รีเซต

อภ.เผย ชุด PPE รุ่น "เราสู้" พร้อมส่ง รพ.ทั่วประเทศ ย้ำ! ห้ามใช้น้ำยาปรับผ้านุ่มเด็ดขาด

อภ.เผย ชุด PPE รุ่น "เราสู้" พร้อมส่ง รพ.ทั่วประเทศ ย้ำ! ห้ามใช้น้ำยาปรับผ้านุ่มเด็ดขาด
มติชน
15 มิถุนายน 2563 ( 17:42 )
163
อภ.เผย ชุด PPE รุ่น “เราสู้” พร้อมส่ง รพ.ทั่วประเทศ ย้ำ! ห้ามใช้น้ำยาปรับผ้านุ่มเด็ดขาด

เมื่อวันที่ 15 มิถุนายน นพ.โสภณ เมฆธน ประธานกรรมการองค์การเภสัชกรรม (บอร์ด อภ.) เปิดเผยความคืบหน้ากรณีชุด PPE แบบเสื้อคลุมแขนยาวกันน้ำชนิดซักใช้ซ้ำได้ (Reusable Isolation Gown) รุ่น “เราสู้” ว่า ล่าสุดผ่านการตรวจมาตรฐานจากศูนย์วิเคราะห์ทดสอบ สถาบันพัฒนาอุตสาหกรรมสิ่งทอเรียบร้อย และดำเนินการตรวจรับแล้ว จำนวน 46,898 ชุด (เดิมกำหนดไว้ 44,000 ชุด) และได้เริ่มทยอยจัดสรรและจัดส่งให้กับโรงพยาบาลและหน่วยงานต่างๆ ทั่วประเทศแล้ว จำนวน 41,950 ชุด โดยได้กระจายไปยังสำนักงานปลัดกระทรวงสาธารณสุข (สธ.) จำนวน 33,250 ชุด โรงพยาบาลในสังกัดมหาวิทยาลัย (Uhosnet ) 5,200 ชุด โรงพยาบาล (รพ.) นพรัตน์ 2,000 ชุด กรมควบคุมโรค 500 ชุด และสำนักการแพทย์ กรุงเทพมหานคร (กทม.) 1,000 ชุด ส่วนที่เหลือศูนย์ปฏิบัติการกระจายเวชภัณฑ์ในภาวะโรคติดเชื้อไวรัสโคโรนา 2019 หรือ โควิด-19 จะดำเนินการจัดสรรกระจายให้โรงพยาบาลต่างๆ ต่อไป

 

“ชุด PPE รุ่นเราสู้นี้ สามารถซักและใช้ซ้ำได้ 20 ครั้ง ทำให้คาดว่าจะสามารถนำมาใช้ทดแทน ชุด PPE ชนิดที่ใช้ครั้งเดียว ได้มากกว่า 937,960 ชุดต่อครั้ง” ประธาน บอร์ด อภ. กล่าวและว่า ชุด PPE รุ่นเราสู้ มีคุณสมบัติกันน้ำได้เป็นไปตามมาตรฐาน ANSI/AAMI PB70 ในระดับ 2 (Level 2) และสามารถระบายอากาศได้ดี โดยตัดเย็บเป็นชุด Isolation gown เป็นผ้าชิ้นเดียวไม่มีตะเข็บข้าง การเย็บเป็นลักษณะกุ๊น (Piping Seam) และด้ายที่ใช้เย็บเป็นด้ายกันน้ำ ชุดสามารถกันน้ำได้ทั้งด้านหน้าและด้านหลัง ทั้งตัวเสื้อและตะเข็บ ตัดเย็บด้วยผ้าชนิดโพลีเอสเตอร์ (Polyester) 100% เคลือบสารที่มีคุณสมบัติทำให้ผ้ากันน้ำได้

 

ทั้งนี้ นพ.โสภณ กล่าวว่า ชุดได้ผ่านการทดสอบคุณสมบัติของเนื้อผ้าและตะเข็บหลังซัก 20 ครั้ง โดยสามารถป้องกันการซึมผ่านของน้ำที่มีแรงดันได้ (Hydrostatic pressure) มากกว่าหรือเท่ากับ 20 cmH2O ตามมาตรฐาน AATCC 127 ป้องกันการซึมผ่านของน้ำที่แรงดันกระแทก (Water impacting penetration) น้อยกว่าหรือเท่ากับ 1 กรัม ตามมาตรฐาน AATCC42 กระบวนการซักชุด PPE แบบซักใช้ซ้ำได้นี้มีข้อแนะนำให้ซักด้วยอุณหภูมิ 40 องศาเซลเซียส พร้อมใส่ผงซักฟอก และ Sodium hypochlorite 0.1% เพื่อฆ่าเชื้อโรค นาน 15 นาที แล้วอบแห้งด้วยอุณหภูมิ 80 องศาเซลเซียส นาน 60 นาที และห้ามใส่น้ำยาปรับผ้านุ่ม ส่วนโรงพยาบาลต่างๆ นั้น สามารถปรับกระบวนการซักได้ตามมาตรฐานหรือแนวทางการซักผ้าของแต่ละโรงพยาบาลได้ โดยมีข้อห้ามที่สำคัญและขอย้ำคือ ห้ามใส่น้ำยาปรับผ้านุ่มอย่างเด็ดขาด เพราะจะทำให้สารเคลือบกันน้ำมีประสิทธิภาพกันน้ำลดลง และหลีกเลี่ยงการซักในสภาพที่รุนแรงและอุณหภูมิที่สูงกว่า 60 องศาเซลเซียส หากใช้วิธีการซักที่เหมาะสมจะทำให้ชุด PPE รุ่นเราสู้ ยังคงมีประสิทธิภาพต่อไป

 

“องค์การเภสัชฯ ได้ตระหนักและแสวงหาความร่วมมือกับภาครัฐและเอกชน เพื่อจัดหาอุปกรณ์ป้องกันการติดเชื้อสถานะการณ์โควิด-19 สำหรับบุคลากรทางการแพทย์ให้มีใช้อย่างเพียงพอ ด้วยการพัฒนาและสร้างสรรค์นวัตกรรมมาทดแทน ลดความเสี่ยงที่อาจจะเกิดการขาดแคลน ทั้งในระยะเร่งด่วนและในระยะยาว เพื่อประเทศไทยสามารถพึ่งพาตนเองได้ในทุกสถานการณ์” ประธาน บอร์ด อภ.กล่าว

ข่าวที่เกี่ยวข้อง