รีเซต

สธ.แจงเงิน 2.5 หมื่นล้านจากพ.ร.ก.เงินกู้ ใช้ซื้อยา วัคซีน เวชภัณฑ์ ดูแลบุคลากร/ผู้ติดเชื้อโควิด

สธ.แจงเงิน 2.5 หมื่นล้านจากพ.ร.ก.เงินกู้ ใช้ซื้อยา วัคซีน เวชภัณฑ์ ดูแลบุคลากร/ผู้ติดเชื้อโควิด
มติชน
26 เมษายน 2564 ( 11:38 )
97
สธ.แจงเงิน 2.5 หมื่นล้านจากพ.ร.ก.เงินกู้ ใช้ซื้อยา วัคซีน เวชภัณฑ์ ดูแลบุคลากร/ผู้ติดเชื้อโควิด

นายแพทย์สุระ วิเศษศักดิ์ รองปลัดกระทรวงสาธารณสุข (สธ.) ให้สัมภาษณ์ว่า กระทรวงสาธารณสุข ได้รับการจัดสรรเงิน จาก พ.ร.ก.เงินกู้ฯ โควิด 19 ด้านการแพทย์และสาธารณสุข จำนวน 25,825.88 ล้านบาท ใช้ใน 39 โครงการโดยเป็นโครงการจากหน่วยงานในสังกัดกระทรวงสาธารณสุข 25,175.32 ล้านบาท และหน่วยงานนอก ได้แก่ กระทรวง อว.,โรงพยาบาลพระมงกุฎฯ, โรงพยาบาลตำรวจ,สำนักอนามัย กทม. จำนวน 650.56 ล้าน เพื่อดำเนินการใน 5 แผนงาน ได้แก่ ค่าเยียวยา ค่าชดเชย ค่าเสี่ยงภัย อสม. 4,726.38 ล้านบาท, จัดหายา วัคซีน ห้องปฏิบัติการ โดยกรมควบคุมโรคและสถาบันวัคซีน 2,655.30 ล้านบาท, การบำบัดรักษา ป้องกัน ควบคุมโรคและการวิจัย โดย สปสช. 6,764.90 ล้านบาท, เตรียมสถานพยาบาลในการรักษาและกักตัวผู้มีความเสี่ยงติดเชื้อ 10,182.73 ล้านบาท และรับมือสถานการณ์ฉุกเฉินการระบาด 1,496.57 ล้านบาท

 

 

นายแพทย์สุระ กล่าวว่า ขณะนี้มีโครงการที่ได้รับการจัดสรรเงินไปแล้ว 13 โครงการ วงเงิน 17,610.48 ล้านบาท ได้แก่ ค่าบริการสาธารณสุข, ค่าตอบแทน อสม./อุปกรณ์ห้องแยกโรค ,พัฒนาระบบบริการสุขภาพ ,จัดซื้อชุด PPE, Isolation Gown, N 95, Mask, วัคซีนโควิด 19, วัสดุควบคุมป้องกันโรค, เครื่องฉายรังสีรักษา, พัฒนาห้องปฏิบัติการ/เครื่องมือ/คุณภาพวัคซีน และค่าปฏิบัติการฉุกเฉินการแพทย์ ข้อมูล ณ วันที่ 16 เมษายน 2564 ได้ดำเนินการเบิกจ่ายไปแล้ว 5,859.92 ล้านบาท คิดเป็น 33.28 % ทั้งนี้ ยังมีโครงการที่รอจัดสรรอีก 26 โครงการ วงเงิน 8,215.40 ล้านบาท และมีวงเงินเหลือ 19,174.12 ล้านบาท

 

 

“การใช้เงินที่ได้มามีแผนการใช้ชัดเจน ครอบคลุมทุกมิติทั้งการควบคุมป้องกันโรค การรักษาพยาบาล รวมถึงการวิจัยพัฒนา การจ่ายค่าตอบแทนค่าเสี่ยงภัยเจ้าหน้าที่ ทำให้เรามียารักษาโรค มีวัคซีนเพียงพอกับกลุ่มเป้าหมาย มีการเพิ่มเตียง ขยายเตียงรักษาในรูปแบบต่างๆรองรับผู้ป่วย/ผู้ติดเชื้อเหมาะสมกับอาการ เจ้าหน้าที่มีขวัญกำลังใจดูแลประชาชน โดยความร่วมมือจากหน่วยงานภาคีเครือข่าย รัฐ เอกชน ประชาชน ที่สำคัญงบประมาณที่นำมาใช้ปรับเปลี่ยนตามสถานการณ์การระบาดของโรค เพื่อให้ประชาชนได้รับการดูแลที่ดีที่สุด” นายแพทย์สุระ กล่าว

ข่าวที่เกี่ยวข้อง