ฝีดาษลิง ติดต่อจากละอองฝอยได้ แต่ไม่ง่ายเหมือนโควิด

จุฬาลงกรณ์ มหาวิทยาลัย จัดเสวนาวิชาการ ครั้งที่ 9 เรื่อง ชัวร์ก่อนแชร์ โรคฝีดาษลิง เพื่อเป็นเวทีเผยแพร่ความรู้ สร้างความเข้าใจที่ถูกต้องพร้อมสร้างความตระหนักให้ประชาชนในการเฝ้าระวังและป้องกันตนเอง

ศาสตราจารย์นายแพทย์ธีระวัฒน์ เหมะจุฑา หัวหน้าศูนย์วิทยาศาสตร์สุขภาพโรคอุบัติใหม่ คณะแพทยศาสตร์ จุฬาลงกรณ์มหาวิทยาลัย กล่าวถึงสถานการณ์พบผู้ติดเชื้อฝีดาษลิงในหลายประเทศทั่วทวีปยุโรปและอเมริกาเหนือ ข้อมูลเบื้องต้นจากการทดสอบทางห้องแลปโดยวิธี PCR ระบุว่า ฝีดาษลิงที่พบในยุโรปและพื้นที่อื่นๆที่ไม่ใช่เฉพาะถิ่นเป็นสายพันธุ์ไวรัสจากแอฟริกาตะวันตก ในระยะ 3-4 วันแรกผู้ติดเชื้อจะมีอาการเหมือนติดเชื้อไวรัสแล้วจึงเกิดเป็นตุ่มแผลกระจายตามจุดต่างๆ แผลที่อวัยวะเพศและบริเวณรอบทวารหนัก เป็นผื่นตามผิวหนัง ตุ่มหนองเหมือนอีสุกอีใส เมื่อแห้งจะตกสะเก็ดโดยทิ้งรอยไว้ สามารถหายเองได้ใน 2-4 สัปดาห์ 

ทั้งนี้ยอมรับว่าการสังเกตผู้ที่เป็นโรค ฝีดาษลิง บางครั้งอาจทำได้ยาก เพราะการเกิดตุ่มพองของผู้ติดชเออาจซ่อนอยู่ในจุดซ่อนเร้นของร่างกาย เช่นอยู่ในซอกเล็บ ใต้ฝ่าเท้า ในร่มผ้า ซึ่งยากต่อการสังเกต ส่วนการแพร่เชื้อจากคนสู่คน นอกจากต้องสัมผัสกันอย่างใกล้ชิดเป็นเวลานาน และผู้แพร่เชื้อมีเชื้อในร่างกายจำนวนมาก ยังสามารถติดต่อได้ผ่านละอองฝอย จากการไอจาม เช่นเดียวกับโควิด-19 แต่ไม่ติดต่อง่ายเหมือนกับเชื้อโควิด

ขณะที่ผู้ช่วยศาสตราจารย์นายสัตวแพทย์สว่าง เกษแดงสกลวุฒิ อาจารย์ประจำคณะสัตวแพทยศาสตร์ จุฬาลงกรณ์มหาวิทยาลัย เตือนผู้สัมผัสใกล้ชิดกับสัตว์ เช่นลิง สัตว์ฟันแทะ ต้องระวัง และ สังเกตอาการของสัตว์ และ สำหรับผู้ที่ซื้อสัตว์เลี้ยงจำเป็นต้องรู้แหล่งที่มาว่ามาจากพื้นที่การระบาดหรือไม่ เพื่อความปลอดภัย เพราะการแสดงอาการในสัตว์ไม่แสดงออกมาก ขณะเดียวกันควรเว้นระยะห่าง และ ควรรักษาอนามัย เช่นการล้างมือฟอกสบู่ หลังมีการสัมผัสใกล้ชิดสัตว์ 

ข้อมูลจาก  : คณะแพทยศาสตร์ จุฬาลงกรณ์มหาวิทยาลัย

ภาพจาก : AFP