รีเซต

ฮีโร่! แม่บ้านสาว CPR ช่วยชีวิตช่วย 6 ขวบจมน้ำ รอดชีวิตหวุดหวิด

ฮีโร่! แม่บ้านสาว CPR ช่วยชีวิตช่วย 6 ขวบจมน้ำ รอดชีวิตหวุดหวิด
TNN ช่อง16
16 มีนาคม 2564 ( 11:56 )
499
ฮีโร่! แม่บ้านสาว CPR ช่วยชีวิตช่วย 6 ขวบจมน้ำ รอดชีวิตหวุดหวิด

วันนี้ (16 มี.ค.64)  โลกโซเชียลได้มีการโพสต์แชร์คลิปที่น่าชื่นชม  ขณะที่หญิงคนหนึ่งกำลังทำซีพีอาร์ หรือปั้มหัวใจช่วยชีวิตเด็กชายที่จมน้ำหมดสติจนฟื้นและรอดตายได้ราวกับปาฏิหาริย์  โดยคนที่โพสต์ ระบุข้อความว่า  “วันนี้พาคุณน้ามาฝึกขับรถ ได้ช่วยเด็กจมน้ำถือว่าโชคดีมากที่เราขับรถมาเจอพอดี ได้ช่วยชีวิตเด็กคนนึงไว้ปลอดภัยแล้วนะหนู  น้องต้า  บ้านโคกสูง  ขอขอบคุณวิชาเรียนช่วยเหลือชีวิตมนุษย์การปฐมพยาบาลเบื้องต้น ของคุณน้าจากนอร์เวย์ และขอบคุณช่างก่อสร้างที่ช่วยเอาน้องขึ้นจากน้ำนะคะ  ขอให้บุญกุศลในครั้งนี้ช่วยปัดเป่าสิ่งชั่วร้ายทั้งปวงออกจากชีวิตลูกๆ สาธุ สาธๆ”  


ซึ่งก็ได้มีผู้คนเข้าไปแสดงความคิดเห็นและชื่นชมหญิงคนดังกล่าวเป็นจำนวนมาก จากการสอบถามผู้โพสต์ระบุว่าเหตุการณ์ดังกล่าวเกิดขึ้นเมื่อวานนี้ (14 มี.ค.) ที่สระน้ำข้างสนามกีฬาโรงเรียนมิตรภาพโนนสมบูรณ์  ต.โคกสูง  อ.หนองกี่  จ.บุรีรัมย์ 

 

จากนั้นผู้สื่อข่าวจึงได้ลงพื้นที่ไปตามหาหญิงฮีโร่คนดังกล่าว  คือ น.ส.สมมาตร นิมิตร หรือพี่นาง  อายุ 53 ปี  อยู่บ้านเลขที่ 147 หมู่ 6 ต.โคกสูง  อ.หนองกี่  จ.บุรีรัมย์   ซึ่งนั่งอยู่กับหลานสาวคนที่ถ่ายคลิปแล้วนำเรื่องราวมาโพสต์ในโซเชียล   

 

โดย น.ส.สมมาตร  หรือพี่นาง  ก็ได้เปิดใจกับผู้สื่อข่าวด้วยสีหน้าที่ยิ้มแย้ม ว่าปัจจุบันตนทำงานเป็นแม่บ้านอยู่ในโรงแรมแห่งหนึ่งที่ประเทศนอร์เวย์  ช่วงนี้กลับมาเยี่ยมบ้านที่ อ.หนองกี่   ก็ถือโอกาสมาสอบใบขับขี่ด้วย  เมื่อวานวันอาทิตย์ซึ่งเป็นวันเกิดเหตุก็ให้หลานพาไปหัดขับรถที่ สนามของโรงเรียน   

 

ขณะกำลังขับวนสนามรอบที่ 3 รอบ  ก็เห็นช่างที่ทำงานก่อสร้างอยู่ในโรงเรียนวิ่งไปที่สระน้ำ  ตอนแรกยังไม่รู้ว่าเกิดอะไรขึ้นพอหลานสาวไปดู   จึงทราบว่ามีเด็กอนุบาล อายุ 6 ขวบจมน้ำในสระข้างโรงเรียน และช่างก่อสร้างที่วิ่งไปได้นำร่างน้องขึ้นมาจากน้ำ  ตนจึงเข้าไปดูก็เห็นน้องนอนหมดสติหน้าเขียวปากเขียวแล้วคนที่มามุงดูก็คิดว่าน้องเสียแล้ว    

