รีเซต

ค้นพบ “รังผึ้งดึกดำบรรพ์” ในถ้ำแถบแคริบเบียน ชี้อาจเจอพฤติกรรมที่ไม่เคยพบมาก่อน

ค้นพบ “รังผึ้งดึกดำบรรพ์” ในถ้ำแถบแคริบเบียน ชี้อาจเจอพฤติกรรมที่ไม่เคยพบมาก่อน
TNN ช่อง16
19 ธันวาคม 2568 ( 15:49 )

“ผึ้ง” เรียกได้ว่าเป็นสัตว์ที่มีความหลากหลายในการสร้างรัง ทั้งใหญ่และซับซ้อน สามารถอยู่ได้ทั้งบนต้นไม้ ในลำต้นของต้นไม้ ตามซอกอาคาร ในพื้นดิน หรือแม้แต่ในท่อนไม้ผุพัง แต่ล่าสุดนักวิจัยเพิ่งค้นพบจุดทำรังที่แปลกประหลาดที่สุดจุดหนึ่ง ซึ่งอยู่ภายในถ้ำหินปูนบนเกาะฮิสปานิโอลา (Hispaniola) แถบทะเลแคริบเบียน 

ภายในถ้ำ ลาเซโร วิโญลา โลเปซ (Lázaro Viñola-López) นักวิจัยหลังปริญญาเอก จากพิพิธภัณฑ์ประวัติศาสตร์ธรรมชาติฟิลด์ (Field Museum of Natural History) ในรัฐชิคาโก สหรัฐฯ พบกองฟอสซิลจำนวนมาก ลักษณะคล้ายกระดูกของสัตว์หลายชนิด ทั้งสัตว์ฟันแทะ นก สัตว์เลี้ยงลูกด้วยนม บางส่วนเป็นของสัตว์ที่สูญพันธุ์ไปแล้ว

ซึ่งภายในโครงกระดูกเหล่านั้น กลายเป็นที่อยู่อาศัยของผึ้งโบราณขนาดจิ๋ว นี่เป็นครั้งแรกที่มีการบันทึกว่าผึ้งใช้กระดูกในการทำรังและวางไข่ ซึ่งทำให้เขาประหลาดใจมาก เพราะรื่องราวเกี่ยวกับฟอสซิลผึ้งแถบทะเลแคริบเบียนทั้งหมดที่เคยบันทึกไว้ จะถูกค้นพบในอำพันและเก่าแก่มาก ประมาณ 20 ล้านปี

แต่ฟอสซิลที่พบนี้ กลับมีอายุประมาณ 20,000 ปี ซึ่งนักวิจัยเชื่อว่า อาจช่วยไขปริศนาเกี่ยวกับวิธีการปรับตัวของผึ้งให้เข้ากับสภาพแวดล้อมในอดีต 

รูปภาพจาก วารสารวิชาการ Royal Society Open Science

ฟอสซิลภายในฟอสซิล

จุดเริ่มต้นของการค้นพบนี้ วิโญลา โลเปซ และทีมได้ลงพื้นที่สำรวจถ้ำ ในช่วงฤดูร้อนปี 2022 เพื่อค้นหาตัวอย่างสำหรับศึกษาเพิ่มเติมในวิชาปริญญาเอกของเขา เนื่องจากถ้ำแห่งนี้มีชั้นของฟอสซิลจากสัตว์มากกว่า 50 ชนิดให้ศึกษา และสภาพแวดล้อมที่ได้รับการปกป้องจากสภาพอากาศภายนอก ช่วยรักษาตัวอย่างเหล่านี้ไว้ได้อย่างดี 

เมื่อสังเกตฟอสซิลใกล้ ๆ เขากลับพบดินที่เรียงรายอยู่ภายในส่วนกระดูกส่วนโพรงฟัน ทำให้เขานึกถึงวิธีที่ตัวต่อใช้สร้างดักแด้ จึงนำกระดูกส่วนนั้นไปทำ ซีที สแกน (CT scan) หรือการเอ็กซ์เรย์ในรูปแบบสามมิติ กลับพบว่ารังดังกล่าวไม่ใช่รังของตัวต่อ ที่ต้องทำจากส่วนผสมของน้ำลายและเส้นใยพืชที่ถูกเคี้ยว

