รีเซต

บิทคอยน์มีกำแพงขวาง ‘ลุงโฉลก’ชี้จุดร่วงก่อนวิ่ง

บิทคอยน์มีกำแพงขวาง ‘ลุงโฉลก’ชี้จุดร่วงก่อนวิ่ง
ทันหุ้น
22 มีนาคม 2566 ( 07:13 )
87

#บิทคอยน์ #ทันหุ้น – อย่าตื่น! บิทคอยน์วิ่งแรง ทำหุ้นเกี่ยวพันบิทคอยน์พุ่งสนั่น นายกฯฟินเทค เปิดเหตุผลตลาดมองดีเกินไปเฟดหยุดขึ้นดอกเบี้ยเพราะแบงก์ล้ม แนะมองความจริงจ้างงานยังสูงต้องสกัดเงินเฟ้อต่อ แต่ชี้ใกล้ถึงจุดจบแล้ว ด้านลุงโฉลกเปิดกราฟมองอนาคตบิทคอยน์จะไปไกล แต่ต้องวูบลงแรงก่อน แนะจังหวะเวลาเก็บ

 

นายชลเดช เขมะรัตนา นายกสมาคมฟินเทค ประเทศไทย เปิดเผยถึง การพุ่งขึ้นของราคาบิทคอยน์ และหุ้นที่เกี่ยวข้องกับบิทคอยน์ของไทยว่า เกิดจากการที่นักลงทุนมองว่า ธนาคารกลางสหรัฐ (เฟด) จะดำเนินนโยบายดอกเบี้ยที่ไม่เข้มงวด หลังจากที่อัตราดอกเบี้ยสหรัฐที่พุ่งขึ้นเร็วได้สร้างปัญหาให้กับธนาคารประสบปัญหาขาดทุนจากการถือพันธบัตร จนเกิดกรณีธนาคารซิลิคอนวัลเลย์ หรือ (SVB) ล้ม ตลอดจน "ซิลเวอร์เกต แคปิตอล" และยังมีอีกหลายแบงก์ที่ยังต้องจับตาปัญหาจากอยู่

 

กรณีการล้มลงของธนาคารเกิดขึ้นในช่วงเวลาที่ใกล้ประชุมเฟด ทำให้นักลงทุนมีการคาดเดาว่าดอกเบี้ยจะไม่ขึ้นต่อ ซึ่งจะส่งผลดีทำให้ บิทคอยน์ ปรับตัวเพิ่มขึ้น และด้วยสภาพคล่องของตลาดซื้อขายบิทคอยน์ที่ลดลงมากทำให้การปรับตัวเพิ่มขึ้นของบิทคอยน์รวดเร็ว เพราะไม่ค่อยมีการวาง OFFER ขวางจำนวนเยอะๆ

 

@ จังหวะขาย

 

แต่มองว่า ราคาบิทคอยน์ ที่ขึ้นมาเร็วจนอยู่อยู่บริเวณ 3 หมื่นเหรียญสหรัฐต่อบิทคอยน์ น่าจะเป็นจังหวะขายมากกว่าซื้อ เพราะมองว่ามีโอกาสลงมากกว่า เนื่องจากการที่ราคาปรับตัวเพิ่มขึ้นไกลมาจากบริเวณที่ต่ำสุด 1.5 หมื่นเหรียญ ซึ่งผู้ที่ทยอยสะสม บิทคอยน์ มาก่อนหน้านี้จะมีกำไรมาก

 

นอกจากนี้ในความเป็นจริงนั้นมองว่าธนาคารกลางสหรัฐ ไม่น่าจะยุติการขึ้นดอกเบี้่ยง่ายๆ เนื่องจาก ตัวเลขการจ้างงาน ซึ่งเป็นตัวชี้วัดเงินเฟ้อสำคัญยังคงสูงอยู่ ขณะนี้เดียวกันปัญหาเรื่องเงินเฟ้อ นับเป็นปัญหาใหญ่ที่เฟดได้มีการต่อสู้มาโดยตลอด ดังนั้นความหวังที่เฟดจะยุติการขึ้นดอกเบี้ยจะเป็นความหวังแค่ชั่วคราว

 

@ จับตาแบงก์ล้ม

 

เช่นเดียวกันนักลงทุนยังต้องติดตามผลกระทบจากกรณีแบงก์ล้ม ซึ่งแบงก์ที่มีปัญหาส่วนใหญ่เป็นแบงก์เทค ปล่อยกู้กลุ่มเทค โดยเฉพาะ ซิลเวอร์เกต แคปิตอล ที่มีการปล่อยให้คริปโทเคอร์เรนซีจำนวนมาก ดังนั้นเมื่อ ซิลเวอร์เกต แคปิตอล ล้มลงแล้วใครจะเป็นคนปล่อยกู้ให้ ซึ่งสภาพคล่องคงยังไม่ได้มีมาก

 