 

ตนจึงตัดสินใจใช้ประสบการณ์ความรู้ที่เคยอบรมหลักสูตรการช่วยชีวิตคนจมน้ำขณะทำงานเป็นแม่บ้านที่โรงแรมประเทศนอร์เวย์  ซึ่งทางโรงแรมบังคับให้ฝึกอบรมทุกคนเป็นเวลา 1 ชั่วโมง   

 

จากนั้นก็ทำการปั้มหัวใจหรือซีพีอาร์ ตามที่เรียนมาอยู่ประมาณ 10 นาที  ก็เห็นน้องเริ่มหายใจจึงปั้มต่ออีกจนน้องอาเจียนข้าวออกจากปากมีน้ำและโคลนไหลออกมาจากปากด้วย   ทั้งตนเองและคนที่มามุงดูต่างก็ดีใจมากเพราะไม่คิดว่าน้องจะฟื้นเพราะตอนนั้นทั้งปากและหน้าเขียวหมดแล้ว จากนั้นจึงบอกให้ชาวบ้านโทรแจ้งรถฉุกเฉินให้มารับน้องส่งโรงพยาบาลหนองกี่ 

 

จากเหตุการณ์ที่เกิดขึ้นตนเองไม่ได้อยากโด่งดังแต่ที่บอกให้หลานถ่ายคลิปก็กะจะเอาไปอวดหัวหน้าและเพื่อนร่วมงานที่ประเทศนอร์เวย์  ว่าความรู้ที่ตนเองเรียนเพียง 1 ชั่วโมงก็สามารถช่วยชีวิตคนได้จริงๆ  ไม่คิดว่าพอหลานนำไปโพสต์ในโซเชียลจะมีคนเข้ามาชื่นชมมากขนาดนี้ ก็ขอบคุณทุกคน   

 

ส่วนที่มีบางคนเข้ามาคอมเม้นว่าทำซีพีอาร์ไม่ถูกต้องนั้นอาจจะเป็นช่วงที่เด็กฟื้นแล้ว ตนจึงเอามือไปลูบที่บริเวณท้องของน้อง   ก็ไม่อยากให้ ดรามาอยากให้มองถึงเจตนาในการช่วยชีวิตน้องมากกว่า  และอยากฝากว่าหากใครพบเห็นเหตุการณ์แบบนี้ควรจะตั้งสติและตัดสินใจปฐมพยาบาลเบื้องต้นเพราะเชื่อว่าเป็นสิ่งสำคัญที่สามารถช่วยชีวิตคนได้

 

จากนั้นผู้สื่อข่าวได้เดินทางไปที่ รพ.หนองกี่   เพื่อติดตามอาการของน้องทราบชื่อ คือน้องต้า นักเรียนชั้นอนุบาล 3   พบว่าน้องอาการปลอดภัยสีหน้ายิ้มแย้มร่าเริง และทางโรงพยาบาลก็อนุญาตให้ออกจากโรงพยาบาลวันนี้   

 

ขณะที่นางลำดวน โสดาสพัฒน์ อายุ 67 ปี ยายของน้อง ที่มาเฝ้าอาการของหลาน  วันเกิดเหตุไม่รู้ว่าหลานแอบไปเล่นน้ำมารู้อีกทีตอนมีคนมาบอกว่าหลานจมน้ำหมดสติอยู่ที่สระในโรงเรียนจึงเดินทางไปดู ตอนแรกก็ตกใจมากคิดว่าหลานจะไม่ฟื้น แต่พอมีหญิงคนหนึ่งมาปั้มหัวใจจนหลานฟื้นและรอดชีวิตมาได้อย่างปลอดภัย   

 

ทั้งนี้ยายยังได้ยกมือไหว้ขอบคุณทั้งหญิงที่ปั้มหัวใจและช่างก่อสร้างที่ลงไปเอาหลานขึ้นจากน้ำ  เหมือนหลานตายแล้วเกิดใหม่  หลังจากนี้ก็จะดูแลหลานไม่ให้คลาดสายตาเลย  



ข่าวที่เกี่ยวข้อง