DSI เตือน ! มุกใหม่มิจฉาชีพ โอน 800 ตกเหยื่อ
พ.ต.ต.สุริยา สิงหกมล อธิบดีกรมสอบสวนคดีพิเศษ หรือ ดีเอสไอ เปิดเผยกับ tnnthailand ถึงกลโกงมิจฉาชีพที่เปลี่ยนรูปแบบไปทุกวัน เพื่อหลอกล่อเอาเงินจากเหยื่อผู้เสียหายด้วยสารพัดวิธีการ โดยเฉพาะในยุคที่การโอนเงินง่ายแค่ปลายนิ้ว ผ่านแอปพลิเคชั่นในสมาร์ทโฟน
มิจฉาชีพจะโทรศัพท์หาเหยื่อ อ้างตัวว่าเป็นเจ้าหน้าที่ กล่าวหาว่าเหยื่อเป็นบัญชีม้ารับโอนเงินผิดกฎหมาย และเข้าข่ายถูกอายัดบัญชีทันที พร้อมระบุยอดเงิน วัน เวลา ที่ได้รับโอนเงินได้อย่างถูกต้อง ซึ่งเป็นยอดที่เหยื่อได้รับโอนจริง โดยมิจฉาชีพจะโอนเงินเข้าบัญชีให้เหยื่อจริงเพื่อให้ตายใจ แต่จำนวนไม่มาก ที่ได้รับเรื่องร้องเรียนคือ 800 บาท และเพื่อไม่ให้เกิดการอายัดบัญชี จะต้องให้เหยื่อยืนยันความบริสุทธิ์ใจด้วยการกรอกข้อมูลส่วนตัวผ่านระบบออนไลน์
“เป็นคนรู้จักของญาติโทรมาขอคำปรึกษา บอกว่ามีเจ้าหน้าที่โทรมา แล้วมียอดเงินเข้ามาจริงๆ บอกว่าต้องถูกฟรีซบัญชี ให้ยืนยันตัวตนผ่าน Google Forms แต่เขาขอวางสายแล้วรีบโทรขอคำปรึกษาจากญาติๆก่อน”
อธิบดีดีเอสไอ เตือนว่า เรื่องการถูกอายัดบัญชีอาจเกิดขึ้นจริงได้ แต่การติดต่อจากเจ้าหน้าที่ทางโทรศัพท์ เจ้าหน้าที่ต้องสามารถยืนยันตัวตนได้อย่างชัดเจน และวิธีการยืนยันความบริสุทธิ์ใจของผู้รับโอนเงินนั้น ต้องมีการนัดหมายกันที่หน่วยงานที่เกี่ยวข้อง หรือ สถานีตำรวจท้องที่เท่านั้น รวมถึงผู้ที่ถูกกล่าวหาต้องตรวจสอบทุกอย่างให้ครบถ้วน ไม่ควรรีบร้อนทำธุรกรรม เปิดลิงก์ หรือ กรอกข้อมูลส่วนตัวใดๆ และควรขอวางสายโทรศัพท์ เพื่อทิ้งระยะเวลา ขอคำปรึกษาญาติ คนใกล้ตัวก่อน ไม่ต้องรีบร้อน ซึ่งการอายัดบัญชีม้านั้นจะมีรายละเอียด มีเอกสาร หลักฐาน อย่างเป็นขั้นตอน
“การพูดคุยทางโทรศัพท์ ประชาชนต้องตั้งข้อสงสัยไว้ก่อน ต้องเอ๊ะ ไม่ต้องรีบร้อน ถึงในสายโทรศัพท์จะบอกว่าต้องติดคุกวันนี้ พรุ่งนี้ก็ตาม ที่สำคัญถึงเป็นเจ้าหน้าที่ ประชาชนก็ต้องตรวจสอบเจ้าหน้าที่ได้ ว่าเป็นใคร ชื่อ นามสกุล หน่วยงาน เบอร์โทร และเป็นหน้าที่ ที่เจ้าหน้าที่ต้องแสดงตัวให้ชัดเจนก่อนการดำเนินการใดๆ ต้องรายงานตัว ไม่ว่าจะเป็นดีเอสไอ สอบสวนกลาง กองปราบ ประชาชนต้องเช็คกลับได้ และนัดหมายเจอกันที่หน่วยงานราชการ ต้นสังกัด หรือโรงพักใกล้บ้านเท่านั้น”
ผู้เขียนข่าว
เรียบเรียงโดย : กุลชา ตั้งมหาศุกร์ บรรณาธิการข่าวดังสุดสัปดาห์
ที่มาภาพนิ่ง
ช่างภาพTNNถ่าย