“พระจันทร์เป็นสีเลือด” สาเหตุเกิดจากอะไร เกี่ยวกับความเชื่อเรื่องใดบ้าง?

คืนนี้ (7 ก.ย.) ถึงเช้ามืดวันพรุ่งนี้ (8 ก.ย.) คนไทยจะได้ชมปรากฏการณ์ จันทรุปราคาเต็มดวง ครั้งสำคัญในรอบ 3 ปี โดยดวงจันทร์จะเคลื่อนเข้าสู่ เงามืดของโลก ช่วงเวลา 00:31 – 01:53 น. ของวันที่ 8 ก.ย. ทั้งดวงจันทร์เต็มดวงจะปรากฏเป็นสีเลือด (Blood Moon) หรือ สีแดงอิฐ

 “พระจันทร์เป็นสีเลือด” เกิดจากอะไร ?

ปรากฏการณ์  “พระจันทร์เป็นสีเลือด” นี้เกิดขึ้นเพราะแสงอาทิตย์ที่ส่องมากระทบโลกต้องผ่าน ชั้นบรรยากาศโลก ก่อนถึงดวงจันทร์ ชั้นบรรยากาศโลกทำหน้าที่เหมือนฟิลเตอร์กรองแสง กรองแสงที่มีความยาวคลื่นสั้น เช่น น้ำเงิน ฟ้า และเขียวออกไป ทำให้เหลือเฉพาะแสงสีแดงที่มีความยาวคลื่นยาว หักเหเข้าไปในเงามืดของโลก เมื่อแสงสีแดงนี้ตกกระทบและสะท้อนจากดวงจันทร์ จึงปรากฏเป็นสีแดงอิฐให้ผู้ชมบนโลกเห็น

 “พระจันทร์เป็นสีเลือด” ดูได้วันไหน

ผู้สนใจชม  “พระจันทร์เป็นสีเลือด” สามารถชมด้วยตาเปล่าทั่วประเทศ ในคืนวันที่ 7 ถึงเช้ามืด 8 ก.ย. หากฟ้าปิดหรือฝนตก สามารถติดตามการถ่ายทอดสดได้ตั้งแต่เวลา 22:29 – 03:55 น. ทางเพจเฟซบุ๊ก NARIT สถาบันวิจัยดาราศาสตร์แห่งชาติ

ความเชื่อที่เกี่ยวเกี่ยวกับพระจันทร์เป็นสีเลือด

- ชาวเมโสโปเตเมียและอินคา เชื่อว่า ดวงจันทร์สีเลือดเป็นสัญลักษณ์ของความตายและการล่มสลาย

- ชนเผ่าพื้นเมืองอเมริกันบางเผ่าเชื่อว่าดวงจันทร์จะเปลี่ยนเป็นสีแดงเมื่อปราศจากความรักและความห่วงใย ดังนั้น ดวงจันทร์สีเลือดจึงหมายความว่าดวงจันทร์ต้องการความรักใคร่ 

- ตามความเชื่อของชาวจีนจะเป็นช่วงที่พลังหยินหนาวเหน็บ คนที่ร่างกายอ่อนแอ บางคนเจ็บป่วยกระทันหัน บางคนเจอฝันร้าย หรือ เคราะห์ร้ายไม่คาดคิด

- ตามความเชื่อของศาสนาคริสต์ ในพระคัมภีร์ ระบุว่า เป็นสัญญาณของวันพิพากษา และ การเสด็จมาของพระเจ้าครั้งใหญ่

ขณะที่คนไทยเชื่อว่าเป็นลางร้ายอาจเกิดเรื่องไม่ดีกับบ้านเมือง อย่างไรก็ตาม บางวัฒนธรรมเชื่อว่าเมื่อดวงจันทร์สีเลือดเกิดขึ้น หมายความว่า ถึงเวลาที่จะสำรวจด้านมืดของตนเอง และ ดำดิ่งลงสู่อารมณ์ที่ซ่อนเร้นอยู่ในจิตใต้สำนึกของเรา เช่น ความโกรธ , ความโศกเศร้า ดวงจันทร์สีเลือดเป็นสัญลักษณ์ว่าถึงเวลาที่จะปล่อยวางและเยียวยา 

โดยสรุปแล้วการเกิดปรากฏการณ์จันทรุปราคาเต็มดวง ดวงจันทร์จะปรากฏเป็นสีเลือด หรือ Blood Moon สีแดงเกิดจากแสงอาทิตย์ที่ผ่านชั้นบรรยากาศโลก กรองแสงสั้นและสะท้อนมายังดวงจันทร์ ทำให้มองเห็นเป็นสีแดง

แม้หลายวัฒนธรรมเชื่อมโยง Blood Moon กับลางหรือสัญญาณพิเศษ แต่ในทางวิทยาศาสตร์เป็นปรากฏการณ์ธรรมชาติที่เกิดจากการโคจรและแสง ไม่เกี่ยวข้องกับเหตุการณ์เหนือธรรมชาติใด ๆ