คณะผู้เลือกตั้งสหรัฐฯ โหวต 'โจ ไบเดน' ยืนยันชัยชนะปธน.คนใหม่
วอชิงตัน, 14 ธ.ค. (ซินหัว) -- เมื่อวันจันทร์ (14 ธ.ค.) คณะผู้เลือกตั้งประธานาธิบดี (Electoral College) ของสหรัฐฯ ลงคะแนนเสียงเลือกประธานาธิบดีคนใหม่โดยอ้างอิงผลการเลือกตั้ง 2020 ส่งผลให้ท้ายที่สุด โจ ไบเดน ผู้ท้าชิงจากพรรคเดโมแครต คว้าชัยชนะอย่างเป็นทางการ
ไบเดน ได้รับคะแนนเสียงจากคณะผู้เลือกตั้งเกิน 270 คะแนน หลังแคลิฟอร์เนีย ซึ่งมีคะแนนคณะผู้เลือกตั้งทั้งหมด 55 คะแนนและถือว่าสูงสุดในประเทศ เทคะแนนเสียงให้ไบเดน ทำให้เขาคว้าตำแหน่งประธานาธิบดีอย่างเป็นทางการเมื่อเย็นวันจันทร์ (14 ธ.ค.)
ผลการลงคะแนนเสียงของคณะผู้เลือกตั้งจากรัฐสำคัญ เช่น เพนซิลเวเนีย มิชิแกน วิสคอนซิน จอร์เจีย และแอริโซนา ซึ่งโดนัลด์ ทรัมป์ ผู้ท้าชิงจากพรรครีพับลิกัน ต่อสู้อย่างดุเดือดแต่พ่ายแพ้ ไม่ต่างจากการคาดการณ์นัก
ไบเดนมีกำหนดขึ้นกล่าวปราศรัยหลังชนะการเลือกตั้งราว 19.30 น. ของวันจันทร์ (14 ธ.ค.) ตามเวลาเขตตะวันออก (ET) โดยทีมเจ้าหน้าที่เปลี่ยนผ่านตำแหน่งของเขาได้เผยแพร่บทปราศรัยของไบเดน ซึ่งเขาจะกล่าวว่า "ถึงเวลาที่เราจะเข้าสู่ยุคใหม่ เพื่อความสามัคคีและการฟื้นฟู"
"ผมจะทำงานอย่างหนักเพื่อทุกคนอย่างเท่าเทียม ทั้งคนที่เลือกและไม่ได้เลือกผม" ซึ่งเป็นการให้คำมั่นในการเป็น "ประธานาธิบดีของชาวอเมริกันทุกคน" อีกครั้ง
เมื่อวันจันทร์ (14 ธ.ค.) หลังจากคณะผู้เลือกตั้งของแต่ละรัฐร่วมลงคะแนนเสียงโดยอิงผลการเลือกตั้ง 2020 หน่วยงานที่เกี่ยวข้องจะรับรองผลที่ได้ก่อนจะส่งต่อให้สภาคองเกรส หอจดหมายเหตุแห่งชาติ และศาลสหรัฐฯ ต่อไป โดยสภาคองเกรสจะรับรองผลการเลือกตั้งของคณะผู้เลือกตั้งในวันที่ 6 ม.ค. ซึ่งจะเป็นขั้นต่อไปในกระบวนการเปลี่ยนผ่านตำแหน่งประธานาธิบดี
แม้คณะผู้เลือกตั้งจะลงคะแนนเสร็จสิ้นแล้วในวันจันทร์ (14 ธ.ค.) แต่ทรัมป์และพรรคพวกของเขายังคงพยายามเปลี่ยนแปลงผลการเลือกตั้ง โดยแย้งว่ารัฐธรรมนูญสหรัฐฯ กำหนดวันที่ 20 ม.ค. เป็นวันที่ประธานาธิบดีปฏิญาณตนเข้ารับตำแหน่งเท่านั้น และรัฐมิชิแกนต้องปิดอาคารของหน่วยงานรัฐระหว่างที่คณะผู้เลือกตั้งลงคะแนนเสียง เนื่องจากถูกขู่จะใช้ความรุนแรงและการประท้วง
ทีมหาเสียงเลือกตั้งของทรัมป์ยื่นฟ้องร้องผลการเลือกตั้งหลายครั้ง โดยพรรคพวกของทรัมป์หลายคนถูกปลดออกจากตำแหน่งทั้งระดับรัฐและระดับประเทศ ตั้งแต่จัดการเลือกตั้งขึ้นในเดือนพฤศจิกายน