หยุดตระหนกเทหุ้น เครดิตสวิสไร้คำสั่ง

 
จากกรณี เครดิตสวิส สถาบันการเงินขนาดใหญ่เป็นอันดับ 2 ของสวิตเซอร์แลนด์ กำลังประสบปัญหาความกังวลด้านสภาพคล่อง ขณะที่ผู้ถือหุ้นรายใหญ่สุดอย่างธนาคารแห่งชาติซาอุดีอาระเบีย หรือ Saudi National Bank ประกาศไม่ใส่เงินเพิ่มจนราคาหุ้นตกอย่างหนัก เนื่องจาก เครดิตสวิส เป็นธนาคารที่มีธุรกรรมในต่างประเทศค่อนข้างเยอะ รวมถึงสินทรัพย์ภายใต้การบริหารจัดการสูงถึง 1.6 ล้านล้านฟรังก์สวิส หรือคิดเป็นเกือบ 10% ของ GDP ของสหภาพยุโรป จึงทำให้เกิดความกังวลต่อผลกระทบที่อาจจะเกิดขึ้น แต่ล่าสุดธนาคารกลางสวิสออกมาประกาศว่า พร้อมจะให้การสนับสนุนทางการเงินแก่ เครดิตสวิส ซึ่งเครดิตสวิส จะกู้ยืมเงินมากถึง 50,000 ล้านฟรังก์สวิส (53.7 พันล้านดอลลาร์)

ดร.ภากร ปีตธวัชชัย ผู้จัดการตลาดหลักทรัพย์แห่งประเทศไทย เปิดเผยถึงกรณีปัญหาที่ลามไปถึงเครดิตสวิสว่าได้มีการแก้ไขอย่างทันท่วงที และไม่มีผลกระทบต่อประเทศไทย เนื่องจากการดำเนินธุรกิจในไทยของ เครดิตสวิสนั้น เป็น อินเวสเมนท์แบงก์กิ้ง หรือการออกตราสารให้กับบริษัทจดทะเบียน และไพรเวทแบงก์กิ้ง หรือการลงทุนส่วนบุคคล ซึ่งปัญหาที่เกิดขึ้นไม่ได้ส่งกระทบกับไทย เพราะ บริษัทอินเวสเมนท์แบงก์กิ้ง หรือ ไพรเวทแบงก์กิ้งในไทยมีจำนวนมาก ไม่ส่งผลกระทบต่อการให้บริการ

นอกจากนี้ยังยืนยันว่าธนาคารเครดิตสวิสไม่มีการลงทุนโดยตรงในไทย ซึ่งที่เห็นรายชื่อ "เครดิตสวิส" ไปถือหุ้นในบริษัทจดทะเบียนในไทยเป็นจำนวนมากนั้น เป็นเพียง คัสโตเดียน ซึ่งนักลงทุนเอาหุ้นไปฝากไว้เท่านั้น จึงโผล่ชื่อเป็นเครดิตสวิส ดังนั้นจึงไม่กังวลกับการเทขายหุ้น

@ยังไม่ต้องใช้ยาแรง

ทั้งนี้ตลาดหลักทรัพย์มองว่ายังไม่จำเป็นที่จะต้องใช้มาตรการฉุกเฉินเพื่อมาดูแลตลาด โดยจะเน้นการให้ข้อมูลสื่อสาร ที่รวดเร็วมีแนวทาง โดยได้ปรึกษานักลงทุนสถาบันในประเทศ และมีเรื่องที่ดำเนินการกับหน่วยงานกำกับอื่นๆ ทำงานร่วมกันมากขึ้น ยืนยันตลาดหุ้นไทยที่ร่วงลงไม่ได้เป็นปัญหาปัจจัยภายใน แต่เป็นปัจจัยภายนอก

