กทพ. อัพเดตทางด่วนขั้นที่ 3 ช่วง N2 เกษตร-นวมินทร์ เชื่อมวงแหวนรอบนอก คาด สศช.ไฟเขียวภายใน พ.ค.นี้
รายงานข่าวจากการทางพิเศษแห่งประเทศไทย (กทพ.) ระบุว่า ความคืบหน้าโครงการระบบทางด่วนขั้นที่ 3 เชื่อมต่อไปยังถนนวงแหวนรอบนอกกรุงเทพมหานครด้านตะวันออก โดยระบุว่า ขณะนี้สำนักงานสภาพัฒนาการเศรษฐกิจและสังคมแห่งชาติ (สศช.) อยู่ระหว่างพิจารณาข้อมูลประกอบการอนุมัติโครงการลงทุนดังกล่าวในส่วนของช่วง N2 จากแยกเกษตร-นวมินทร์ เชื่อมไปยังวงแหวนรอบนอกด้านตะวันออก ระยะทาง 11.3 กิโลเมตร วงเงินก่อสร้างและคุมงานรวม 16,960 ล้านบาท โดยก่อนหน้านี้การประชุมคณะกรรมการสิ่งแวดล้อมแห่งชาติ ครั้งที่ 5/2564 ที่มี พล.อ.ประวิตร วงษ์สุวรรณ รองนายกรัฐมนตรี เป็นประธานเมื่อวันที่ 17 ธ.ค. 2564 ได้มีมติเห็นชอบให้ กทพ. เดินหน้าลงทุนในโครงการก่อสร้างทางด่วนขั้นที่ 3 โดยให้ผลักดันการก่อสร้างช่วง N2 ที่มีความพร้อมก่อน เนื่องจาก N1 ช่วงผ่านมหาวิทยาลัยเกษตรศาสตร์ ที่จะตัดผ่านหน้ามหาวิทยาลัยเกษตรศาสตร์ยังติดปัญหาการเจรจาแนวเส้นทาง ดังนั้น ที่ประชุมจึงมีความเห็นให้เริ่มดำเนินการช่วงที่มีความพร้อม เพื่อให้โครงการสามารถเปิดให้บริการได้ตามเป้าหมายในปี 2567-2568 เพื่อลดปัญหาการเจรจาติดขัด
ตอนนี้ช่วง N2 อยู่ระหว่างการพิจารณาของสภาพัฒน์ฯ ในเรื่องของผลตอบแทนด้านเศรษฐกิจและการเงิน และขอทราบความชัดเจนในการก่อสร้างช่วง N1 ต่อ ว่าจะมีแนวเส้นทางอย่างไร รวมไปถึงการลดผลกระทบการจราจรติดขัดเมื่อมีการก่อสร้างโครงการนี้แล้วเสร็จ ซึ่งการทางฯ คาดว่า สศช.จะพิจารณาอนุมัติโครงการ N2 ภายในเดือนพฤษภาคมนี้ ก่อนผลักดันเข้าที่ประชุมคณะรัฐมนตรี (ครม.)
