รัสเซียกำลังก่อสงครามไฮบริดกับยูเครนจริงหรือ?
การโจมตีทางไซเบอร์ครั้งนี้ เกิดขึ้นขณะที่ความตึงเครียดระหว่างยูเครนกับรัสเซียยังคงพุ่งสูงตลอดเวลา ยูเครนและชาติตะวันตกกล่าวหาว่า รัสเซียวางกองกำลังนับแสนนายประชิดชายแดนยูเครนเพื่อเตรียมบุกยูเครนได้ตลอดเวลา ขณะที่การเจรจาเหนือวิกฤตยูเครนระหว่างรัสเซียกับชาติตะวันตก 3 รอบเมื่อสัปดาห์ที่แล้วไม่มีความคืบหน้า
รัฐมนตรีกระทรวงการเปลี่ยนผ่านดิจิทัลของยูเครนแถลงว่า หลักฐานทั้งหมดบ่งชี้ว่า รัสเซียอยู่เบื้องหลังการโจมตีทางไซเบอร์ และรัสเซียยังคงทำสงครามลูกผสมต่อไป
จุดประสงค์ของการโจมตีทางไซเบอร์ไม่ใช่แค่ข่มขู่ แต่ยังทำให้สถานการณ์ในยูเครนไม่มั่นคง ทำให้การทำงานของภาครัฐหยุดชะงัก และทำลายความไว้วางใจของประชาชนยูเครนที่มีต่อหน่วยงานรัฐ
ล่าสุด มีรายงานว่า เมื่อวานนี้ (18 มกราคม) รัสเซียได้ฝึกซ้อมรบในภูมิภาครอสตอฟใกล้กับชายแดนยูเครนด้วย
---"จงกลัวและคาดหวังสิ่งที่เลวร้ายที่สุด"---
หน่วยงานด้านความมั่นคงของของยูเครนเปิดเผยว่า การโจมตีทางไซเบอร์มีขึ้นในช่วงเช้าของวันศุกร์ที่ผ่านมา เป้าหมายคือเว็บไซต์ของรัฐบาลทั้งหมด 70 แห่ง รวมถึงเว็บไซต์ของกระทรวงการต่างประเทศ ที่ในช่วงเวลาหนึ่งแสดงข้อความเป็นภาษายูเครน รัสเซีย และโปแลนด์ว่า "จงกลัวและคาดหวังสิ่งที่เลวร้ายที่สุด"
อย่างไรก็ตาม หลังจากถูกโจมตีไม่กี่ชั่วโมง เว็บไซต์ที่ได้รับผลกระทบส่วนใหญ่ได้รับการกู้คืนแล้ว และได้รับผลกระทบไม่มากนัก
---มัลแวร์ทำลายล้างระบบ---
Microsoft ยักษ์ใหญ่ด้านซอฟต์แวร์ของสหรัฐฯ เตือนว่าการโจมตีทางไซเบอร์สามารถพิสูจน์ได้ว่าเป็นภัยและส่งผลกระทบต่อองค์กรมากกว่าที่หวาดกลัวเบื้องต้น
Microsoft กำลังวิเคราะห์มัลแวร์ หรือซอฟท์แวร์ที่ถูกสร้างขึ้นเพื่อแอบเข้าสู่ระบบคอมพิวเตอร์อย่างต่อเนื่อง แต่ก็เตือนว่า การโจมตีดังกล่าวอาจทำให้โครงสร้างพื้นฐานดิจิทัลของรัฐบาลไม่สามารถใช้งานได้
ไมโครซอฟต์ระบุว่า มัลแวร์ที่ใช้โจมตี ถูกออกแบบให้ดูเหมือนแรนซัมแวร์ แต่มีวัตถุประสงค์เพื่อทำลายล้างและเพื่อทำให้อุปกรณ์เป้าหมายใช้งานไม่ได้ มากกว่าที่จะเรียกค่าไถ่
พร้อมระบุว่า ว่าขณะนี้ยังไม่ได้ระบุผู้อยู่เบื้องหลังการโจมตี แต่เตือนว่าจำนวนหน่วยงานที่ได้รับผลกระทบอาจมีมากกว่าที่คิดไว้ในตอนแรก
---รัสเซียปฏิเสธ---
ด้านรัสเซียปฏิเสธข้อกล่าวหาและชี้ว่าไม่มีหลักฐานว่า รัสเซียอยู่เบื้องหลังการโจมตีทางไซเบอร์
ดมิทรี เปสคอฟ โฆษกของประธานาธิบดีวลาดิเมียร์ ปูติน กล่าวกับสำนักข่าว CNN ว่า รัสเซียไม่มีส่วนเกี่ยวข้องกับการโจมตีทางไซเบอร์ดังกล่าว, ชาวยูเครนกล่าวโทษทุกอย่างต่อรัสเซีย แม้แต่สภาพอากาศเลวร้ายในประเทศของพวกเขา
ก่อนหน้านี้ เคยเกิดเหตุโจมตีทางไซเบอร์ต่อยูเครนมาก่อน และยูเครนก็กล่าวหาว่ารัสเซียอยู่เบื้องหลัง แต่รัสเซียก็ปฏิเสธเช่นกัน
