จับตาสภาฯ พิจารณาร่างพ.ร.บ.ประชามติ ‘เพื่อไทย’ หนุน 3 ประเด็นหลัก
วันนี้ (18 มิ.ย. 67 ) สภาผู้แทนราษฎร จะมีการประชุมสภาสมัยวิสามัญ เพื่อพิจารณาร่าง พ.ร.บ.ประชามติ ทั้ง 4 ฉบับ ซึ่งมีประเด็นว่าจะต้องทำประชามติแก้ไขรัฐธรรมนูญอย่างไร ส่วนวันถัดไปเป็นการพิจารณาร่าง พ.ร.บ.งบประมาณรายจ่ายประจำปี 2568 วงเงิน 3.7 ล้านล้านบาท ซึ่งทั้งรัฐบาลและฝ่ายค้าน ยืนยันความพร้อมเต็มที่
ทั้งนี้นางสาวขัตติยา สวัสดิผล สส.บัญชีรายชื่อ และรองโฆษกพรรคเพื่อไทย กล่าวว่า ร่าง พ.ร.บ.ประชามติ ที่พรรค จะเสนอเข้าสู่สภา มีทั้งหมด 4 ร่างฯ คือ ร่างของคณะรัฐมนตรี ร่างของพรรคเพื่อไทย ร่างของพรรคก้าวไกล และร่างของพรรคภูมิใจไทย
ในส่วนของพรรคเพื่อไทย เตรียมอภิปรายสนับสนุนใน 3 ประเด็นหลัก ได้แก่ ปรับการออกเสียงประชามติ ให้มาใช้ระบบเสียงข้างมากปกติ แต่ให้เกินเสียงของผู้ไม่ประสงค์จะใช้สิทธิออกเสียง เพื่อความถูกต้องชอบธรรม การออกเสียงประชามติ สามารถทำได้วันเดียวกันกับวันเลือกตั้งทั่วไปหรือวันเลือกตั้งท้องถิ่น เพื่อประหยัดงบประมาณ สนับสนุนให้สามารถออกเสียงผ่านช่องทางไปรษณีย์และระบบอิเล็คทรอนิกส์ได้
นางสาวขัตติยา ระบุว่า พ.ร.บ.ประชามติ ถือเป็นบันไดขั้นแรก ที่นำไปสู่การได้มาซึ่งรัฐธรรมนูญฉบับประชาชน เปิดทางให้มี สมาชิกสภาร่างรัฐธรรมนูญ หรือ สสร. ที่มาจากประชาชน และจากการศึกษาร่าง พ.ร.บ.ประชามติ ทั้ง 4 ฉบับ พบว่ามีความไม่แตกต่างกันมาก เชื่อว่าจะไม่เกิดปัญหาในการพิจารณา
ส่วนการร่าง พ.ร.บ.งบประมาณรายจ่ายประจำปี 2568 ในวันพรุ่งนี้ (19 มิ.ย.) คาดว่า ฝ่ายค้านต้องอภิปรายเรื่องนโยบายเงินดิจิทัล และโครงการซอฟต์พาวเวอร์ ซึ่งเป็นนโยบายเรือธงของพรรค หากฝ่ายค้านจะมีข้อท้วงติงเรื่องของการจัดงบประมาณ ก็ถือว่าเป็นเรื่องปกติ ไม่น่าห่วงอะไร พร้อมมั่นใจร่าง พ.ร.บ.งบประมาณ ปี 2568 จะผ่านวาระแรก ได้อย่างแน่นอน
นายธนกร วังบุญคงชนะ รองหัวหน้าพรรครวมไทยสร้างชาติ ย้ำว่า พรรครวมไทยสร้างชาติ มีความพร้อมในการร่วมพิจารณาร่าง พ.ร.บ.งบประมาณ ปี 2568 วงเงิน 3.75 ล้านล้านบาท ที่จะมีขึ้นในวันที่ 19-21 มิถุนายนนี้ ซึ่งการใช้เวลา 3 วันถือว่าเพียงพอ รัฐบาลทุกกระทรวงมีความพร้อมชี้แจงงบประมาณ
ซึ่งในส่วนของพรรครวมไทยสร้างชาติ ทั้งกระทรวงพลังงาน กระทรวงอุตสาหกรรมและที่เกี่ยวข้อง พร้อมร่วมพิจารณางบประมาณแผ่นดินอย่างรอบคอบ มีความคุ้มค่า เกิดประโยชน์สูงสุดต่อประชาชนและประเทศชาติ มั่นใจว่า จะผ่านการพิจารณาของสภา เพื่อให้การเบิกจ่ายงบประมาณเป็นไปตามกรอบเวลาไม่ล่าช้า
ทั้งนี้ อยากเห็นการอภิปรายของฝ่ายค้านเป็นไปอย่างสร้างสรรค์ รักษาเวลา รักษาระเบียบการประชุม เพื่อเกิดประโยชน์ต่อประเทศ หากมีการตรวจสอบและข้อเสนอแนะ สามารถทำได้ตามหลักการ ไม่ใช้อารมณ์ หรือวาทกรรมทางการเมือง ตนไม่อยากเห็นการใช้เวทีอภิปรายงบประมาณเป็นเวทีซักซ้อมการอภิปรายไม่ไว้วางใจอย่างที่เคยเกิดขึ้น
ภาพจาก: ทำเนียบรัฐบาล