รีเซต

คืบหน้าคลิป ผอ.โรงเรียนฉาว ตร.ท้องที่ ยังไม่ตั้งข้อกล่าวหาใดๆ เตรียมเกษียณ ก.ย.นี้

คืบหน้าคลิป ผอ.โรงเรียนฉาว ตร.ท้องที่ ยังไม่ตั้งข้อกล่าวหาใดๆ เตรียมเกษียณ ก.ย.นี้
มติชน
21 เมษายน 2563 ( 12:11 )
380

 

เมื่อวันที่ 21 เมษายน ผู้สื่อข่าวรายงานถึงความคืบหน้ากรณีคลิปฉาว! ผู้อำนวยการโรงเรียน อนาจารเด็กนักเรียนหญิงโผล่ว่อนเน็ต กระทั่งถูกชาวโซเชียลรุมประณามพร้อมกล่าวหาเป็นภัยสังคม​ และจี้ให้นำตัวมาลงโทษนั้น ล่าสุดผู้สื่อข่าวลงพื้นที่พบปะผู้อำนวยการโรงเรียนคลิปฉาวรายนี้ เพื่อสอบถามรายข้อมูลรายละเอียด ขณะเดียวกันยังเปิดคลิปฉาวดังกล่าวที่ถูกแชร์ว่อนบนสังคมโซเชียลมีเดียให้ชมดูอีกด้วย

 

จากข่าว

ด่วน!! สพฐ.สั่งย้าย ‘ผอ.หื่น’ เข้ากรุแล้ว ตั้ง กก.สอบ 7 วัน

– ผอ.ร.ร.โต้ไม่ได้หื่น! ชี้แค่มุมกล้องเหมือน แต่ไม่ใช่ขยำ ขู่เอาผิดคนปล่อยคลิปเก่า

– “ไทแคค” ส่งทีมลงพื้นที่ ลุยสืบสวนคดี ผอ.หื่นลวนลามเด็กหญิง

 

จากนั้นผู้อำนวยการโรงเรียนคลิปฉาวเปิดปากให้สัมภาษณ์ โดยยอมรับว่าชายในคลิปวีดีโอซึ่งดูแล้วก็น่าจะใช่ตนจริงๆ แต่ปฏิเสธไม่ได้ทำอะไรหรือลวนลามเด็กอย่างที่เข้าใจกัน โดยผู้อำนวยการโรงเรียนชี้แจงโดยเล่าให้ฟังด้วยว่า ภาพในคลิปที่เห็นเป็นบริเวณโต๊ะคอมพิวเตอร์ เด็กรายนี้เปิดคอมพิวเตอร์และดูคอมฯ ด้วยความสงสัย ตนจึงเดินไปบอกเด็กและกลับมานั้งโต๊ะไม่มีอะไรมากกว่านี้

 

“เหตุการณ์ในคลิปนี้เกิดขึ้นเมื่อราว 2 ปีแล้ว ปัจจุบันเด็กรายนี้ก็ไปเรียนที่โรงเรียนอื่นแล้ว ก็ไม่เข้าใจว่าเป็นฝีมือใครและสงสัยว่าเขามีเจตนาอะไร และหากรู้ว่าเป็นใครก็จะปรึกษาทนายและต้องแจ้งความให้ดำเนินคดีด้วย” ผู้อำนวยการโรงเรียนคลิปฉาวกล่าว

 

ข่าวแจ้งว่า สำหรับผอ.รร.คลิปฉาวรายนี้ จะเกษียณราชการในเดือนกันยายนที่จะถึงนี้ ส่วนความคืบหน้าทางคดีความ ล่าสุดทางเจ้าหน้าที่ตำรวจในท้องที่เกิดเหตุ ยังไม่ได้ตั้งข้อกล่าวหาหรือดำเนินคดีผอ.รร.แต่อย่างไร และเมื่อช่วงเย็นวานนี้​ (20เม.ย.) ทางคณะเจ้าหน้าที่พัฒนาสังคมและความมั่นคงของมนุษย์ และบ้านเด็กและครอบครัวจังหสัดรวมทั้งนักสังคมสงเคราะห์ ลงพื้นที่พบครอบครัวเด็กนร.หญิงเหยื่อถูกทำอนาจาร เพื่อยื่นมือให้ความช่วยเหลือ พร้อมช่วยนำตัวไปตรวจร่างกายและจิตใจที่โรงพยาบาลหล่มสัก รวมทั้งนำตัวทั้งเด็กและญาติไปให้ข้อมูลกับพนักงานสอบสวนในท้องที่​ สภ.เกิดเหตุ

 

ขณะเดียวกันทางเจ้าหน้าที่ พม.จังหวัดยังขอความร่วมมือทุกฝ่าย รวมทั้งสื่อโซเชียลมีเดียและสื่อมวลชน ให้คำนึงถึงการปฏิบัติต่อเด็กอย่างเหมาะสม และให้เป็นไปตาม พรบ.คุ้มครองเด็ก พ.ศ.2546 เพื่อป้องกันการกระทำซ้ำและละเมิดสิทธิของเด็ก

 

 

 

ข่าวที่เกี่ยวข้อง