วิวาห์ล่ม หนุ่มนำทอง 10 บาท หลอกหมั้นสาว ยอมอยู่กินผัวเมีย ก่อนออกอุบายหนีหายแวบ
เมื่อเวลา 10.00 น. วันที่ 20 ตุลาคม ผู้สื่อข่าว จ.ปราจีนบุรี รายงานความคืบหน้าจากกรณีเจ๊ดาแม่ค้าขายผักชาววังตะเคียน อ.กบินทร์บุรี จ. ปราจีนบุรี ร้องทุกข์กับผู้สื่อข่าวได้รู้จักกับนายฤทัย (ขอสงวนนามสกุล) ผ่านทางเฟซบุ๊ก และพบตัวจริงกันโดยนายฤทัย เป็นชาวจังหวัดนครราชสีมา แต่มารับเหมาทำแท๊งน้ำประปาในพื้นที่ อ.กบินทร์บุรี หลังจากคบหา ไปมาหาสู่ฝ่ายชายบอกรักและขอ อยู่ด้วยจากนั้นได้นำสร้อยคอทองคำน้ำหนัก 10 บาท มาหมั้นหมาย มีญาติฝ่ายหญิงรับรู้และอยู่กินฉันผัวเมีย ระหว่างนั้นขอเก็บเงินไว้แต่งงานกันโดยตกลง สินสอด จำนวนเงิน 100,000 บาท ทองหนัก 4 บาท ฝ่ายชายบอกว่าจะมาสู่ขอหลังจากออกพรรษา
แต่ช่วงก่อนออกพรรษาฝ่ายหญิงได้ จัดงานแต่งลูกชาย นายหฤทัยได้มาขอสร้อยทองคำ 10 บาท ใส่งานแต่ง หลังจากงานแต่งแล้วนายฤทัย บอกว่าขอใส่ทองคำต่ออีกหน่อยจะไปทำธุระ ฝ่ายหญิงยังไม่เฉลียวใจ ได้ยังเตรียมกันที่จะไปดูชุดเตรียมใส่ในวันแต่งงานด้วย พร้อมให้สร้อยคอทองคำฝ่ายชายใส่ต่อไปอีก จากนั้น นายฤทัย ได้หายออกจากบ้านไปไม่ติดต่อกลับไม่ติดต่อกลับมาทางฝ่ายหญิงได้ติดต่อหา
นายฤทัย ได้บอกว่าขอโทษตนเองมีเมียแล้วต้องขอโทษกับสิ่งที่ทำลงไป อย่าแจ้งความเอาผิดเลยและอย่าสาปแช่งขอจบกันเพียงแค่นี้ และจะไปทำงาน พื้นที่จังหวัดอื่นตามที่ได้นำเสนอรายละเอียดไปก่อนหน้านี้ นั้น
ความคืบหน้าล่าสุด เมื่อเวลา 10.30 น. วันที่ 20 ตุลาคม ผู้เสียหายถูกชาย อายุ 47 ปี ซึ่งเป็น ผู้รับเหมาก่อสร้างชาวโคราช มาหลอกว่าจะแต่งงานในช่วงวันออกพรรษา เมื่อใกล้กำหนดกลับหนีหาย ติดต่อไม่ได้ จึงได้เดินทางเข้าแจ้งความร้องทุกข์กับ ต่อ พ.ต.ท.อาทิตย์ ศรีปราชญ์ รอง ผกก.สส.สภ.วังตะเคียน อ.กบินทร์บุรี จ.ปราจีนบุรี โดยมี พ.ต.อ.ประเสริฐศักดิ์ จันทร์ประเทศ ผกก.ร่วมรับฟังการเข้าแจ้งความ
โดยเจ้ดา แจ้งว่า ชายดังกล่าว เป็นคน จ.นครราชสีมา มารับเหมาก่อสร้างถังน้ำในพื้นที่ และมาตีสนิทกับตนเองจนตายใจ และยังมอบสร้อยคอทองคำหนัก 10 บาท พร้อมพระเลี่ยมทอง 1 องค์ ว่า มอบให้เป็นของหมั้น และจะแต่งานกันในช่วงออกพรรษา จนทำให้ตายใจรับเข้ามาอยู่ในบ้านนานประมาณ 2 เดือน สุดท้ายชายดังกล่าว ทำทีขอยืมทองเอากลับไปใส่และออกอุบายว่ามีงานรับเหมาก่อสร้างที่ กทม. และเจ้ดาไม่สามารถติดต่อทางไลน์ได้ จึงได้โทรศัพท์ติดต่อได้รับคำตอบว่า มีเมียแล้วแต่ไม่ยอมรับผิดชอบแต่อย่างใด จึงเข้ามาแจ้งความเพื่อดำเนินคดีกับชายดังกล่าว
เจ้ดา ได้ให้สัมภาษณ์ว่า ที่เดินทางมาในครั้งนี้ เพื่อแจ้งความดำเนินคดีกับชายดังกล่าว ในคดีแพ่ง ข้อหาผิดสัญญาหมั้น พร้อมเรียกค่าเสียหายเงินสด 5 แสนบาทอีกด้วยและเป็นการเตือนภัยเพื่อนผู้หญิง และกล่าวเพิ่มเติมถึงเส้นทางรัก ที่ล่มก่อนถึงงานวันแต่งต่อไปว่า เริ่มรู้จักกันกับทางฝ่ายผ่านทางหน้าเฟซบุ๊กก่อน ต่อมาตนเองจัดงานวันเกิด จึงเริ่มเห็นหน้าค่าตากันทางฝ่ายชายได้ซื้อเหล้ามาให้ แต่ก็ยังรู้จักเพียงผิวเผิน เพียงรู้ว่าฝ่ายชายนั้นอยู่ในพื้นที่และ เป็นน้องชายของเพื่อน
“จากนั้นได้มีโอกาสพบกันอีกในงานแต่งงานของลูกสาวเพื่อน ฝ่ายชายได้ซื้อเหล้ารีเจนซี่มาให้ตอนแรกยังเข้าใจว่าเป็นสามีของเพื่อนเพราะหน้าตาคล้ายกัน เริ่มพัฒนาความสัมพันธ์ขึ้น ในงานวันขึ้นบ้านใหม่ฝ่ายชายซื้อเหล้าและเนื้อหมูมาให้ ช่วงอยู่ในใต้ถุนบ้านได้มอบพระเลี่ยมทองให้โดยบอกว่าไว้รักษาป้องกันตัว ก่อนกลับได้มอบสร้อยคอทองคำหนัก 10 บาท จากนั้นได้มาอยู่ร่วมกันดังกล่าว” เจ๊ดา กล่าว
ด้าน พ.ต.ท.อาทิตย์ เปิดเผยว่า จะได้ออกหมายเรียกฝ่ายชายพร้อมแจ้งข้อกล่าวหา ยักยอกทรัพย์และจะเชิญตัวมาให้ปากคำ และไกล่เกลี่ยต่อไป