หอการค้าฯ เอาด้วยเปิด ปท.ปลอดภัย ยันระยะแรกเข้มโควิด ฟรี เซ็ตติ้ง
เมื่อวันที่ 20 กันยายน ที่กระทรวงสาธารณสุข (สธ.) นายสาธิต ปิตุเตชะ รัฐมนตรีช่วยการว่า สธ. พร้อมด้วย นพ.สุวรรณชัย วัฒนายิ่งเจริญชัย อธิบดีกรมอนามัย ประชุมร่วมกับ คณะกรรมการหอการค้าไทย และสภาหอการค้าแห่งประเทศไทย หารือแผนการเปิดประเทศเพื่อฟื้นฟูเศรษฐกิจอย่างไรให้ปลอดภัย
นายสาธิต กล่าวว่า วันนี้เป็นการประชุมเพื่อเตรียมความพร้อมร่วมกันระหว่างคณะกรรมการหอการค้าไทย และ กรมอนามัย ทั้งเรื่องของประเภทกิจการที่มีหลายรูปแบบมาก ดังนั้น การซักซ้อมทำความเข้าใจก่อนที่จะเปิดกิจการ หรือเปิดพื้นที่ต้องมีความปลอดภัยในการควบคุมโรค โดยแบ่ง 3 ส่วนใหญ่ คือ 1.สิ่งแวดล้อม 2.ผู้ให้บริการ และ 3.ผู้รับบริการ ที่ต้องมีแผนรองรับ อย่างไรก็ตาม ผู้ให้บริการจะต้องประเมินตนเองก่อนเปิดกิจการด้วยแพลตฟอร์มของกรมอนามัย เช่น Covid-19 Free setting, ไทยเซฟไทย หรือ Thai Stop COVID-19 ซึ่งคณะกรรมการหอการค้าฯ จะต้องประสานกับผู้ประกอบการต่างๆ ในแต่ละจังหวัดให้เกิดความเข้าใจตรงกัน
“เพื่อเตรียมความพร้อม เช่น สมมติ กรุงเทพมหานคร จะเปิดพื้นที่ได้เมื่อไร อย่างไร ตามเงื่อนไขที่ กรุงเทพมหานคร (กทม.) เห็นสมควร และ ศบค.อนุมัติ ซึ่งหอการค้าฯ ก็เตรียมความพร้อมเพื่อเปิดในวันที่สามารถจัดการได้เลย โดยมีหลายพื้นที่ที่ต่างกัน อย่างที่ผมนำเข้าที่ประชุมเมดิคัล ฮับ (Medical Hub) คือ พื้นที่ท่องเที่ยวภาคตะวันออก ประกอบด้วย ระยอง จันทบุรี ตราด หรือพื้นที่เกาะ อำเภอท่องเที่ยว ซึ่งต้องปฏิบัติตามมาตรฐานกรมอนามัย เพื่อเตรียมความพร้อมเปิดกิจการของหอการค้าฯ ได้” นายสาธิต กล่าว
ผู้สื่อข่าวถามถึงการยกระดับโควิด ฟรี เซ็ตติ้ง นายสาธิต กล่าวว่า ยังเป็นไปตามเกณฑ์ แต่ในช่วงแรกจะต้องมีความเข้มงวด แต่เมื่อสถานการณ์แต่ละพื้นที่ดีขึ้น เช่น การฉีดวัคซีนได้ตามเป้า หาก กทม.มีการฉีดมากขึ้น เพื่อให้เกิดภูมิคุ้มกันหมู่ร้อยละ 70 หรือ ร้อยละ 100 มาตรการต่างๆ อาจจะลดลงได้ แต่ด้านผู้ประกอบการจะต้องฉีดวัคซีนพนักงานให้ครบ ร้อยละ 100 มีการตรวจแอนติเจน เทสต์ คิท (ATK) ซึ่งหากสถานการณ์ดีขึ้นข้อกำหนดก็อาจเปลี่ยนแปลงไป
“เชื่อว่ามาตรการที่เข้มข้น วินัยของผู้ประกอบการเป็นความสำคัญในการเดินหน้า ย้ำว่าหากเลือกเปิดพื้นที่ตามอังกฤษ คือ ฉีดวัคซีนกลุ่มเสี่ยงให้ครบและมากที่สุด เพราะในแง่เศรษฐกิจที่ได้รับผลกระทบมาก แต่เมื่อเปิดแล้วต้องยั่งยืน ไม่ต้องกลับมาปิดอีก ดังนั้น สิ่งเหล่านี้จะเกิดจากการทำความเข้าใจ และมีวินัยร่วมกัน ไม่ต้องเปิดแล้วมาปิดใหม่” นายสาธิต กล่าว
ด้าน นายสนั่น อังอุบลกุล ประธานกรรมการหอการค้าไทย กล่าวว่า เดือนกันยายนนี้ การผ่อนคลายธุรกิจความเสี่ยงน้อย ทำได้ดี ต่อไปเดือนตุลาคม คาดว่าธุรกิจที่มีความพร้อมจะมีมาตรการที่ดี ส่วนเรื่องสาธารณสุข ทางภาคเอกชนจะต้องขอคำปรึกษาและความมั่นใจจาก สธ. จึงเป็นโอกาสที่จะได้ทำงานบูรณาการกันอย่างใกล้ชิด เพื่อให้มาตรการที่ออกมาใช้ได้ผล ทั้งนี้ ต้องการความร่วมมือจากภาคธุรกิจอย่างมาก เช่น ความพร้อมด้านสถานที่ต้องสะอาด ด้านผู้ให้บริการที่มีการฉีดวัคซีนครบถ้วน
“แต่เรื่องของผู้จะไปใช้บริการ เราต้องปรึกษากับ สธ.เพื่อให้เกิดความมั่นใจว่า มีการตรวจหาเชื้อด้วย ATK มีการควบคุมดูแลอย่างเข้มงวด ซึ่งเรื่องนี้จะอยู่ที่จิตสำนึกรับผิดชอบของทุกฝ่ายร่วมกัน เพราะจะปล่อยให้ภาครัฐบาล หรือ สธ. ก็คงไม่มีกำลังมากพอที่จะไปตรวจทุกคน ดังนั้น การทำงานร่วมกันก็จะช่วยภาคเศรษฐกิจได้ดี” นายสนั่น กล่าว