ด้าน โจเซป บอร์เรลล์ หัวหน้านโยบายต่างประเทศของสหภาพยุโรป ระบุว่า การโจมตีทางทหารครั้งใหญ่ต่อยูเครน อาจไม่ใช่สถานการณ์ที่เป็นไปได้มากที่สุด แต่เชื่อว่าการโจมตีทางไซเบอร์ แบบเดียวกับที่ยูเครนประสบเมื่อสัปดาห์ที่แล้วยังเกิดขึ้นได้เรื่อย ๆ และทาง EU กำลังกำลังเตรียมการคว่ำบาตรรัสเซียในกรณีที่มีการโจมตีทางทหารต่อยูเครน
---บุกจับอาชญากรเรียกค่าไถ่ไซเบอร์ตามคำขอสหรัฐฯ---
มีรายงานว่า รัสเซียได้ปฏิบัติการพิเศษบุกจับกุมอาชญากรเรียกค่าไถ่ไซเบอร์ REvil ตามคำร้องขอของรัฐบาลสหรัฐฯ แสดงให้เห็นถึงความร่วมมือระหว่างรัสเซียและสหรัฐฯ ในช่วงเวลาที่เกิดความตึงเครียดสูงระหว่างทั้งสองประเทศเหนือวิกฤตยูเครน
ปฏิบัติการดังกล่าวมีขึ้นขณะที่ยูเครนกำลังรับมือกับการถูกโจมตีไซเบอร์ แม้จะไม่มีข้อบ่งชี้ว่าสองเหตุกาณ์นี้เกี่ยวข้องกัน
FSB หรือหน่วยข่าวกรองรัสเซีย เปิดเผยว่า จากการตรวจค้นที่อยู่ 25 แห่ง สามารถจับกุมผู้ต้องสงสัยได้ 14 คน ยึดทรัพย์สินและของกลางได้มูลค่ามหาศาล
ทั้งนี้ REvil ถูกสงสัยว่าเป็นกลุ่มที่อยู่เบื้องหลังการโจมตีเรียกค่าไถ่ใน JBS SA บริษัท แปรรูปเนื้อสัตว์ที่ใหญ่ที่สุดในโลก
Reuteres รายงานว่า REvil ไม่ได้เกี่ยวข้องกับการโจมตีที่สำคัญใดๆ เป็นเวลาหลายเดือนแล้ว
---เราพร้อมไม่ว่าทางใด---
ส่วนความคืบหน้าหลังการเจรจา 3 รอบเหนือวิกฤตยูเครนและความมั่นคงในยุโรปตะวันออกที่รัสเซียได้หารือกับ สหรัฐฯ นาโต และองค์การว่าด้วยความมั่นคงและความร่วมมือในยุโรป หรือ OSCE แต่ไม่ประสบความสำเร็จ รัสเซียอยู่ระหว่างรอให้สหรัฐฯ กับ NATO ตอบกลับข้อเรียกร้องของตนเป็นลายลักษณ์อักษร
เจค ซัลลิแวน ที่ปรึกษาด้านความมั่นคงแห่งชาติของสหรัฐฯ กล่าวว่า สหรัฐฯ จะกำหนดขั้นตอนต่อไปต่อวิกฤตยูเครน หลังจากปรึกษาหารือกับพันธมิตรในอีกไม่กี่วันข้างหน้า และพร้อมจะรับมือกับรัสเซียในทุกทาง
ขณะเดียวกันสหรัฐฯ และชาติตะวันตก ก็แสดงความกังวลว่า รัสเซียอาจส่งผู้ก่อวินาศกรรมที่ได้รับการฝึกฝนเรื่องระเบิดมาสร้างเหตุการณ์ เพื่อใช้เป็นข้ออ้างในการบุกยูเครน
---ส่องกระจกดูสิ---
เยนส์ สโตลเทนเบิร์ก เลขาธิการ NATO เรียกร้องให้รัสเซียลดความตึงเครียดลง ระบุว่า พร้อมจะนั่งลงและรับฟังข้อกังวลจากรัสเซีย
ขณะที่ ดมิทรี เปสคอฟ โฆษกประธานาธิบดีปูติน ระบุว่า มี "ความเข้าใจบางอย่างระหว่าง" รัสเซียกับตะวันตก แต่โดยทั่วไป ตามหลักการแล้ว ขณะนี้สามารถพูดได้ว่าเรากำลังอยู่บนเส้นทางที่ต่างกัน บนเส้นทางที่ต่างกันโดยสิ้นเชิง และนั่นก็ไม่ใช่เรื่องดี เรื่องนี้น่าเป็นกังวล
ด้านดีมีโตร คูเลบา รัฐมนตรีต่างประเทศยูเครน ระบุว่า ยูเครนและพันธมิตรตะวันตกกำลังทำงานร่วมกันสำหรับแพ็คเกจควบคุมรัสเซีย"ในวงกว้าง ซึ่งจะรวมถึงการคว่ำบาตรใหม่ “ที่น่าเจ็บปวด" และการเคลื่อนไหวเพื่อเพิ่มความร่วมมือด้านการป้องกันประเทศกับตะวันตก
พร้อมกล่าวว่า หากปูตินอยากรู้ว่าทำไมเพื่อนบ้านหลายชาติถึงต้องการร่วมเป็นสมาชิก NATO ก็เพียงแค่ต้องส่องกระจกก็จะได้คำตอบ
—————
แปล-เรียบเรียง: สุภาพร เอ็ลเดรจ
ภาพ: Anatolii STEPANOV / AFP