มะกันเจอพายุหิมะต้นฤดูใบไม้ผลิ ทำ 3 แสนครัวเรือนไฟดับ

ภาคตะวันออกเฉียงเหนือของสหัฐอเมริกาเผชิญกับพายุหิมะที่เกิดขึ้นในฤดูใบไม้ผลิ หลังเพิ่งฉลองเทศกาลอีสเตอร์ไปเมื่อช่วงสุดสัปดาห์ที่ผ่านมา ส่งผลให้เกิดไฟฟ้าดับเป็นวงกว้าง โดยมีรายงานว่าในบางพื้นที่หิมะที่ตกลงมาหนาเกือบหนึ่งฟุต เบื้องต้นมีรายงานไฟฟ้าดับในบ้านเรือนกว่า 3 แสนหลังคา โดยในจำนวนนี้ 2 แสนรายอยู่ในรัฐนิวยอร์ก
ขณะที่ไกลออกไปในรัฐทางตอนใต้อย่างเวอร์จิเนีย ผู้คนกำลังรอคอยฤดูใบไม้ผลิแต่กลับตองเจอกับลมหนาว โดยในหลายรัฐทางตะวันออกเฉียงเหนือ มีการประกาศเตือนภัยพายุหิมะโดยสำนักอุตุนิยมวิทยาแห่งชาติ ซึ่งยังเตือนด้วยว่า หิมะที่ตกหนักและหิมะเปียกอาจทำให้ต้นไหม้โค่นได้ โดยลมอาจกระโชกแรงถึง 64 กิโลเมตรต่อชั่วโมง
เจ้าหน้าที่รัฐนิวยอร์กเตือนให้ผู้คนอยู่ห่างหากถนนหากทำได้ ที่รัฐนิวยอร์ห มีรายงานว่าในเมืองบิงแฮมตัน หิมะทำสถิติตกหนัก 2 วันติดต่อกัน โดยในช่วงเช้าวันอังคารมีรายงานหิมะตกสูง 14.5 นิ้ว ส่วนที่เมืองเวอร์จิล มีรายงานหิมะตกสูง 18 นิ้ว ซึ่งถือเป็นระดับสูงสุดของหิมะที่คาดการณ์ไว้
หิมะที่ตกลงมาอย่างหนักยังทำให้เกิดอุบัติเหตุทางรถยนต์ในรัฐเพนซิลเวเนีย ซึ่งมีรายงานว่าในบางพื้นที่หิมะตกสูงถึง 8 นิ้ว ขณะที่ในบางพื้นที่ของรัฐเวสต์เวอร์จิเนีย ทางตะวันตกของเวอร์จิเนีย และแมริแลนด์ มีรายงานหิมะตก 6 นิ้ว ทำให้การจราจรบนทางหลวงในภูมิภาคหนาแน่น
เมืองชายฝั่งอย่างบอสตันและนครนิวยอร์กไม่มีหิมะตก แต่ก็เผชิญกับสภาวะฝนตกหนัก น้ำท่วม และลมกระโชกแรง แม้ว่าหิมะจะหยุดตกในพื้นที่ส่วนใหญ่แล้ว แต่สำนักอุตินิยมวิทยาสหรัฐยังคงคำแนะนำเตือนภัยสภาพอากาศฤดูหนาว และคำแนะนำเกี่ยวกับลมกระโชกแรงในบางพื้นที่ตอนกลางของรัฐนิวยอร์ก โดยคำแนะนำดังกล่าวมีผลถึงเย็นวันที่ 19 เมษายน ตามเวลาท้องถิ่น