แง้มชีวิต “Mark Zuckerberg” คุณพ่อของลูกสาวและสามีผู้รักภรรยาสุดหัวใจ

สำหรับประวัติของ พริซซิลลา ชาน พ่อแม่ของเธอเป็นผู้ลี้ภัยชาวจีนที่หนีมาอยู่อเมริกา ทำให้เธอเติบโตขึ้นมาพูดได้ทั้งภาษาจีนและภาษาอังกฤษ และยังเป็นคนแรกในครอบครัวที่จบการศึกษาในระดับชั้นมหาวิทยาลัย โดยเชี่ยวชาญด้านกุมารแพทย์ ในขณะที่ มาร์ก ซักเกอร์เบิร์ก เป็นชาวอเมริกัน คุณพ่อทำงานเป็นหมอฟัน และคุณแม่ทำงานเป็นจิตแพทย์ ในขณะที่ตัวเขาเองสนใจคอมพิวเตอร์ตั้งแต่ยังเล็ก จึงได้เข้าเรียนฮาร์วาร์ด ก่อนจะไปเจอกับพริซซิลลานั่นเอง

ดังนั้นประโยคแรกที่เขาใช้จีบพริซซิลลา จึงกลายเป็นประโยคว่า “ผมกำลังจะโดนไล่ออกในอีกสามวัน เพราะฉะนั้นเรารีบไปเดตกันนะ” ("I'm going to get kicked out in three days, so we need to go on a date quickly") หลังจากนั้นทั้งคู่ก็คบหาดูใจกันมาเรื่อย ๆ และกลายเป็นกำลังใจสำคัญของกันและกัน อย่างพริซซิลลาเอง ก็คอยอยู่ข้าง ๆ มาร์กในช่วงเวลาที่ยากลำบาก เช่น ตอนที่เขาลาออกจากมหาวิทยาลัยฮาร์วาร์ด เพื่อเดินหน้าทำเฟซบุ๊กเต็มตัว ส่วนมาร์กเอง ก็คอยเป็นกำลังใจให้พริซซิลลา ขณะที่เธอกำลังเรียนต่อแพทย์เฉพาะทาง เขาก็มักจะแวะมาเยี่ยมเธอและพาเธอไปเดตเสมอ

ยังมีเรื่องราวน่ารัก ๆ ตอนเดทของทั้งคู่ อย่างช่วงที่พริซซิลลาท้องและมาร์กก็ยุ่งกับการสร้างอาณาจักรเฟซบุ๊ก จนพริซซิลลาต้องตั้ง "กฏเหล็ก 100 นาที" นั่นคือแต่ละสัปดาห์จะต้องมีเวลาอยู่ด้วยกัน 100 นาที ที่ไม่ทำอะไรเกี่ยวกับเฟซบุ๊กเลย และไปออกเดทด้วยกันอย่างน้อย 1 ครั้งต่อสัปดาห์ เพื่อช่วยให้มาร์กได้พักผ่อนบ้าง 

ส่วนหนุ่มมาร์กก็มีโมเมนต์โรแมนติก อย่างเช่นการทุ่มทุนเรียนภาษาจีนจนสามารถสื่อสารได้ เหตุผลก็เป็นเพราะครอบครัวและคุณยายของพริซซิลลาพูดภาษาจีนเป็นหลัก และเขาอยากสื่อสารกับครอบครัวของเธอได้ หรืออย่างช่วงที่ที่ภรรยากำลังวุ่นเลี้ยงลูก จนประสบปัญหานอนไม่หลับเพราะห่วงว่าจะตื่นมาดูแลเด็ก ๆ ไม่ทัน หนุ่มมาร์กก็ลงทุนประดิษฐ์กล่องไฟเล็ก ๆ ที่ช่วยให้ภรรยาแบ่งเวลานอนหลับได้ง่ายที่สุด

เรื่องราวความรักของมาร์ก และพริซซิลลา ก็เป็นตัวอย่างที่ทำให้เห็นว่าแม้แต่คนที่ยุ่งกับการสร้างความสำเร็จ ก็มีโอกาสพบความรักและสร้างความสัมพันธ์ที่แข็งแกร่งและมีความหมายได้ ผ่านการอุทิศตนให้กันและกันและครอบครัว และก็เป็นอีกหนึ่งมุมน่ารัก ๆ ที่ทำให้เห็นว่าเบื้องหลังชีวิตที่ประสบความสำเร็จของซีอีโอหนุ่มคนนี้ ก็มาจากแรงสนับสนุนที่ดี และความรักของครอบครัวที่มีให้กันเสมอนั่นเอง