รีเซต

หากทรัมป์ขึ้นภาษี 100% ภาพยนตร์ที่ผลิตในต่างประเทศ จะกระทบหนังไทยแค่ไหน ?

หากทรัมป์ขึ้นภาษี 100% ภาพยนตร์ที่ผลิตในต่างประเทศ จะกระทบหนังไทยแค่ไหน ?
TNN ช่อง16
30 กันยายน 2568 ( 15:02 )
7

นอกจากประกาศขึ้นภาษีนำเข้าศุลกากรกับหลายๆ ประเทศ ล่าสุดโดนัลด์ ทรัมป์ ปธน.สหรัฐฯ ประกาศขู่อีกครั้งว่าจะกำหนดภาษี 100% สำหรับภาพยนตร์ทั้งหมดที่ไม่ได้ผลิตในสหรัฐฯ โดยอ้างว่าอุตสาหกรรมหนังอเมริกันกำลังถูกขโมย โดยประเทศอื่น ๆ

แล้วเรื่องนี้จะกระทบวงการภาพยนตร์ไทยแค่ไหน ไหนไทยมีไปฉายในสหรัฐฯ มากเท่าไหร่ และภาษีเหล่านี้ จะรวมถึงภาพยนตร์ฮอลลีวู๊ดที่ยกกองถ่ายมาถ่ายทำในไทยด้วยหรือไม่ ?

นี่ไม่ใช่ครั้งแรกที่ทรัมป์พูดถึงเรื่องการเก็บภาษีภาพยนตร์ เพราะเขาเคยพูดถึงเรื่องนี้มาตั้งแต่เดือนพฤษภาคม โดยตอนนั้นเขากล่าวว่ามีแผนจะคุยกับผู้บริหารฮอลลีวูดเกี่ยวกับแผนภาษีนี้ เพราะอุตสาหกรรมภาพยนตร์ของอเมริกากําลังจะตาย ก่อนจะย้ำเรื่องนี้อีกครั้งในวันที่ 29 กันยายน (ตามเวลาท้องถิ่นสหรัฐฯ)

โดยเขาประกาศบนแพลตฟอร์ม Truth Social ของเขาว่า "ธุรกิจการผลิตภาพยนตร์ของเราถูกขโมยไปจากสหรัฐอเมริกาโดยประเทศอื่น ๆ เหมือนกับการขโมย 'ลูกอมจากทารก'” ทั้งยังโจมตีผู้ว่าการรัฐแคลิฟอร์เนีย สถานที่ตั้งของฮอลลีวูดว่า อ่อนแอ และไร้ความสามารถด้วย 

สำหรับรายละเอียดการเก็บภาษีนั้น ทรัมป์ประกาศว่า ภาษี 100% จะถูกเรียกเก็บกับภาพยนตร์ใด ๆ และทั้งหมดที่ผลิตนอกสหรัฐอเมริกา แต่ไม่ได้ระบุว่าภาษีศุลกากรจะมีผลบังคับใช้เมื่อใด นอกจากนี้ยังไม่ชัดเจนว่าภาษีจะนําไปใช้กับภาพยนตร์บนบริการสตรีมมิ่ง เช่น Netflix รวมถึงภาพยนตร์ที่ฉายในโรงภาพยนตร์หรือไม่ หรือจะคํานวณอย่างไร

ในประเด็นนี้ แดน โค๊ตส์เวิร์ธ นักวิเคราะห์การลงทุนได้ตั้งคําถามว่าภาษีดังกล่าวจะมีรูปแบบการเก็บอย่างไร เนื่องจากโดยปกติแล้วภาษีศุลกากรจะถูกเรียกเก็บจากสินค้า และก็เป็นเรื่องปกติที่ผู้สร้างภาพยนตร์เลือกถ่ายทำในประเทศอื่นๆ เนื่องจากแรงจูงใจต่างๆ 

เขายังมองว่าเป็นเรื่องยากที่จะกําหนดว่าภาพยนตร์ใด เป็นภาพยนตร์ที่ผลิตในอเมริกา หากภาพยนตร์เรื่องนั้นภ่ายทำในอเมริกา แต่มีนักแสดง ผู้กำกับ หรือเงินทุนจากต่างประเทศจะถือเป็นภาพยนตร์อเมริกันหรือไม่ "ดังนั้นจึงเป็นการยากที่จะเข้าใจว่าทรัมป์ตั้งใจจะเรียกเก็บภาษีอย่างไร" เขากล่าว

ทั้งเขายังชี้ว่าในทางทฤษฎี การถูกบังคับให้ผลิตภาพยนตร์ในสหรัฐอเมริกาอาจทําให้ต้นทุนของพวกเขาสูงขึ้นได้ด้วย 

หากการเก็บภาษีบังคับใช้จริง กระทบไทยแค่ไหน ?

