ดาโอ ส่อง 2 หุ้นเครื่องดื่มชูกำลัง CBG-OSP จัดเก็บภาษีความหวานเริ่มวันนี้

#ทันหุ้น-บล.ดาโอ(ประเทศไทย) มีมุมมองเป็นกลางจากกรณีที่กรมสรรพาสามิต เริ่มจัดเก็บภาษีความหวานเฟสสุดท้ายตั้งแต่วันนี้(1 เม.ย.68) เป็นต้นไป ซึ่งมองว่าสำหรับผู้ผลิตเครื่องดื่มชูกำลัง ได้แก่ CBG และ OSP ซึ่งเป็นหุ้นที่อยู่ในตลาดหลักทรัพย์ และแนะนำกลยุทธ์การลงทุน
ฝ่ายวิจัยดาโอ มองว่า CBG จะกระทบเล็กน้อย โดยเครื่องดื่มคาราบาวแดง มีปริมาณน้ำตาลที่ 8g/100ml (12 gram/150 ml.) ซึ่งเดิมเสียภาษีน้ำตาลที่ 0.045 บาทต่อขวด สำหรับภาษีน้ำตาลใหม่จะเสียที่ 0.15 บาท/ขวด ฝ่ายวิจัยได้สอบถามไปยังบริษัทฯ เบื้องต้น บริษัทฯยังใช้สูตรเดิม โดยยังมีสต๊อกสินค้าเดิมที่ผลิตก่อนเริ่มใช้ภาษีน้ำตาลอัตราใหม่อยู่บางส่วน (คาดประมาณเกือบ 1เดือน, ฝ่ายวิจัยคาดยอดขายเฉลี่ยเดือนละ 85 ล้านขวด) ทั้งนี้ ฝ่ายวิจัยคาดผลกระทบเชิงลบจากภาษีน้ำตาลใหม่จะกระทบ GPM ของคาราบาวแดงในประเทศที่ 1% และกระทบกำไรปี 2568 ที่ 75 ล้านบาท หรือ downside ต่อประมาณการฝ่ายวิจัยที่ -2% (อิงสมมติฐาน ยอดขายตั้งแต่เดือน เม.ย. -ธ.ค. 2568 ที่ 85 ล้านขวด/เดือน และหักลบสต๊อกสินค้าเดิม)
อย่างไรก็ตาม ฝ่ายวิจัยยังไม่ได้รวมการปรับขนาดขวดแก้วและกระป๋องให้บางลงในประมาณการ ฝ่ายวิจัยมองว่าการปรับ packaging จะช่วย offset ผลกระทบจากภาษีน้ำตาลใหม่ได้ ทั้งนี้ บริษัทฯได้พัฒนาสูตรใหม่ที่ไม่เสียภาษีน้ำตาลเรียบร้อยแล้ว โดยอยู่ระหว่างการขออนุญาต
โดยฝ่ายวิจัยคงประมาณการกำไรปกติกลุ่มปี 2568 ที่ 6,413 ล้านบาท (+9% YoY) จากรายได้รวมที่ขยายตัวต่อเนื่องจากรายได้ทั้งในและต่างประเทศขยายตัว ตามการบริโภคที่ฟื้นตัว
กลยุทธ์ แนะนำซื้อหุ้น CBG ให้ราคาเป้าหมายที่ 95 บาท โดยคงประมาณการกำไรสุทธิปี 2568 อยู่ที่ 3,525 ล้านบาท เพิ่มขึ้น 24% โดยมีปัจจัยหนุนจาก รายได้รวมขยายตัว +18% YoY จากรายได้ domestic branded own +14% YoY, distribution +30%, overseas +10% YoY และ 2) GPM ขยายตัว จากต้นทุนวัตถุดิบที่ลดลง ทั้งนี้ฝ่ายวิจัยยังไม่ได้รวมการปรับขนาดขวดแก้วและกระป๋องให้บางลงในประมาณการ
ส่วนหุ้น OSP แนะนำถือ ให้ราคาเป้าหมายที่ 15.50 บาท มองการจัดเก็บภาษีน้ำตาล จะไม่มีผลกระทบ เพราะไม่ต้องเสียภาษีน้ำตาลเพิ่ม เนื่องจากได้ปรับปรุงสูตรให้น้ำตาลอยู่ในเกณฑ์เรียบร้อยแล้ว โดยคงประมาณการกำไรสุทธิปี 2568 ที่ 2,896 ล้านบาท( เพิ่มขึ้น 76% YoY) และกำไรปกติลดลง 5% YoY จาก 1) รายได้รวมเพิ่มขึ้น 6% YoY จากรายได้ domestic beverage เพิ่มขึ้น 4% YoY, personal care เพิ่มขึ้น 10% YoY, others ลดลง 30% YoY, international beverage เพิ่มขึ้น 20% YoY, 2) GPM ลดลงเล็กน้อยจาก GPM ของสินค้าใหม่ที่ปรับตัวลดลง และ 3) SG&A expensesปรับตัวเพิ่มขึ้น จาก A&P ที่เพิ่มขึ้น เพื่อ regain market share