ทั้งนี้ การก่อสร้างทางด่วนขั้นที่ 3 ช่วง N2 หากได้รับการอนุมัติจาก ครม.แล้ว สามารถดำเนินการในขั้นตอนประกวดราคาได้ทันทีในปีนี้ เนื่องจากโครงการดังกล่าว กทพ.ศึกษารายละเอียดและพื้นที่ก่อสร้างมีความพร้อมอยู่แล้ว โดยขณะนี้ กทพ.ยังได้หารือร่วมกับการรถไฟฟ้าขนส่งมวลชนแห่งประเทศไทย (รฟม.) ถึงกรณีการสร้างฐานรากรถไฟฟ้าในแนวเส้นทางเดียวกันกับโครงการทางด่วนช่วง N2 ซึ่งเบื้องต้นผลการหารือ กทพ.ไม่ต้องรับผิดชอบในส่วนของการก่อสร้างฐานรากให้รถไฟฟ้าแล้ว
ส่วนโดยสาเหตุของการปรับแผนไม่ประกวดราคาก่อสร้างฐานรากระบบรถไฟฟ้าพร้อมกับโครงการทางด่วนช่วง N2 เนื่องจากจากการศึกษาข้อมูลการเบิกจ่ายงบประมาณ พบว่าอาจติดปัญหาการจ่ายเงินชดเชย เนื่องจากโครงการรถไฟฟ้าสายสีน้ำตาล ทาง รฟม.จะเปิดให้เอกชนร่วมลงทุนในรูปแบบเอกชนร่วมลงทุนโครงการรัฐ (พีพีพี) ดังนั้นหาก กทพ.รับหน้าที่ประมูลสร้างฐานรากรถไฟฟ้าพร้อมกับทางด่วนไปก่อน อาจติดปัญหาการจ่ายเงินชดเชยจากทางเอกชนร่วมลงทุนในโครงการรถไฟฟ้า เพื่อมาจ่ายให้กับเอกชนที่เป็นผู้รับเหมาก่อสร้างโครงการทางด่วน
ขณะนี้ ได้มีการหารือกับ รฟม.ไปบ้างแล้ว ว่าอาจจะติดปัญหาเรื่องการจ่ายเงินชดเชยเพราะการร่วมทุนในลักษณะพีพีพีมีข้อจำกัดเรื่องการจ่ายเงินระหว่างเอกชน ทำให้แนวทางตอนนี้ได้หารือกับว่า กทพ.จะเส้นพื้นที่ก่อสร้างฐานรากรถไฟฟ้าไว้ก่อน เพราะตามรูปแบบก่อสร้างฐานรากของทางด่วนจะคร่อมฐานรากรถไฟฟ้าอยู่แล้ว ดังนั้น สามารถเว้นพื้นที่ก่อสร้างไว้ให้ได้ แต่ขณะนี้ รฟม.ก็ยังไม่ได้ข้อสรุปว่าจะให้ดำเนินการอย่างไร
โครงการทางด่วนขั้นที่ 3 ช่วง N2 ถือเป็นโครงการที่มีความพร้อมมากที่สุดในการลงทุนโครงข่ายทางด่วนที่จะเกิดขึ้นในปีนี้ โดยที่ผ่านมาอาจติดปัญหาของการเจรจาแนวเส้นทางช่วง N1 เพราะมองว่าการลงทุนหากสามารถผลักดันให้เกิดขึ้นไปพร้อมกันจะทำให้โครงข่ายทางด่วนสมบูรณ์ แต่เนื่องจากปัจจุบันช่วง N1 ยังไม่ได้ข้อสรุป การผลักดัน N2 ก่อนก็เป็นทางเลือกที่จะเพิ่มโครงข่ายทางด่วน ลดปัญหาการจราจรได้เป็นอย่างดี
สำหรับความคืบหน้าทางด่วน N1 กระทรวงคมนาคมได้มอบให้ นายชยธรรม์ พรหมศร ปลัดกระทรวงคมนาคม ไปเจรจากับมหาวิทยาลัยเกษตรศาสตร์ เพื่อร่วมกันพิจารณาข้อดีและข้อเสีย รูปแบบการก่อสร้าง โดยกระทรวงคมนาคมจะรับฟังความคิดเห็นของทุกฝ่าย ส่วนกรณีที่ก่อนหน้านี้มีการเสนอทางเลือกก่อสร้างเป็นอุโมงค์คร่อมอุโมงค์แยกเกษตร พบว่าเป็นทางเลือกที่จะทำให้มีค่าใช้จ่ายการลงทุนเพิ่มขึ้นประมาณ 2 หมื่นล้านบาท หากเลือกแนวทางนี้ก็จะกระทบต่อค่าผ่านทางที่ต้องจัดเก็บแพงขึ้น