แต่รังที่ว่านี้ ทำจากโคลน ด้านในมีความเรียบเนียน มีลักษณะบ่งชี้ถึงกระบวนการสร้างรังของผึ้ง ที่จะหลั่งขี้ผึ้งออกเคลือบผนังด้านในเอาไว้ (ส่วนสีม่วงในภาพด้านบน)

นอกจากนี้ นักวิจัยยังพบอีกว่า โพรงกระดูกที่ใช้สร้างรังแต่ละโพรงไม่ได้ถูกใช้งานจากผึ้งเพียงตัวเดียว แต่ยังมีผึ้งถึง 6 รุ่น ที่กลับมาที่โพรงเดียวกันนี้ในการสร้างรัง และสันนิษฐานว่าอาจจะเป็นการสร้างรังแบบกลุ่มใหญ่อีกด้วย 

“นี่เป็นการศึกษาที่น่าสนใจมาก เพราะโดยปกติผึ้งมักจะชอบพื้นที่ร่มเงา บางชนิดออกหากินเวลากลางคืน แต่การทำรังในถ้ำเป็นพฤติกรรมที่แปลกประหลาดมาก ซึ่งตอนนี้บันทึกที่เกี่ยวกับผึ้งขุดดินทำรังในถ้ำมีเพียงบันทึกเดียวเท่านั้น ตามข้อมูลจากพิพิธภัณฑ์ประวัติศาสตร์ธรรมชาติฟลอริดา” วิโญลา โลเปซ กล่าวเพิ่ม 

สอดคล้องกับความคิดเห็นของ แอนโทนี มาร์ติน (Anthony Martin) ศาสตราจารย์แห่งภาควิชาวิทยาศาสตร์สิ่งแวดล้อมของมหาวิทยาลัยเอมอรี ในแอตแลนตา สหรัฐฯ ที่ระบุว่า "การค้นพบนี้น่าประหลาดใจเป็น 2 เท่า เพราะผึ้งสมัยใหม่ไม่รู้จักการใช้กระดูกในการทำรัง และก็ไม่มีใครรู้มาก่อนเช่นกันว่าพวกมันทำรังในถ้ำ ซึ่งในโพรงกระดูกเลี้ยงตัวอ่อนเต็มไปด้วยตะกอน น่าตื่นเต้นมากที่พวกมันทำทั้ง 2 อย่างนี้ได้”

ยังฟันธงไม่ได้ว่าเป็น “รังผึ้ง” ของจริง

อย่างไรก็ตาม แม้ว่าถ้ำที่อับชื้นจะรักษาฟอสซิลไว้ได้ แต่สภาพแวดล้อมดังกล่าวไม่เหมาะสมสำหรับการรักษาร่างของแมลงใด ๆ นักวิจัยยังไม่สามารถสรุปได้ว่าเป็นรังของผึ้งชนิดใด และยังไม่ชัดเจนว่ารังเหล่านี้ถูกสร้างโดยผึ้งที่สูญพันธุ์ไปแล้วหรือชนิดที่ยังมีอยู่ในปัจจุบัน ซึ่งตอนนี้รังดังกล่าวถูกเรียกว่า “Osnidum almontei” ตั้งชื่อตาม ฮวน อัลมอนเต มิลาน (Juan Almonte Milan) นักวิทยาศาสตร์ผู้ค้นพบถ้ำแห่งนี้เป็นคนแรก

วิโญลา โลเปซ บอกอีกว่า เขาต้องการกลับไปยังถ้ำนั้นอีกครั้งเพื่อศึกษาเพิ่มเติม ซึ่งอาจช่วยระบุได้ว่าผึ้งเหล่านั้นยังคงอยู่ในพื้นที่หรือไม่ และพฤติกรรมนี้พบได้ในถ้ำอื่น ๆ และบนเกาะอื่น ๆ ด้วยหรือเปล่า ทั้งนี้ การศึกษาดังกล่าว เผยแพร่ในวารสารวิทยาศาสตร์ Royal Society Open Science เมื่อวันที่ 17 ธันวาคมที่ผ่านมาด้วย 



ยอดนิยมในตอนนี้

แท็กยอดนิยม

ข่าวที่เกี่ยวข้อง