เริ่มแล้ว วันนี้วันแรก ใช้จ่าย "คนละครึ่งพลัส" เช็คที่นี่! ซื้ออะไรได้บ้าง

เริ่มแล้ว "คนละครึ่งพลัส" ประชาชนใช้จ่ายผ่านแอปฯ "เป๋าตัง" จำกัดไม่เกิน 200 บาท/วัน ย้ำห้ามรับหรือแลกเป็นเงินสด
"อย่าลืม" ขั้นตอนสำคัญ : ต้องเติมเงินเข้า G Wallet ในแอปฯ เป๋าตัง เพื่อใช้จ่ายเงินร่วมกับรัฐบาล
TIME LINE ระยะเวลาใช้สิทธิ์
29 ตุลาคม 2568
วันแรก* เริ่มใช้สิทธิ์โครงการคนละครึ่งพลัสวันแรก
เวลา 06.00-23.00 น. ของทุกวัน
7 พฤศจิกายน 2568
ฟู้ดเดลิเวอรี่ ร่วมสิทธิ วันแรก
เวลา 06.00-21.00 น. ของทุกวัน
11 พฤศจิกายน 2568
บังคับ* ใช้สิทธิ์ครั้งแรกภายในเวลา 23.00 น.
หากไม่ใช้จะถูกตัดสิทธิ
31 ธันวาคม 2568
วันสุดท้าย* สิ้นสุดโครงการ เวลา 23.00 น.
เช็คที่นี่!! "คนละครึ่งพลัส" ซื้ออะไรได้บ้าง ?
สินค้า/บริการที่ใช้สิทธิได้
เป็นร้านที่เข้าร่วมคนละครึ่งพลัสเท่านั้น
ได้แก่
ร้านอาหาร เครื่องดื่ม ขายสินค้าทั่วไป ของกินของใช้ในชีวิตประจำวัน ร้านคาเฟ่ บริการนวด สปา ทำเล็บ ทำผม
บริการขนส่งสาธารณะ เช่น แท็กซี่มิเตอร์ รถตู้โดยสาร สามล้อสาธารณะ รถสองแถวรับจ้าง มอเตอร์ไซค์รับจ้าง รถไฟฟ้า
แพลตฟอร์มฟู้ดเดลิเวอรี แกร็บ ไลน์แมน โรบินฮูด ชอปปีฟู้ด
*ผู้ให้บริการต้องมีแอปฯ ถุงเงิน และลงทะเบียนร้านค้าในระบบเรียบร้อยแล้ว
สินค้า/บริการที่ใช้สิทธิไม่ได้
สลากกินแบ่งรัฐบาล
เครื่องดื่มแอลกอฮอล์
เหล้า
เบียร์
ไวน์
ยาสูบ
บัตรกำนัล
บัตรเงินสด
ใครได้สิทธิ์เท่าไหร่บ้าง?
กลุ่มได้รับสิทธิ 2,400 บาท
ประชาชนผู้ยื่นแบบแสดงรายการภาษีเงินได้บุคคลธรรมดา สำหรับผู้มีเงินได้กรณีทั่วไป (ภ.ง.ด. 90)
แบบแสดงรายการภาษีเงินได้บุคคลธรรมดาสำหรับผู้มีเงินได้จากการจ้างแรงงาน ตามมาตรา 40 (1) แห่งประมวลรัษฎากร
ประเภทเดียว (ภ.ง.ด. 91) หรือแบบแสดงรายการภาษีเงินได้บุคคลธรรมดาสำหรับผู้ได้รับสิทธิ์ลดอัตราภาษีเงินได้บุคคลธรรมดา (ภ.ง.ด. 95)
ของปีภาษี 2567 ตามฐานข้อมูลของกรมสรรพากร ณ วันที่ 30 มิถุนายน 2568
กลุ่มได้รับสิทธิ 2,000 บาท
คือ ประชาชนผู้ไม่ยื่น แบบแสดงรายการภาษีเงินได้บุคคลธรรมดาข้างต้น
"คลัง" เผยร้านค้าเข้าร่วมกว่า 5.9 แสนราย เริ่มผูก "ฟู้ดเดลิเวอรี" 3 พฤศจิกายน 2568 นี้
นายเอกนิติ นิติทัณฑ์ประภาศ รองนายกรัฐมนตรี และรัฐมนตรีว่าการกระทรวงการคลัง กล่าวว่า วันที่ 29 ตุลาคม 2568 โครงการ "คนละครึ่ง พลัส" จะเปิดให้ใช้สิทธิ์วันแรก ผ่านแอปพลิเคชัน “เป๋าตัง” ซึ่งได้รับความสนใจอย่างมาก โดยมีผู้ลงทะเบียนครบ 20 ล้านคนแล้ว
