ขนลุก! วิญญาณสาวเฮี้ยน เข้าสิงเพื่อนในงานศพ โวยดับเพราะสามี ร่ำไห้ ยังไม่อยากตาย
ขนลุก! วิญญาณสาวเฮี้ยน เข้าสิงเพื่อนในงานศพ โวยตายเพราะสามี ร่ำไห้ ยังไม่อยากตาย
เมื่อวันที่ 10 ตุลาคม ผู้สื่อข่าวได้รับแจ้งจากชาวบ้านเมื่อวันที่ 9 ตุลาคม ที่ผ่านมาว่า คนมาร่วมงานศพหญิงสาวประสบอุบัติเหตุพร้อมสามีเสียชีวิต ถูกวิญญาณคนตายมาสิงร่าง ขอให้พ่อช่วยนำวิญญาณตนเองกลับบ้านดูร่างของตนเองที่กำลังถูกเผาด้วย ผู้สื่อข่าวจึงเดินทางไปตรวจสอบข้อเท็จจริง ที่บ้านพ่อของผู้เสียชีวิต พบกำลังเก็บข้าวของหลังจากฉลองอัฐิแล้ว ได้พบกับ นายสาย แก่นปรั่ง อายุ 66 ปี และภรรยากับน้องสาวของผู้เสียชีวิต
นายแก่น กล่าวว่า เหตุการณ์ดังกล่าว เกิดขึ้นเมื่อคืนวันที่ 7 ต.ค. ที่ผ่านมา ดวงวิญญาณลูกสาวที่เสียชีวิตจากอุบัติเหตุมาเข้าสิงคนที่มาร่วมงานศพ โดยบอกว่าเป็นลูกสาวของตน พร้อมร่ำไห้ บอกว่าหนูยังไม่อยากตายๆ มันทำหนู (สามี) บอกว่าอยากกลับบ้าน ขอให้พ่อไปเอาวิญญาณที่ตายอยู่ที่เกิดเหตุมาบ้านด้วย เพราะออกมาไม่ได้ไปไหนไม่ได้
จากนั้นตนบอกกล่าวดวงวิญญาณลูกสาว อึดใจต่อมาวิญาณก็ออกจากร่างไป พ่อกับแม่อยากฝากบอกถึงดวงวิญาณลูกสาวขอให้ไปเกิดเป็นนางฟ้าบนสวรรค์ ไม่ต้องห่วงพ่อกับแม่ หลาน 2 คนพ่อและญาติๆ จะเลี้ยงให้อย่างดีไม่ต้องห่วง
ผู้สื่อข่าวรายงานเพิ่มเติม จากกรณีดังกล่าวนี้ เหตุเกิดเมื่อวันที่ 5 ต.ค. พ.ต.ท.ประสิทธิ์ ภัคดี สารวัตรสอบสวน สภ.นาดี จ.ปราจีนบุรี รับแจ้งเหตุจากหน่วยกู้ภัยมูลนิธิสัจจพุทธธรรมแห่งประเทศไทย (อ.กบินทร์บุรี) มีรถยนต์กระบะประสบอุบัติเหตุ ตกลงร่องกลางถนน หน้ารถชนกับต้นไม้มีคนเสียชีวิต
หลังรับแจ้งรุดตรวจสอบพร้อมอาสาสมัครกู้ภัยสัจจะฯ กำลังเจ้าหน้าที่มาถึงจุดเกิดเหตุตรวจสอบพบรถกระบะโตโยต้า สีดำ สภาพเก่าทะเบียน 8ท6818 กทม. อยู่ในสภาพเสียหลักลงร่องเกาะกลางถนน ชนกับต้นไม้ขนาดใหญ่ สภาพด้านหน้ากระโปรงรถพังยับ ภายในพบผู้เสียชีวิตจำนวน 2 ราย ชาย 1 ราย เสียชีวิตอยู่บริเวณด้านฝั่งคนขับ และหญิง 1 ราย เสียชีวิตด้านหน้าฝั่งผู้โดยสาร
ตรงจุดเกิดเหตุนั้นอยู่ช่วงบริเวณก่อนถึงทางโค้งถนนสาย 304 กบินทร์บุรี-นครราชสีมา ม.3 ต.ทุ่งโพธิ์ อ.นาดี จ.ปราจีนบุรี เบื้องต้นทางอาสาสมัครช่วยกันงัดร่างหญิงผู้เสียชีวิตออกมาทำ CPR เพื่อจะยื้อชีวิต แต่ไม่เป็นผล และเสียชีวิตในเวลาต่อมา
