บ่อนกลางสวนปาล์ม เงินสะพัด 12 ล้านต่อเดือน ปฏิบัติการบองหลาไฟกระบี่

บ่อนกลางสวนปาล์ม เงินสะพัด 12 ล้านต่อเดือน ปฏิบัติการบองหลาไฟ เมื่อป่าปาล์มกลายเป็นสนามพนัน และเจ้าหน้าที่ต้องเดินเท้าอ้อมเข้าไปจับ
จุดเริ่มจากคลิปดราม่า สู่การบุกจับกลางสวน
ปฏิบัติการ “บองหลาไฟ” เริ่มต้นขึ้นไม่ใช่จากรายงานของสายข่าวหรือระบบตรวจจับใดๆ ของรัฐ แต่จากคลิปวิดีโอที่ถูกเผยแพร่ในโลกออนไลน์ ซึ่งระบุว่ามีบ่อนขนาดใหญ่เปิดอย่างไม่เกรงกลัวเจ้าหน้าที่กลางสวนปาล์มในอำเภอปลายพระยา จังหวัดกระบี่ แม้จะเคยมีการจับกุมมาก่อน แต่สถานที่เดิมกลับกลับมาใช้งานอีกครั้ง พร้อมขยายขนาดใหญ่กว่าเดิม ห่างถนนสายหลักเพียงไม่ถึง 100 เมตร
ข้อมูลเหล่านี้ไปถึงกระทรวงมหาดไทย และไม่นานนัก นายอนุทิน ชาญวีรกูล รองนายกรัฐมนตรีและรัฐมนตรีว่าการกระทรวงมหาดไทย ก็มีคำสั่งให้ปลัดกระทรวงสั่งการชุดปฏิบัติการพิเศษกรมการปกครองลงพื้นที่ทันที
แผนปิดล้อมผ่านป่า ล้อมบ่อนจากด้านหลัง
การเข้าจับกุมไม่ใช่เรื่องง่ายแม้จะเป็นบ่อนที่อยู่ไม่ลึกจากถนน เพราะผู้ดูแลสถานที่วางระบบเฝ้าระวังแน่นหนา มีคนคอยดูต้นทางให้สัญญาณ หากมีเจ้าหน้าที่เคลื่อนไหว แม้เป็นรถทางการก็สามารถรู้ล่วงหน้าได้ทันที
เจ้าหน้าที่ฝ่ายปกครองจึงต้องใช้แผนเดินเท้าลัดเลาะผ่านป่า ล้อมพื้นที่จากด้านหลัง ก่อนจะเปิดปฏิบัติการพร้อมกัน ทำให้สามารถควบคุมนักพนันได้กว่าร้อยคน พร้อมของกลางจำนวนมากที่ใช้เล่นการพนันภายในบ่อนกลางสวน
เงินหมุนเวียนเดือนละ 12 ล้าน กับความเงียบของระบบ
จากการประเมินเบื้องต้น พบบ่อนแห่งนี้มีเงินหมุนเวียนกว่า 12 ล้านบาทต่อเดือน ไม่ใช่แค่การพนันข้างเคียงหรือวงเล็กๆ แต่มีโครงสร้างชัดเจนทั้งเจ้ามือ พนักงาน ระบบรักษาความปลอดภัย และพื้นที่บริการครบวงจร
ตัวเลขเหล่านี้นำไปสู่คำถามที่ใหญ่กว่า คือระบบใดที่ทำให้กิจการขนาดนี้สามารถดำรงอยู่ได้ ทั้งที่ห่างจากถนนใหญ่ไม่ถึงร้อยเมตร และมีผู้คนเข้าออกมากมายโดยไม่เคยถูกจับกุมอย่างเด็ดขาด
คำสั่งเด็ดขาดจากส่วนกลาง กับปลายทางที่ยังไม่แน่นอน
ในการแถลงข่าว น.ส.ไตรศุลี ไตรสรณกุล โฆษกกระทรวงมหาดไทย ยืนยันว่า รัฐมนตรีมหาดไทยมีนโยบายชัดเจนในการปราบปรามผู้มีอิทธิพล และไม่มีบ่อนใดในประเทศไทยที่หน่วยปฏิบัติการของกรมการปกครองไม่กล้าเข้าไปจัดการ หากมีข้อมูลชัดเจนหรือเบาะแสจากประชาชน
ขณะเดียวกัน เจ้าหน้าที่กรมการปกครองเองยืนยันว่า แม้เจ้าของบ่อนจะมีอิทธิพลหรืออยู่ในระดับใด ก็จะไม่มีใครอยู่เหนือกฎหมายได้ หากสามารถพิสูจน์ความผิดและดำเนินการตามขั้นตอนที่รัดกุม
จับได้แล้ว… แล้วอย่างไรต่อ?
แม้ปฏิบัติการบองหลาไฟจะถูกมองว่าเป็นความคืบหน้าของการปราบปรามบ่อนการพนันในระดับพื้นที่ แต่คำถามที่ยังไม่มีคำตอบคือ บ่อนนี้เคยถูกจับไปแล้วครั้งหนึ่ง เหตุใดจึงสามารถกลับมาเปิดได้อีกในสถานที่เดิม
ในเมื่อคลิปวิดีโอจากประชาชนยังทำงานได้ดีกว่าระบบการตรวจตราของรัฐ คำถามจึงไม่ได้อยู่ที่ว่าจะมีใครกล้าจับอีกหรือไม่ แต่อยู่ที่ว่าโครงสร้างใดกันแน่ที่ทำให้ “บ่อนกลางสวนปาล์ม” สามารถเปิดทำการได้เป็นเดือน ๆ โดยไม่มีหน่วยงานใดเข้าไปตรวจสอบ
การบุกจับอาจเป็นเพียงปลายทางของปัญหา แต่ต้นทางของระบบที่ทำให้เรื่องนี้เกิดขึ้นซ้ำแล้วซ้ำเล่า ยังต้องการคำตอบจากทุกฝ่ายที่เกี่ยวข้อง