ATP30ปิดดีลลูกค้าโรงกลั่น ดันQ4พีค-อัตราใช้รถ90%

ทันหุ้น - ATP30 ลุ้นคว้างานให้บริการลูกค้าใหม่กลุ่มโรงกลั่น ภายใน 1-2 สัปดาห์นี้ หากลุล่วงเริ่มเดินรถทันทีช่วงปลายไตรมาส 4/64 นี้ เตรียมควักงบ 25-30 ล้านบาท ซื้อรถเพิ่มอีก 20-30 คัน คาดหนุนผลงานโค้งท้ายพีค หลังโรงงานกลับมาเดินเครื่องตามปกติ ดันอัตราใช้รถเพิ่มขึ้นแตะ 90% ฟากโบรกแนะ “ซื้อ” เคาะพิกัด 1.60 บาท
นายปิยะ เตชากูล กรรมการผู้จัดการ บริษัท เอทีพี 30 จำกัด (มหาชน) หรือ ATP30 ผู้ดำเนินธุรกิจให้บริการรถรับส่งพนักงานจากแหล่งที่พักอาศัยในเขตชุมชนไปยังโรงงานอุตสาหกรรมหรือสถานประกอบการ โดยเฉพาะรอบเขตนิคมอุตสาหกรรมในภาคตะวันออก (Eastern Seaboard) เปิดเผยว่า คาดทิศทางธุรกิจไตรมาส 4/2564 จะฟื้นตัวดีกว่า 3 ไตรมาสแรกเพราะปัจจุบันโรงงานอุตสาหกรรมในเขตพื้นที่ภาคตะวันออกกลับมาดำเนินธุรกิจปกติ ส่งผลให้อัตราการใช้รถมีปริมาณเพิ่มขึ้น โดยอัตราการใช้รถเพิ่มขึ้นมาที่ระดับ 90% จากครึ่งปีแรกที่ 60-70%
** ลุ้นคว้าดีลลูกค้าใหม่
ขณะเดียวกันไตรมาส 3 ที่ผ่านมา บริษัทให้บริการลูกค้ารายใหม่ซึ่งจะส่งผลต่อรายได้อย่างชัดเจนในไตรมาส 4/2564 แต่ปัจจัยที่จะกดดันต่อการดำเนินธุรกิจที่เหลือคือเรื่องราคามัน หากราคาน้ำมันปรับตัวเพิ่มขึ้นสูง จะทำให้บริษัทมีต้นทุนสูงตามไปด้วย
อีกทั้งบริษัทอยู่ระหว่างเจรจากับลูกค้าใหม่ ซึ่งเป็นกลุ่มโรงกลั่นปิโตรเคมี คาดจะจบดีลได้ภายใน 1-2 สัปดาห์ข้างหน้า หากเป็นไปตามแผน บริษัทจะสามารถให้บริการลูกค้ากลุ่มดังกล่าวได้ประมาณปลายไตรมาส 4/2564 เบื้องต้นบริษัทจะใช้รถตู้ เพื่อบริการลูกค้าใหม่ราว 20-30 คัน จากปัจจุบันมีจำนวนรถให้บริการทั้งสิ้นกว่า 500 คัน และใช้เงินลงทุนเพื่อซื้อรถใหม่ราว 25-30 ล้านบาท
“โรงงานโรงกลั่นปิโตรเคมี เขาดูแลพนักงานค่อนข้างดี เพราะโรงงานต้องเดินเครื่องตลอด ดับนั้นหากเราเข้าเจาะกลุ่มโรงกลั่นปิโตรเคมี จะทำให้เรามีลูกค้าที่ใช้บริการรถตลอดทั้งปี ตอนนี้เรากำลังคุยเพื่อให้บริการลูกค้ารายนี้ คาดจะปิดดีลได้ใน 1-2 สัปดาห์ข้างหน้า”นายปิยะ กล่าว
** มั่นใจรายได้ชนเป้า
ส่วนรายได้ทั้งปี 2564 บริษัทมั่นใจจะเติบโตได้ตามเป้าไม่ต่ำกว่า 15% จากปีก่อนที่ 391.73 ล้านบาท โดย 6 เดือนแรกของปีนี้บริษัทมีรายได้แล้ว 219.89 ล้านบาท ขณะที่ปี 2565 บริษัทประเมินทิศทางธุรกิจจะเติบโตต่อเนื่องจากปีนี้ และคาดรายได้จะโตไม่ต่ำกว่า 15% จากการให้บริการลูกค้าใหม่มากขึ้น
นายปิยะ กล่าวต่อว่า ขณะที่ทิศทางอัตรากำไร (มาร์จิ้น) ในปี 2565 จะกลับมาฟื้นตัวได้หรือไม่ คงต้องติดตามปัจจัยเรื่องการท่องเที่ยวและราคาน้ำมันเป็นหลัก หากการท่องเที่ยวฟื้นตัวและการบริการรถรับส่งนักท่องเที่ยวสามารถดินรถได้ปกติ คาดจะช่วยหนุนมาร์จิ้นของบริษัทให้ฟื้นตัวกลับ
** เคาะราคา 1.60 บาท
บริษัทหลักทรัพย์ โกลเบล็ก จำกัด หรือ GBS แนะนำ “ซื้อ” ATP30 ราคาเหมาะสม 1.60 บาท คาดกำไรปี 2564-65 เพิ่มขึ้น 27% และ 34% ตามลำดับ ซึ่งผลการดำเนินงานในช่วงครึ่งปีหลัง 2564 มีโอกาสเติบโตกว่าช่วงครึ่งปีแรก 2564 จากการได้ลูกค้าใหม่ที่เริ่มบริการตั้งแต่ไตรมาส 3/2564 และการประกาศล็อกดาวน์และการใช้มาตรการคุมเข้มในการลดความแออัดระหว่างการเดินทาง ทำให้ลูกค้าเดิมมีแนวโน้มจะเพิ่มจำนวนรถบริการ โดยมีลูกค้าโรงงานอุตสาหกรรมสั่งเพิ่มจำนวนรถแล้ว 5-6% ของจำนวนรถบริการทั้งหมด
ฝ่ายวิจัยประมาณการรายได้ปี 2564 ราว 449 ล้านบาท และคาดกำไรราว 36.6 ล้านบาท ซึ่งเติบโต 15% และ 27%ตามลำดับ ขณะที่ประมาณการในปี 2565 คาดรายได้ราว 471 ล้านบาท เติบโต 5% และคาดกำไรราว 48.9 ล้านบาท เติบโต 34% คิดเป็นอัตราการเติบโตเฉลี่ย (CAGR) ระหว่างปี 2564-65 เท่ากับ 30% ต่อปี