การเก็บภาษี 100% สำหรับหนังที่ไม่ได้ผลิตในสหรัฐฯ นั้น จะกระทบกับไทยได้คือ หนึ่งอุตสาหกรรมหนังไทยที่ถูกซื้อลิขสิทธิ์ไปฉายในสหรัฐฯ 

โดยในปี 2024 มีหนังไทยที่ถูกบริษัท Wellgo USA Entertainment เข้าซื้อลิขสิทธิ์ภาพยนตร์ไทยไปฉายในภูมิภาคอเมริกาเหนือ รวมถึงในสหรัญฯ ถึง 2 เรื่อง ได้แก่ “หลานม่า” และ “ช.พ.๑ สมรภูมิคืนชีพ” ซึ่งหลานม่าที่ทำรายได้ในไทยไปถึง 339 ล้านบาท นั้น ก็ทำรายได้ในสหรัฐฯ ไปได้กว่า 10 ล้านบาทเลยด้วย จากการเข้าฉายใน 56 โรงทั่วสหรัฐฯ 

นอกจากนี้ ยังมีหนังไทยอีกหลายเรื่องที่ถูกนำไปฉายในเทศกาลภาพยนตร์ต่างๆ ในสหรัฐฯ ไม่ว่าจะเป็น เข้าฉายรอบปฐมทัศน์ในเทศกาลภาพยนตร์ซันแดนซ์ 2021 หรือฉลาดเกมส์โกง ในเทศกาลภาพยนตร์เอเชียนิวยอร์ก, เทศกาลภาพยนตร์นานาชาติฮาวาย และ Fantastic Fest Austin ในปี 2017 ด้วย

ซึ่งแม้ยังไม่ชัดเจนว่า ภาพยนตร์นานาชาติในงานเทศกาลเหล่านี้ จะได้รับผลกระทบด้วยหรือไม่ แต่ภาพยนตร์ไทย ที่ถูกซื้อลิขสิทธิ์ไปฉายนั้นมีโอกาสจะถูกภาษี 100% แน่นอน 

และอีกหนึ่งทางที่ไทยจะได้รับผลกระทบนั้น คือในฐานะเป็นสถานที่ถ่ายทำภาพยนตร์ และซีรีส์ ซึ่งกลายเป็นจุดยอดนิยมขึ้นมาในช่วงไม่กี่ปีให้หลัง ซึ่งในปี 2024 ก็มีภาพยนตร์ และซีรีส์ดังทั้ง Jurassic World 4, Alien หรือ The White Lotus season 3 เป็นต้น ที่มีสถานที่ถ่ายทำหลักในไทย 

ซึ่งไทยได้หันมาใช้นโยบายมาตรการส่งเสริมถ่ายทำภาพยนต์ หรือ Incentive ในรูปแบบ Cash Rebate หรือ เครดิตคืนเงิน มาตั้งแต่ปี 2017 ซึ่งมาตรการดังกล่าวยังรวมถึงเงื่อนไขการจ้างงานคนไทย และ บริษัทไทยมากขึ้นด้วย 

โดยในปีงบประมาณ 2567 (ปี 2024) กองกิจการภาพยนตร์และวิดีทัศน์ต่างประเทศ กรมการท่องเที่ยว เปิดเผยว่ากองถ่ายต่างประเทศ ปีงบประมาณ 2567 สร้างรายได้มากกว่า 2,876 ล้านบาท โดยกองถ่ายต่างประเทศ จำนวน 15 เรื่อง มียอดเงินคืน Incentive กว่า 509 ล้านบาท เกิดการจ้างงานบุคลากรในธุรกิจภาพยนตร์ และธุรกิจที่เกี่ยวเนื่อง มากกว่า 43,000 ราย 

ทั้งในปี  2567 กองถ่ายหนังต่างประเทศยังถ่ายทำไปมากกว่า 372 เรื่อง งบประมาณการถ่ายทำกว่า 5,000 ล้านบาท โดยประเทศที่ใช้งบประมาณการถ่ายทำสูงสุด 3 อันดับแรกได้แก่ จีน สหราชอาณาจักร และ สหรัฐอเมริกา ตามลำดับ

ดังนั้นหากทรัมป์ประกาศใช้มาตรการภาษีภาพยนตร์ตามที่ขู่จริง อาจส่งผลทั้งภาพยนตร์ไทยที่มีโอกาสได้ไปฉายในสหรัฐฯ น้อยลง และการถ่ายทำภาพยนตร์ในไทย ที่มาจากกองถ่ายสหรัฐฯ เองก็อาจจะลดลงไปด้วย ซึ่งก็ส่งผลต่อการจ้างงาน และธุรกิจที่เกี่ยวข้องได้เช่นกัน จึงต้องติดตามว่า นโยบายภาษีนี้ จะมีการเรียกเก็บจริงหรือไม่ และมีรายละเอียดอย่างไรต่อไป 

ยอดนิยมในตอนนี้

แท็กยอดนิยม

ข่าวที่เกี่ยวข้อง