WHO ระบุ “โควิดเดลต้า”สายพันธุ์แข็งแกร่งที่สุด “ติดง่าย-เสี่ยงตายสูง”
วันนี้ ( 23 มิ.ย. 64 )มาเรีย แวน เคิร์คโฮฟ หัวหน้าฝ่ายเทคนิคด้านไวรัสโควิด-19 แห่งองค์การอนามัยโลก หรือ WHO กล่าวในการแถลงข่าวเมื่อวันจันทร์ (21 มิถุนายน) ว่า โควิดกลายพันธุ์ “เดลต้า” ระบาดไปแล้ว 92 ประเทศทั่วโลก ยึดครองสหราชอาณาจักรไปแล้ว และกำลังจะยึดครองสหรัฐฯ ต่อไป และแวน เคิร์คโฮฟยังระบุชัดว่า โชคร้ายที่เรายังไม่มีวัคซีนที่สามารถปกป้องชีวิตคนจากเดลตาได้
ข้อมูลล่าสุดจากศูนย์ควบคุมและป้องกันโรคของสหรัฐฯ หรือ CDC พบว่า ขณะนี้ผู้ติดเชื้อเดลต้ามีสัดส่วนอย่างน้อย 10% ของผู้ติดเชื้อโควิดรายใหม่ทั้งหมดในสหรัฐฯ และกำลังระบาดเพิ่มขึ้น จนจะกลายเป็นโควิดสายพันธุ์หลักที่ระบาดมากที่สุดในสหรัฐฯ ไปแล้ว
ส่วนสหราชอาณาจักรนั้น เดลต้าได้กลายเป็นสายพันธุ์หลักและระบาดมากที่สุดไปแล้ว แซงหน้ากลายพันธุ์ “อัลฟ่า” ที่มีกำเนิดในสหราชอาณาจักรเอง โดยเดลตามีสัดส่วนมากกว่า 60% ของผู้ติดเชื้อโควิดรายใหม่ทั่วสหราชอาณาจักร
ด้านด็อกเตอร์ ไมค์ ไรอัน ผู้อำนวยการบริหารโครงการเหตุฉุกเฉินด้านสุขภาพของ WHO กล่าวในการแถลงข่าวเดียวกันว่า “เดลต้า” ซึ่งสามารถติดต่อแพร่เชื้อไปยังคนอื่น ๆ ได้ง่ายกว่าเดิมมาก เป็นโควิดกลายพันธุ์ที่มีความสามารถในการระบาดได้รวดเร็วที่สุด มีความแข็งแกร่งที่สุด และจ้องจะ “เด็ดชีพ” กลุ่มคนที่อ่อนแอที่สุด โดยเฉพาะในพื้นที่ที่มีอัตราการฉีดวัคซีนต้านโควิด-19 ในระดับต่ำ ดังนั้น คนที่ยังไม่ได้ฉีดวัคซีน จะมีความเสี่ยงสูงมาก
ด็อกเตอร์ไรอันกล่าวต่อไปว่า ยังไม่เคยพบโควิดกลายพันธุ์ตัวใด ที่มีครบทั้งความสามารถในการระบาดสูง และยังทำให้ผู้ติดเชื้อเสียชีวิตได้สูงเหมือนอย่างเดลตา แต่เดลต้ามีครบทั้ง 2 อย่าง จึงเป็นไวรัสที่มีความสามารถมากที่สุด ระบาดรวดเร็วที่สุด และแข็งแกร่งที่สุด และไวรัสมรณะตัวนี้ยังจะคร่าชีวิตคนได้มากขึ้นไปอีก หากมันสามารถค้นพบตัวคนที่มีความเสี่ยงมากที่สุด เมื่อทำให้คนกลุ่มนี้ติดเชื้อแล้ว อาการจะทรุดหนัก ต้องเข้าโรงพยาบาล และอาจเสียชีวิตได้
แต่ไรอันระบุว่า ผู้นำโลก และเจ้าหน้าที่สาธารณสุขทั่วโลก สามารถปกป้องกลุ่มคนที่อ่อนแอและเสี่ยงที่สุด ที่จะติดเชื้อและเสียชีวิตจากเดลต้าได้ รวมไปถึงบุคลากรด่านหน้าที่ต่อสู้กับโควิด-19 ด้วย โดยการบริจาควัคซีนต้านโควิดและกระจายวัคซีนอย่างทั่วถึง.