อดีตจนท.อาวุโสชี้ปรับปรุงระบบเลือกตั้ง ช่วย 'ฮ่องกง' พบอนาคตสดใสยิ่งขึ้น
ฮ่องกง, 10 มี.ค. (ซินหัว) -- เมื่อวันอังคาร (9 มี.ค.) เอลซี เหลียง อดีตหัวหน้าสำนักงานยุติธรรมประจำรัฐบาลเขตบริหารพิเศษฮ่องกง (HKSAR) ของจีน ระบุว่าการปรับปรุงระบบการเลือกตั้งของฮ่องกงเป็นเรื่องสำคัญอย่างยิ่ง ตั้งอยู่บนพื้นฐานทางกฎหมายอันแข็งแกร่ง และจะทำให้ฮ่องกงมีอนาคตที่สดใสยิ่งขึ้น
เหลียงแสดงความเห็นดังกล่าวขณะร่างมติการปรับปรุงระบบการเลือกตั้งของเขตบริหารพิเศษฮ่องกง ถูกเสนอต่อสภาผู้แทนประชาชนแห่งชาติจีน (NPC) เพื่อพิจารณาในที่ประชุมประจำปีของสภานิติบัญญัติระดับสูงสุด
เหลียงกล่าวว่าการบังคับใช้นโยบาย "หนึ่งประเทศ สองระบบ" ในฮ่องกงเป็นไปอย่างมั่นคงด้วยแรงสนับสนุนจากรัฐบาลกลาง แต่ทว่ายังคงต้องการวิธีการใหม่เพื่อแก้ไขปัญหาที่เกิดขึ้นในช่วงไม่กี่ปีที่ผ่านมา ซึ่งรวมถึงความไม่สงบทางสังคมในปี 2019
ฮ่องกงสามารถฟื้นฟูเสถียรภาพด้วยการดำเนินงานของรัฐบาลกลาง แต่ขบวนการต่อต้านจีนผลักฮ่องกงสู่ความวุ่นวายอีกครั้ง หลังจากการแพร่ระบาดของโรคติดเชื้อไวรัสโคโรนาสายพันธุ์ใหม่ (โควิด-19) ถูกควบคุมได้แล้ว ซึ่งอาจก่อให้เกิดผลกระทบที่หนักหนาเกินรับได้
เหลียงกล่าวว่ามาตรการที่จำเป็นต้องถูกบังคับใช้เพื่อปรับปรุงระบบการเลือกตั้งและรับรองหลักการ "ผู้รักชาติบริหารฮ่องกง" เพื่อไม่ให้อำนาจบริหารเขตบริหารพิเศษฮ่องกงตกอยู่ในมือของขบวนการต่อต้านจีน และป้องกันไม่ให้ผู้ยุยงปลุกปั่นความไม่สงบในท้องถิ่น ซึ่งมีการสมรู้ร่วมคิดกับกลุ่มบุคคลภายนอก สร้างภัยคุกคามต่อความมั่นคงของชาติและชาวฮ่องกง
พื้นฐานทางกฎหมายของร่างมติข้างต้นนั้นแข็งแกร่ง อยู่ภายใต้ขอบเขตอำนาจของรัฐบาลกลาง เพื่อกำหนดระบบตามระบอบประชาธิปไตยแบบใหม่ที่เหมาะสมกับสภาพความเป็นจริงของฮ่องกง ซึ่งรวมถึงการคัดเลือกผู้บริหารสูงสุดและการจัดตั้งสภานิติบัญญัติ (LegCo) ของเขตบริหารพิเศษฮ่องกงอย่างเป็นขั้นตอนและเป็นระเบียบ
เหลียงกล่าวว่าสภาผู้แทนประชาชนแห่งชาติจีนสามารถลงมติเพื่อแก้ไขประเด็นต่างๆ ที่เกี่ยวข้องกับระบบการเลือกตั้งของฮ่องกงเมื่อจำเป็นได้ พร้อมเสริมว่าหลักการ "ผู้รักชาติบริหารฮ่องกงไม่ได้เป็นเพียงแค่สโลแกน โดยการบังคับใช้หลักการนี้จำเป็นต้องมีการรับรองทางกฎหมาย
เหลียงทิ้งท้ายว่าหลังจากระบบการเลือกตั้งได้รับการปรับปรุงแล้ว ผู้รักชาติและผู้มีศักยภาพจะสามารถเข้าสู่โครงสร้างอำนาจของเขตบริหารพิเศษฮ่องกง และสร้างความพยายามร่วมกันเพื่อพัฒนาฮ่องกง นำมาซึ่งอนาคตที่สดใสยิ่งขึ้น