ทั้งนี้ วันที่ 3 พฤศจิกายน 2568 ร้านค้าที่ลงทะเบียนแล้วกว่า 600,000 ราย จะสามารถเริ่มผูกกับแพลตฟอร์มฟู้ดเดลิเวอรี่ เพื่อขยายตลาดสู่ช่องทางออนไลน์ ซึ่งรัฐบาลตั้งใจให้ คนละครึ่งพลัส เป็นโครงการที่ช่วยเพิ่มทักษะและโอกาสทางรายได้ให้พ่อค้าแม่ค้า โดยบางแพลตฟอร์มจะลดค่า GP จากเดิม 30% เหลือเพียง 5% เพื่อจูงใจร้านค้าเข้าร่วม
นายเอกนิติ กล่าวว่า นายอนุทิน ชาญวีรกูล นายกฯ ฝากขอบคุณประชาชนที่ลงทะเบียนครบถ้วน ส่วนผู้ที่ถูกปฏิเสธราว 190,000 คน ส่วนใหญ่เป็นผู้ถือบัตรสวัสดิการแห่งรัฐ ซึ่งได้รับเงินช่วยเหลือผ่านบัตรโดยตรง
ด้านฝั่งร้านค้า มีผู้ลงทะเบียนแล้วประมาณ 590,000 ราย แบ่งเป็นร้านค้าเดิมราว 100,000 ราย และร้านค้าใหม่กว่า 400,000 ราย โดยรวมเกือบ 600,000 ราย และยังมีอีกราว 100,000 รายอยู่ระหว่างตรวจสอบข้อมูล โดยกลุ่มของร้านค้ายังสามารถลงทะเบียนได้ถึงวันที่ 19 ธันวาคม 2568 โดยเปิดให้พ่อค้าแม่ค้ารายย่อย ร้านบริการนวด สปา และรถรับจ้างสาธารณะที่มีใบอนุญาตขนส่งร่วมโครงการได้
นายเอกนิติกล่าวย้ำกว่า โครงการนี้ไม่ใช่แค่ช่วยลดค่าครองชีพ แต่ยังช่วยให้ร้านค้ารายย่อยขยายตลาดจากหน้าร้านสู่โลกออนไลน์ เพิ่มรายได้และเพิ่มทักษะการขายให้กับคนไทย นอกจากนี้ รัฐบาลยังเตรียมจัดกิจกรรมอบรมให้ความรู้กับผู้ค้าผ่านแพลตฟอร์มต่าง ๆ สอนเทคนิคการขายออนไลน์ การลดต้นทุน และการเข้าถึงแหล่งทุน เพื่อยกระดับศักยภาพทางธุรกิจของผู้ประกอบการรายย่อย
นายลวรณ แสงสนิท ปลัดกระทรวงการคลัง เปิดเผยว่า ขณะนี้รัฐบาลมีความพร้อมแล้วในการดำเนินการโครงการคนละครึ่งพลัส โดยเริ่มใช้จ่ายวันแรกผ่านแอปพลิเคชันเป๋าตัง ตั้งแต่ 6 โมงเช้าของวันที่ 29 ตุลาคม 2568 เป็นต้นไป ทั้งนี้ มีผู้ได้สิทธิ 20 ล้านคนแบ่งเป็นคนที่ยื่นภาษีได้รับเงิน 2,400 บาท จำนวน 7.93 ล้านคน และคนที่ไม่ยื่นภาษีได้รับ 2,000 บาท จำนวน 12.07 ล้านคน และจะใช้ได้จนถึง 31 ธันวาคม 2568
ปลัดคลังระบุว่า ในการเปิดลงทะเบียนคนละครึ่งพลัสรอบนี้ มีคนลงทะเบียนทั้งสิ้น 20.19 ล้านคน และได้รับสิทธิ 20 ล้านคน ในจำนวนนี้ลงทะเบียนไม่สำเร็จ 194,210 คน เนื่องจากเป็นผู้ถือบัตรสวัสดิการฯ 192,920 คน เสียชีวิต 758 คน เคยทำผิดเงื่อนไข 191 คน และเกี่ยวข้องบัญชีม้า 341 คน
เงื่อนไขการใช้จ่าย ประชาชนจะต้องใช้จ่ายซื้อสินค้าผ่านแอปพลิเคชันเป๋าตัง ซึ่งรัฐบาลช่วยจ่ายให้ 50% และผู้ได้รับสิทธิ์ต้องจ่ายเอง 50%กำหนดให้ใช้วงเงินคนละครึ่งพลัสไม่เกินวันละ 200 บาท เมื่อรวมกับเงินของตัวเอง ไม่เกินวันละ 400 บาท แต่หากใช้เกินกว่านั้น ผู้ได้สิทธิจะต้องจ่ายเองโดยรัฐจะจ่ายให้ไม่เกินวันละ 200 บาท โดยใช้จ่ายได้กับร้านค้าที่เข้าร่วมตั้งแต่ 06.00-23.00 น. ของทุกวัน ห้ามรับหรือแลกเป็นเงินสดเด็ดขาด
Tag
ยอดนิยมในตอนนี้
