'หนุ่มตัดยูคา' เผยวิธีเอาตัวรอดในป่าหลังหนีโขลงช้างป่าอยู่ 21 วัน อาศัยกินใบไม้-น้ำประทังชีวิต
‘หนุ่มตัดยูคา’ เผยวิธีเอาตัวรอดในป่าหลังหนีโขลงช้างป่าอยู่ 21 วัน อาศัยกินใบไม้-น้ำประทังชีวิต ชาวบ้านมาผูกข้อมือเรียกขวัญ
จากกรณีนายทองสา วันทุมมา อายุ 43 ปี อยู่บ้านเลขที่ 19 หมู่ 22 ต.วังท่าช้าง อ.กบินทร์บุรี จ.ปราจีนบุรี หนุ่มรับจ้างตัดไม้ยูคาลิปตัสได้หายตัวกลางป่า 21 วัน เจ้าตัวเผยวันเกิดเหตุขับขี่รถ จยย.กำลังจะกลับบ้านจากฝั่ง อ.สนามชัยเขต จ.ฉะเชิงเทรา เพิ่มข้ามมารอยตะเข็บติดต่อกับ จ.ปราจีนบุรี บ้านวังทอง หมู่ 22 ต.วังท่าช้าง อ.กบินทร์บุรี จ.ปราจีนบุรี ระหว่างทางเจอโขลงช้างป่าเขตรักษาพันธุ์สัตว์ป่าเขาอ่างฤาไน จ.ฉะเชิงเทรา โขลงใหญ่ ที่พากันออกนอกเขตที่อยู่ประจำ ในป่าราบต่ำผืนสุดท้ายเขตพื้นที่รอยต่อ 5 จังหวัดภาคตะวันออก (จ.ฉะเชิงเทรา,จ.สระแก้ว,จ.ชลบุรี,จ.ระยอง และ จ.จันทบุรี) ข้ามฝั่งไป – มา เข้ามาหากินในเขตพื้นที่ อ.กบินทร์บุรี จ.ปราจีนบุรีอย่างต่อเนื่องจนเกือบกลายเป็นถิ่นที่อยู่ประจำไปแล้ว
จึงหนีช้างป่า เอาชีวิตรอด ด้วยความตกใจกลัวจึงวิ่งหนี และหาทางออกจากป่ายางพาราและป่ายูคาลิปตัสของเอกชน ที่มีพื้นที่มากกว่าสองหมื่นไร่ไปได้ จึงใช้ชีวิตอยู่ในป่าที่เต็มไปด้วยโขลงช้างป่า ในแต่ละวันได้พบและหนีช้างป่าเพราะฝูงช้างป่าเป็นฝูงใหญ่ ซึ่งหากินอยู่ในป่ายางพาราและป่ายูคาลิปตัส เพื่อเอาชีวิตรอดทุกวัน ท่ามกลางการติดตามหาของผู้นำท้องถิ่น ทั้งกำนัน ผู้ใหญ่บ้าน มารดา ญาติ เพื่อนบ้าน และจิตอาสาฯช่วยตามหาตัวในป่าอย่างต่อเนื่อง
ตลอดจนความเชื่อในการบนบานสานกล่าวกับศาลปู่ตาประจำหมู่ตา ,เจ้าที่เจ้าทาง เจ้าป่าเจ้าเขา ทำพิธีทางสงฆ์เพื่อขอเปิดป่า รวมถึงระดมผู้คนค้นหาออกติดตามกันตลอดทุกๆวันแต่ไม่พบตัว พบเพียงแต่ร่องรอยโขลงช้าง และรถ จยย.นายทองสา ที่จอดทิ้งไว้ และ กระท่อม(ขนำ) ที่พักที่ถูกโขลงช้างป่าพังจนราบเรียบ นั้น และต่อมาเมื่อวันที่ 11 ม.ค. นายทองสา หนีออกจากป่าได้เป็นผลสำรวจ และได้มาขอความช่วยเหลือจากชาวบ้าน ให้ไปส่งบ้านญาติและนำตัวไปพบพนักงานสอบสวน สภ.วังคู อ.สนามชัยเขต จ.ฉะเชิงเทรา และทางญาติได้นำตัวกลับบ้านพร้อมจัดพิธีสู่ขวัญนำด้ายสายสิญจน์มาผูกข้อมือเรียกขวัญนายทองสาที่เอาชีวิตรอดจากป่ามาได้อย่างปลอดภัย
สำหรับความคืบหน้าล่าสุดวันนี้ ( 12 ม.ค.) นายทองสาได้นอนอยู่บ้านไม้ยกพื้นสูงกับแม่ 2 คน ซึ่งนายทองสายังอยู่ในสภาพที่อิดโรย ใช้ไม้เท้าพยุงตัวในการเดิน เนื่องจากขาอ่อนแรง เนื่องจากเดินและวิ่งหนีช้างตลอด 20 วันที่ผ่านมา
นายทองสา เล่าถึงการดำรงชีวิตในป่าในช่วงที่ผ่านมา ตลอดเวลาที่อยู่ในป่านั้นไม่ได้กินข้าว อาศัยกินใบไม้ที่มีรสเปรี้ยว (ใบส้มเสี้ยว) และหากินน้ำตามหนอง คลองบึงที่พอมีน้ำอยู่ ตกกลางคืนนอนอยู่ในป่ากวาดใบไม้มารองนอนเพื่อความอบอุ่นให้กับร่างกาย
หลังจากตื่นนอนก็ออกเดินเพื่อหาทางออกจากป่า แต่ก็หาทางออกไม่พบ ในใจคิดว่าอย่างไรตัวเองก็ไม่มีชีวิตรอดจากป่านี้แน่นอน และนึกถึงคุณพระและนึกถึงพระคุณพ่อ–แม่ รวมถึงบอกกล่าวเจ้าที่ เจ้าป่าขอให้ออกจากป่านี้พ้นด้วยเถิด
กระทั่งเมื่อวานนี้(11ม.ค.) ได้เดินระหกระเหินออกมาจากป่าได้เป็นผลสำเร็จและขอความช่วยเหลือจากเพื่อนบ้านให้ไปส่งบ้านญาติซึ่งห่างจากป่ายางและป่ายูคา 3 กิโลเมตร
และวันนี้ (12ม.ค.) ตั้งแต่เช้าได้มีผู้เฒ่าผู้แก่ในหมู่บ้านและใกล้เคียง ที่ทราบข่าวว่านายทองสายังมีชีวิตอยู่ออกมาจากป่าได้แล้วต่างพากันมาผูกข้อไม้ข้อมือเรียกขวัญให้กับนายทองสาอีกด้วย