"มาตรการต่างๆ ที่มี ใช้ได้เสมอในเวลาที่เกิดความผันผวนในอดีต แต่วันนี้ยังไม่ถึงจุดนั้น ตลาดเปราะบางไม่ใช่แค่ในไทย ตอนนี้ให้ความสำคัญกับข่าวสารข้อมูล มาตราการต่างๆ ไม่ต้องห่วงการเหตุการณ์มีการเปลี่ยนแปลงมากไปกว่านี้ ใช้ได้ แต่เรายังไม่ถึงจุดนั้น"

ส่วนการฟื้นสิทธิประโยชน์กองทุน LTF จะมีโอกาสเห็นมากน้อยขนาดไหน เรื่องนี้เป็นแนวคิดทำอย่างไรให้มีผู้เล่นในตลาดทุนไทย สถาบันถือเป็นกลุ่มใหญ่ ที่อยากส่งเสริมให้มีดีมานด์ใหม่ในตลาดทุนไทย ถ้ามีอะไรคืบหน้าจะขออัพเดทที่หลัง

@ ไม่เทกระจาดหุ้นไทย

แหล่งข่าวจากวงการตลาดทุน เปิดเผยถึง ประเด็นความกังวลเรื่อง เครดิตสวิส ที่มีรายชื่อถือหุ้นในบริษัทจดทะเบียนในไทยมูลค่ากว่า 2 หมื่นล้านบาท จำนวน 16 บริษัท เป็นเพียงการถือหุ้นผ่านคัสโตเดียน ซึ่งดูแลและเก็บรักษาหลักทรัพย์จากนักลงทุนหรือเข้าของบริษัทที่ลงทุนผ่าน Private Fund ผ่านการถือหุ้นในต่างประเทศเท่านั้น และแม้จะมีข่าวเกิดขึ้น แต่ขณะนี้ไม่มีใครที่ต้องการขายหุ้นแต่อย่างใด ดังนั้นไม่ต้องกังวล และไม่เกี่ยวข้องกับ เครดิตสวิส โดยตรง

และในส่วนของ เครดิตสวิส มีธนาคารกลางสวิส ที่ออกมาให้การสนับสนุนแล้ว ทำให้ไม่ต้องกังวลเรื่อง Bank Run โดยผลกระทบที่เกิดขึ้นอาจจะส่งผลให้กับ Sentiment ในระบบธนาคารบ้าง แต่ยอมนับอาจเกิดความท้ายทายกับธนาคารจากการหารายได้ยากขึ้นตามการเข้มงวดในการปล่อยสินเชื่อ และการเข้ามาควบคุมจากภาครัฐ ทำให้กำไรต่อหุ้นของธนาคารพาณิชย์ลดลง

ในส่วนประเทศไทยยังดำเนินนโยบายเป็นไปตามบริษัทแม่ แต่จะเน้นในเรื่องของ Private Wealth ซึ่งมีการเติบโตอย่างมาก แต่เชื่อว่าในไทยยังมีปัจจัยบวกที่จะมาขับเคลื่อน อย่างการประกาศยุบสภาและการเลือกตั้ง จะเป็นปัจจัยบวกต่อประเทศไทยด้วย

“ประเด็นในเรื่องความกังวลว่าเครดิตสวิส มีการถือหุ้นในบริษัทจดทะเบียนในไทยเครดิตสวิส มีการถือหุ้นในบริษัทจดทะเบียน ไม่ได้เป็นการถือหุ้นโดยตรงจาก เครดิตสวิส และไม่มีการให้ขายหุ้นออกมาแต่อย่างใด ยังมีความเชื่อมั่นต่อองค์ และตอนนี้ก็มี ธนาคารกลางสวิสที่ออกมาช่วยเหลือ จึงไม่ต้องกังวล และที่ผ่านมาราคาหุ้น  เครดิตสวิส ที่ผ่านมาก็ปรับตัวลดลงมากต่อเนื่อง จากหลายปัจจัย ดังนั้นการปรับตัวลดลงขณะนี้ ไม่ได้ปรับตัวลดลงมากจนมีนัยสำคัญ การดำเนินนโยบายก็ยังเป็นไปตามบริษัทแม่กำหนด”แหล่งข่าว กล่าว