รีเซต

"นิการากัว" ชาติล่าสุด ตัดสัมพันธ์การทูตกับ "ไต้หวัน" - หันไปจับมือ "จีน"

"นิการากัว" ชาติล่าสุด ตัดสัมพันธ์การทูตกับ "ไต้หวัน" - หันไปจับมือ "จีน"
ข่าวสด
10 ธันวาคม 2564 ( 13:30 )
96
"นิการากัว" ชาติล่าสุด ตัดสัมพันธ์การทูตกับ "ไต้หวัน" - หันไปจับมือ "จีน"

"นิการากัว" ชาติล่าสุด - วันที่ 10 ธ.ค. บีบีซี รายงานว่า นิการากัว ประเทศในอเมริกากลาง กลายเป็นชาติล่าสุดที่ตัดความสัมพันธ์ทางการทูตกับไต้หวัน เพื่อแลกกับการสถาปนาความสัมพันธ์ทางการทูตกับจีน

จนถึงตอนนี้พันธมิตรระหว่างประเทศของไต้หวันลดลงเหลือเพียง 14 ประเทศ จากที่มีอยู่ 21 ประเทศ ตั้งแต่ประธานาธิบดีหญิงของไต้หวัน ไช่ อิง-เหวิน เข้ารับตำแหน่งในเดือนพ.ค. 2559

https://twitter.com/SpokespersonCHN/status/1469129189986955266

กระทรวงต่างประเทศของนิการากัวระบุว่า "วันนี้นิการากัวตัดความสัมพันธ์ทางการทูตกับไต้หวันและยุติการติดต่อหรือความสัมพันธ์อย่างเป็นทางการ และยอมรับมีเพียงจีนเดียว"

ขณะที่นางหวา ชุนหยิง โฆษกกระทรวงต่างประเทศจีน ยกย่องการตัดสินใจของนิการากัว โดยกล่าวว่าเป็น "ทางเลือกที่ถูกต้อง...สอดคล้องกับกระแสโลก" และว่า "ได้รับการสนับสนุนจากประชาชน

ส่วนกระทรวงต่างประเทศของไต้หวันออกแถลงการณ์ว่า รู้สึกเสียใจอย่างสุดซึ้ง และว่านิการากัวละเลยมิตรภาพของไต้หวันที่มีมานานหลายปี แต่ไต้หวันจะยังส่งเสริมการทูตเชิงปฏิบัติและมีสิทธิในการแลกเปลี่ยนและพัฒนาความสัมพันธ์ทางการทูตกับประเทศอื่นๆ ต่อไป

 

ด้านกระทรวงต่างประเทศสหรัฐอเมริกาวิจารณ์การตัดสินใจดังกล่าวของนิการากัวว่า ไม่ได้สะท้อนเจตจำนงของชาวนิการากัว เนื่องจากรัฐบาลไม่ได้รับการเลือกตั้งอย่างเสรี โดยผู้สังเกตการณ์บางคนมองว่า การเลือกตั้งของนิการากัวไม่มีความชอบธรรมตามระบอบประชาธิปไตย เนื่องจากมีรายงานว่า ผู้เข้าแข่งขันชิงตำแหน่งประธานาธิบดีหลายคนถูกควบคุมตัว

"หากปราศจากอำนาจหน้าที่ที่มาพร้อมกับการเลือกตั้งที่เสรีและยุติธรรม การกระทำดังกล่าว (ของประธานาธิบดีแดเนียล ออร์เตกา แห่งนิการากัว) จะไม่สามารถสะท้อนเจตจำนงของชาวนิการากัวได้" นายเน็ด ไพรซ์ โฆษกกระทรวงต่างประเทศ กล่าวและเรียกร้องให้ "ทุกประเทศให้ความสำคัญกับสถาบันประชาธิปไตย" เพื่อ "ขยายการมีส่วนร่วมกับไต้หวัน"

ความคิดเห็นของโฆษกกระทรวงต่างประเทศสหรัฐมีขึ้นขณะที่สหรัฐจัดประชุมสุดยอดเพื่อประชาธิปไตยเป็นเวลา 2 วัน ซึ่งไต้หวันได้รับเชิญ แต่ไม่มีจีนแผ่นดินใหญ่ด้วย โดยเรียกร้องให้ประชาธิปไตย "ขยายการมีส่วนร่วมกับไต้หวัน"

 

ทั้งนี้ ปักกิ่งมองไต้หวันเป็นมณฑลที่แตกแยกออกไปและจะรวมเข้ากับแผ่นดินใหญ่ในวันข้างหน้า แต่ไต้หวันมองว่าตนเป็นประเทศเอกราชที่ปกครองตามระบอบประชาธิปไตย แม้จะไม่เคยประกาศเอกราชจากจีนแผ่นดินใหญ่ ส่วนประเทศใดที่ต้องการสถาปนาความสัมพันธ์กับจีนแผ่นดินใหญ่ จะต้องตัดความสัมพันธ์ทางการทูตกับไต้หวันก่อน ตามเงื่อนไขของปักกิ่ง

ข่าวที่เกี่ยวข้อง