อย่างไรก็ตามมองว่ากระแสปัญหาที่เกี่ยวข้องกับสินทรัพย์ดิจิทัลนั้นกำลังเดินทางมาถึงจุดสุดท้าย หากนับตั้งแต่การเกิดปัญหาวิกฤติในช่วงปีทีผ่านมา ซึ่งไล่มาจากปัญหาที่เกิดขึ้นจากเล็กๆ ลุกลามไปถึงเอ็กซเชนจ์ขนาดใหญ่ กระทั่ง FTX ล้ม และมาสู่สุดท้ายคือแบงก์ล้ม ใกล้จบแต่ก็ยังไม่ได้ผ่านพ้น

 

@ลงทุนเองดีกว่า

 

สำหรับบริษัทจดทะเบียนไทยที่ไปลงทุนในบิทคอยน์ และเหมืองขุดนั้น มองว่ายังคงมีความเสี่ยงอยู่จากความผันผวนของราคาบิทคอยน์ ส่วนการขุดนั้นแม้ว่าบริษัทจดทะเบียนส่วนใหญ่จะบอกว่าไม่คุ้มค่าไฟ แต่ตามหลักแล้วราคามักจะไม่เกี่ยว เพราะยามที่ราคาบิทคอยน์สูง มีผู้ขุดมาก จะมีการขุดเหรียญยากขึ้น แต่ถ้าราคาลดลง คนขุดเหรียญก็จะน้อยลง ก็จะได้จำนวนเหรียญมาก โดยมองว่าราคาบิทคอยน์จะขึ้นลงแรงอยู่ในกรอบ 2-3 หมื่นเหรียญ

และยังย้ำคำเดิมว่าผู้ลงทุนที่ต้องการลงทุนบิทคอยน์ ควรลงทุนเองมากกว่าผ่านหุ้นของบริษัทจดทะเบียนที่ลงทุนเหรียญดิจิทัล

 

@ ลุงโฉลกทำนายจุดซื้อขาย

 

ด้านนายโฉลก สัมพันธารักษ์ หรือ ลุงโฉลก ผู้เชี่ยวชาญด้านการลงทุนเชิงเทคนิคอล กล่าวว่า สถานการณ์ของ บิทคอยน์ ณ ขณะนี้อยู่ในโซนของการเจอแนวต้านบริเวณ 3-3.2 หมื่นดอลลาร์สหรัฐต่อบิทคอยน์ และกำลังเข้าสู่คลื่น 5 ย่อย ดังนั้นจึงมีโอกาสที่จะขึ้นไปแตะ และลงมาบริเวณประมาณ 1.6-1.9 หมื่นดอลลาร์สหรัฐ คาดว่าจะเป็นหลังสงกรานต์ และจากนั้นก็จะขึ้นสูงเวฟ 3 ใหญ่ได้ ซึ่งมองว่ารอบนี้มีโอกาสที่จะทำนิวไฮขึ้นไปเกินแสนดอลลาร์สหรัฐ แต่จะต้องใช้เวลา

ดังนั้นในการลงทุนขึ้นอยู่กับว่าลงทุนในระยะเวลาไหน ถ้าระยะสั้นก็ยังมีโอกาสที่จะปรับตัวลง แต่มองว่าจุดต่ำสุดของบิทคอยน์รอบนี้น่าจะผ่านพ้นมาแล้วที่ระดับ 1.5 หมื่นเหรียญสหรัฐ

 

ส่วนนักลงทุนระยะยาวเข้าสะสมได้หลังสงกรานต์เพื่อรอรับการแรลลี่ของบิทคอยน์ได้ เนื่องจากบิทคอยน์จะเป็นสินทรัพย์ที่โดดเด่นในช่วงที่เกิดความกังวลปัญหาแบงก์โดยเฉพาะแบงก์ใหญ่ที่ลงทุนผิดพลาด ที่ผ่านมาก็ได้ให้สะสมบิทคอยน์ไปแล้ว เนื่องจากเป็นสินทรัพย์ที่น่าลงทุนช่วงนี้ พร้อมกับที่ดิน และ ทอง ส่วนหุ้นทั่วโลกยังมีแนวโน้มลงอีก แต่ไทยจะลงน้อยกว่า

 

ส่วนกรณีปัญหาสินทรัพย์ดิจิทัลที่เป็นสาเหตุหนึ่งที่ทำให้บางแบงก์มีปัญหานั้น ต้องแยกให้ออกมาว่าบิทคอยน์ยังคงมีความมั่นคง แต่สิ่งที่เกิดขึ้นเป็นเพราะเอาแนวทางของบิทคอยน์ไปทำไม่ดีต่างหาก ซึ่งมองว่าบิทคอยน์จะเป็นสินทรัพย์ที่มั่นคง และมีมูลค่าเพิ่มขึ้นได้ในระยะยาว

 

 

ยอดนิยมในตอนนี้

แท็กยอดนิยม

ข่าวที่เกี่ยวข้อง