ยอดผู้ติดเชื้อโควิด-19 แถบลาตินอเมริกาทะลุ 6 ล้านคน

วันนี้( 16 ส.ค.63) ชาติในแถบลาตินอเมริกา มียอดสะสมผู้ติดเชื้อไวรัสโควิด19 รวมกันพุ่งสูงกว่า 6 ล้านคนแล้ว รายงานตัวเลขผู้ติดเชื้อที่พุ่งสูงดังกล่าวมีขึ้นในขณะที่ชาติส่วนใหญ่ในภูมิภาคนี้เริ่มผ่อนคลายมาตรการล็อกดาวน์  โดยในช่วง 7  วัน ที่ผ่านมา โดยแถบลาตินอเมริกามีผู้ติดเชื้อรายวันเฉลี่ยกว่า 86,000 คน ทำให้ยอดสะสมผู้ติดเชื้อเพิ่มเป็น 6,000,005 คน และมีผู้เสียชีวิตรายวันกว่า 2,600 คน ทำให้ยอดสะสมผู้เสียชีวิตเพิ่มเป็น 237,360 คน 

ยอดผู้ติดเชื้อดังกล่าวคิดเป็นสัดส่วนมากถึงเกือบ 1 ใน 3 ของยอดผู้ติดเชื้อทั่วโลก ส่วนยอดผู้เสียชีวิตก็มีสัดส่วนใกล้เคียงกัน  

องค์การอนามัยภาคพื้นอเมริกา ซึ่งหน่วยงานสาขาขององค์การอนามัยโลก เตือนด้วยว่า เดือนนี้คือเดือนสิงหาคม จะมีการแพร่ระบาดของโรคอื่นๆเพิ่มขึ้นด้วย เนื่องจากระบบสาธารณสุขในลาตินอเมริกม แบกรับปัญหาผู้ป่วยโควิด19 ล้นมือ จนต้องระงับโครงการรณรงค์ฉีดวัคซีนป้องกันโรคระบาดอื่นๆ ชั่วคราว 

ขณะที่กองทุนการเงินระหว่างประเทศ หรือ ไอเอ็มเอฟ คาดการณ์ในเดือนมิถุนายนว่า เศรษฐกิจของลาตินอเมริกาจะหดตัวร้อยละ 9.4 ในปีนี้ 

สำหรับชาติที่มีการแพร่ระบาดหนักที่สุดในแถบนี้คือบราซิล ซึ่งมีผู้ติดเชื้อและเสียชีวิตมากเป็นอันดับ 2 ของโลก รองจากสหรัฐฯ และมีสัดส่วนผู้ติดเชื้อร้อยละ 15 ของทั้งโลก โดยกระทรวงสาธารณสุขบราซิล รายงานมีผู้ติดเชื้อรายใหม่  41,576 คน  และผู้เสียชีวิต 709 คน ในช่วง 24 ชั่วโมง ที่ผ่านมา มีเซาเปาโล ซึ่งเป็นรัฐที่มีประชากรมากที่สุด เป็นศูนย์กลางการแพร่ระบาด 

ส่วนเม็กซิโก , เปรู และชิลี ก็มีการแพร่ระบาดหนักด้วยเช่นกัน โดยยอดผู้ติดเชื้อในลาตินอเมริกา เพิ่มจาก 5 ล้าน เป็น 6 ล้านคน โดยใช้เวลาเพียง 11 วัน

เกาะติดข่าวที่นี่