หลังจากนั้นทางญาติทราบข่าวจึงเดินทางมาที่เกิดเหตุ พอทราบว่าเป็นญาติถึงกับร้องไห้เสียใจ ท่ามกลางสายฝนที่กำลังตกลงมา สำหรับผู้เสียชีวิตทั้ง 2 รายตรวจสอบเอกสารทราบชื่อคือ นายอิสรา อายุ 39 ปี คนขับ ชาว อ.นาดี จ.ปราจีนบุรี มีอาชีพรับเหมาต่อเติมทั่วไป และผู้เสียชีวิตคือ น.ส.วัชรินทร์ ไม่ทราบอายุ เป็นพนักงานโรงงานแห่งหนึ่ง ในเขตนิคมอุตสาหกรรมกบินทร์บุรี
หลังจากทางด้านเจ้าหน้าที่ตรวจสอบเก็บหลักฐานในที่เกิดเหตุ และให้ทางด้านเจ้าหน้าที่หน่วยกู้ภัยสัจจะฯนำศพส่งรพ.นาดี เพื่อให้แพทย์ตรวจหาการเสียชีวิตอย่างละเอียด หลังจากแพทย์ตรวจสอบบาดแผลพบผู้เสียชีวิตชาย มีบาดแผลกะโหลกศีรษะด้านหลังแตก ใบหน้ายุบเลือดไหลออกมาเป็นจำนวนมาก และผู้เสียชีวิตหญิงสภาพด้านหน้ากรามฟันหักคอหักบาดแผลใบหน้า หลังจากนั้นจึงถ่ายภาพพิมพ์มือเก็บหลักฐาน ให้กับเจ้าหน้าที่ต่อไป
จากการสอบถาม นายสายชล เปรมศรี อาสาสมัครหน่วยกู้ภัยฯที่ออกช่วยเหลืออุบัติเหตุ กล่าวว่า หลังจากได้รับแจ้ง จึงนำอาสาสมัครออกตรวจสอบในที่เกิดเหตุพอมาถึงในจุดเกิดเหตุพบรถกระบะคันดังกล่าวชนกับต้นไม้ บริเวณด้านในรถมีผู้ได้รับบาดเจ็บจำนวน 2 ราย ผู้เสียชีวิตที่เป็นหญิงนั้นยังมีชีวิตอยู่ ซึ่งอยู่ในอาการสาหัส และอาสาสมัครช่วยกันนำออกมาจะยื้อชีวิต และเสียชีวิตลงในเวลาต่อมา
จากการสอบถามญาติบอกว่า ผู้ขับขี่ชายที่เสียชีวิตนั้น ขับรถหลังจากเลิกงานมาช่วยญาติขายของตลาดนัด ไกลจากจุดเกิดเหตุ และมารอทางผู้เสียชีวิตที่เป็นหญิงเลิกจากงาน โดยมีรถรับส่งของบริษัทมาส่งตรงตลาด หลังจากนั้นก็พากันขึ้นรถ เพื่อจะขับกลับบ้านที่บริเวณบ้านทับลาน
ขณะที่กำลังขับกลับนั้น มีฝนตกลงมา ประกอบจุดเกิดเหตุดังกล่าวเป็นที่มืด คาดว่าผู้ขับขี่ขับมาด้วยความเร็วประกอบกับเป็นทางโค้งจึงเบรกไม่ทัน เลยเสียหลักลงร่องเกาะกลางถนนไปชนกับต้นไม้เสียชีวิต หลังจากเกิดเหตุทางญาตินำร่างผู้เสียชีวิตไปบำเพ็ญกุศลทางศาสนา
จนต่อเมื่อคืนวันที่ 7 ต.ค. ขณะที่ญาติจัดพิธีสวดพระอภิธรรมศพอยู่ เกิดเรื่องน่าขนหัวลุกเมื่อมีหญิงสาวคนหนึ่งที่มาร่วมงานศพที่บ้าน อยู่ๆ เกิดมีอาการคล้ายผีเข้าเรียกร้องหาพ่อลั่นบ้านไม่หยุด ญาติได้พากันถ่ายคลิปไว้ ในคลิปหญิงสาวคนหนึ่งพูดพร่ำพรรณนาว่า “พ่ออยู่ไหนๆ หนูยังไม่อยากตายๆ พ่ออยู่ไหน”
เมื่อพ่อเดินมาหาหญิงสาวบอกว่าชื่อนามสกุลของผู้ตาย และบอกว่าก่อนตายสามีทำให้ตาย โดยเกิดการทะเลาะกัน และรถชนต้นไม้ เป็นเหตุให้เสียชีวิตทั้งคู่ ญาตินำศพของน.ส.วัชรินทร์ แก่นปรั่ง ไปทำพิธีฌาปณกิจที่วัดโพธาราม ต.ทุ่งโพธิ อ.นาดี จ.ปราจีนบุรี เมื่อวันที่ 8 ต.ค. ที่ผ่านมา หลังจากนั้นมีผู้บันทึกคลิปภาพเผยแพร่ออกมาดังกล่าว
ที่มา ข่าวสด