะอยู่ในสถานการณ์ยากลำบากในช่วงการแพร่ระบาดของโควิด-19 รวมถึงมียอดขายรอโอน (Backlog) 4.6 หมื่นล้านบาท ซึ่งจะทยอยรับรู้รายได้ถึงปี 2565 ถือว่าแข็งแกร่งในกลุ่มฯ

ขณะที่คาดว่าแนวโน้มผลประกอบการในช่วงครึ่งปีหลังคาดว่าจะทรงตัวเมื่อเทียบกับช่วงเดียวกันปีก่อน โดยผู้บริหาร AP ปรับเป้าเปิดโครงการใหม่เป็น 27 โครงการ ซึ่งเป็นแนวราบทั้งหมด รวมถึงมีการเปิดตัวแบรนด์ใหม่ "อภิทาวน์" ที่จะเปิดโครงการในต่างจังหวัด โดยตั้งเป้าปีนี้เปิดตัว 5 โครงการ เริ่มที่ จ.นครศรีธรรมราชก่อน ในช่วงไตรมาส 3/2563

ส่วนในช่วงไตรมาส 4/2563 จะไปเปิดโครงการใหม่ที่ระยอง ขอนแก่น เชียงราย และพระนครศรีอยุธยา ซึ่งทางผู้บริหารยังไม่ได้รวมโครงการจากอภิทาวน์ เข้าไปในเป้ารายได้ปีนี้ หากมีเสียงตอบรับที่ดี จะถือเป็น Upside ต่อประมาณการ แนะซื้อ ราคาเป้าหมาย 8.20 บาท