“Gripen E” ผสานปัญญาประดิษฐ์ AI ซ้อมต่อสู้อากาศนอกระยะสายตา หรือ BVR

Saab บริษัทอุตสาหกรรมป้องกันประเทศยักษ์ใหญ่จากสวีเดน ประกาศความสำเร็จครั้งประวัติศาสตร์ในการผสานปัญญาประดิษฐ์ (AI) เข้ากับเครื่องบินขับไล่รุ่นล่าสุด “Gripen E” โดยใช้ปัญญาประดิษฐ์ AI agent ชื่อว่า “Centaur” ซึ่งสามารถทำหน้าที่แนะนำการยิงและดำเนินการซ้อมรบแบบซับซ้อนได้อย่างอิสระในการต่อสู้อากาศนอกระยะสายตา (Beyond Visual Range หรือ BVR)
ความสำเร็จนี้เกิดจากความร่วมมือกับบริษัท Helsing จากเยอรมนี ภายใต้โครงการ "Project Beyond" ซึ่งได้รับการสนับสนุนเต็มที่จากสำนักงานบริหารวัสดุป้องกันประเทศของสวีเดน (FMV)
ในการทดสอบเมื่อวันที่ 3 มิถุนายนที่ผ่านมา โดยเครื่องบินขับไล่รุ่นล่าสุด Gripen E ที่ติดตั้ง Centaur ได้จำลองการรบแบบการต่อสู้อากาศนอกระยะสายตา (Beyond Visual Range หรือ BVR) กับเครื่องบิน Gripen D เครื่องจริงบนอากาศ
โดยปัญญาประดิษฐ์ Centaur สามารถวิเคราะห์ข้อมูลจากเซ็นเซอร์ของเครื่องบิน บินหลบหลีก และแนะนำนักบินยิงขีปนาวุธได้อย่างแม่นยำแม้ไม่มีข้อมูลจากระบบสั่งการภายนอก (C2) ซึ่งแสดงถึงความสามารถตัดสินใจอิสระของปัญญาประดิษฐ์ AI ในสถานการณ์รบที่ซับซ้อน
อองตวน บอร์เดส (Antoine Bordes) รองประธานฝ่าย AI ของ Helsing ระบุว่า "AI ตัวนี้เรียนรู้ได้เร็วระดับที่เทียบเท่ากับประสบการณ์นักบิน 50 ปี ภายในเวลาเพียงไม่กี่ชั่วโมง" ยิ่งตอกย้ำศักยภาพของ Centaur ในการเร่งขยายขีดความสามารถของนักบินอย่างก้าวกระโดด
หนึ่งในข้อได้เปรียบที่สำคัญของเครื่องบินขับไล่รุ่นล่าสุด Gripen E คือ ความสามารถในการอัปเดตซอฟต์แวร์อย่างรวดเร็ว และบินทดสอบด้วยปัญญาประดิษฐ์ AI บนเครื่องบินจริงได้ทันที โดยไม่ต้องใช้แพลตฟอร์มทดลองพิเศษเหมือนโครงการของกองทัพอากาศสหรัฐฯ เช่น X-62A VISTA
ปีเตอร์ นิลส์สัน (Peter Nilsson) ผู้อำนวยการฝ่ายโครงการขั้นสูงของ Saab กล่าวว่า “เราทำให้เทคโนโลยีปัญญาประดิษฐ์ AI กลายเป็นของจริงบนอากาศ ไม่ใช่แค่ในห้องทดลอง”
สำหรับเครื่องบินขับไล่รุ่นล่าสุด Gripen E ถือเป็นเครื่องบินขับไล่มัลติโรลรุ่นล่าสุดจากบริษัท Saab ของสวีเดน ที่ออกแบบให้มีความคล่องตัวสูง ระบบอิเล็กทรอนิกส์ล้ำสมัย และสามารถปฏิบัติการได้หลากหลายทั้งการรบอากาศสู่อากาศ อากาศสู่พื้น และสงครามอิเล็กทรอนิกส์
ระบบขับเคลื่อนไอพ่นใช้เครื่องยนต์ General Electric F414 ให้ความเร็วสูงสุดเกิน Mach 2 และรัศมีปฏิบัติการไกลกว่า 1,500 กิโลเมตร มาพร้อมเรดาร์ AESA รุ่น Raven ES-05 ที่สามารถตรวจจับและติดตามเป้าหมายได้หลายเป้าพร้อมกัน ระบบสงครามอิเล็กทรอนิกส์แบบติดตั้งในตัว และสามารถบูรณาการกับ AI agent เพื่อช่วยในการตัดสินใจทางยุทธวิธีแบบเรียลไทม์ ซึ่งทำให้ Gripen E เป็นหนึ่งในเครื่องบินรบยุคที่ 4.5 ที่ทันสมัยและคุ้มค่าที่สุดในตลาดโลกปัจจุบัน
โครงการนี้ยังมีเป้าหมายระยะยาวในการปูทางสู่เครื่องบินรบรุ่นใหม่ของสวีเดน ซึ่งจะเปิดตัวภายในปี 2574 โดยข้อมูลจากการบินทดสอบของ Centaur จะถูกนำมาพัฒนาให้ระบบปัญญาประดิษฐ์ AI มีความแม่นยำและเชื่อถือได้มากยิ่งขึ้น
ความเคลื่อนไหวล่าสุดของบริษัท Saab ยังสอดคล้องกับแนวโน้มระดับโลก เช่น โครงการ VENOM และ CCA ของกองทัพอากาศสหรัฐฯ ที่พัฒนาระบบปัญญาประดิษฐ์ AI สำหรับอากาศยานไร้คนขับ (UAV) เพื่อสู้รบเคียงข้างนักบิน
Tag
ยอดนิยมในตอนนี้
