ผงะแฮมสเตอร์ติดโควิด ฮ่องกงเตรียมการุณยฆาตสัตว์เล็กนับพัน
ข่าววันนี้ 18 ม.ค. เอพีรายงานว่า ทางการฮ่องกงเตรียมการุณยฆาตสัตว์เล็กจำพวกหนูกว่า 2 พันตัว ในจำนวนนี้ รวมถึงหนูแฮมสเตอร์ที่หลายคนนิยมมีไว้เป็นสัตว์เลี้ยงด้วย หลังพบหนูแฮมสเตอร์ติดเชื้อไวรัสโคโรนาปี 2019 ตัวการก่อโรคโควิด-19
การตรวจพบหนูแฮมสเตอร์ติดเชื้อนั้นเกิดขึ้นที่คลินิกสัตว์เลี้ยงแห่งหนึ่งในฮ่องกง ซึ่งมีพนักงานที่ติดเชื้อสายพันธุ์เดลตาทำงานอยู่ ส่งผลให้สำนักงานการเกษตร การประมง และปศุสัตว์ ประกาศให้ร้านค้าทั่วฮ่องกงยุติการจำหน่ายหนูแฮมสเตอร์ทันที
นอกจากนี้ ยังมีรายงานการตรวจพบหนูแฮมสเตอร์ที่นำเข้ามาจากประเทศเนเธอร์แลนด์ ถูกพบว่าติดเชื้อด้วยหลายตัวในร้านเดียวกัน และทางการฮ่องยืนยันว่า ยังไม่ตัดความเป็นไปได้ที่เชื้อไวรัสชนิดนี้จะสามารถติดจากสัตว์เลี้ยงสู่มนุษย์ได้
นายเหลียง ซิวไฟ ผอ.สำนักงานข้างต้น กล่าวว่า หากมีสัตว์เลี้ยงประเภทหนู และแฮมสเตอร์ควรเก็บพวกมันไว้ในบ้านและอย่านำออกมาภายนอก พร้อมย้ำให้เจ้าของรักษาความสะอาดอยู่เสมอ และห้ามจูบพวกมันโดยเด็ดขาด
แม้ทางการฮ่องกงจะยอมรับว่าปัจจุบันยังไม่มีหลักฐานทางวิทยาศาสตร์ที่ชัดเจน ว่าสัตว์เลี้ยงสามารถเป็นพาหะของโรคโควิด-19 ต่อมนุษย์ได้ แต่ประกาศให้ผู้ที่ซื้อหนูแฮมสเตอร์จากคลินิกดังกล่าวไปตั้งแต่วันที่ 7 ม.ค. ต้องเข้ารับการกักตัวเพื่อความปลอดภัยไว้ก่อน
ส่วนบุคคลข้างต้นที่เลี้ยงหนูแฮมสเตอร์นั้นจะต้องนำพวกมันมามอบให้กับทางการเพื่อนำไปทำลายด้วยกระบวนการการุณยฆาตอย่างไม่มีข้อยกเว้น รวมถึงหนูแฮมสเตอร์และสัตว์เลี้ยงจำพวกหนูทั้งหมดอย่างหนูชินชิลาจากร้านค้าทั้งหมดในฮ่องกงต้องถูกทำลายทิ้งทันที
ส่วนลูกค้าที่ซื้อแฮมสเตอร์จากร้านในฮ่องกงตั้งแต่ 22 ธ.ค. นั้นจะต้องกักตัวด้วย และขอความร่วมมือไม่ให้เดินทางเข้าสู่เขตชุมชนจนกว่าผลทดสอบทางห้องปฏิบัติการจะเป็นลบ หากหนูแฮมสเตอร์ที่เลี้ยงไว้มีผลทดสอบเป็นบวกแล้วเจ้าของจะต้องถูกกักตัวด้วยเพื่อรอดูอาการ
วันเดียวกัน ยังมีรายงานว่า เจ้าหน้าที่ตำรวจฮ่องกงเข้าจับกุมอดีตพนักงานให้บริการบนเครื่องบิ หรือแอร์โฮสเตส ที่ลักลอบเดินทางออกจากที่พักระหว่างการกักตัวรอดูอาการ ซึ่งต่อมามีผลการตรวจทางห้องปฏิบัติการเป็นบวก
รายงานระบุว่า อดีตแอร์โฮสเตสทั้งสองคนเดินทางมาจากประเทศสหรัฐอเมริกาเมื่อ 24 และ 25 ธ.ค. 2564 โดยระหว่างการกักบริเวณเพื่อรอดูอาการนั้นมีพฤติกรรมที่ไม่พึงประสงค์ โดยไม่ได้ระบุว่าพนักงานทั้งคู่มาจากสายการบินใด
อย่างไรก็ตาม รายงานดังกล่าวเกิดขึ้นในช่วงเดียวกันกับที่สายการบินคาเธ่ย์แปซิฟิคเผยแพร่แถลงการณ์ว่าดำเนินการปลดเจ้าหน้าที่ของสายการบิน 2 คน สืบเนื่องจากละเมิดมาตรการป้องกันโรคโควิด-19 โดยทั้งคู่มีผลตรวจเป็นบวกในเวลาต่อมา และเป็นชนิดสายพันธุ์โอมิครอน
ทั้งนี้ แอร์โฮสเตสทั้งสองคนที่ถูกตำรวจฮ่องกงควบคุมตัวนั้นล่าสุดตำรวจอนุญาตให้ใช้หลักทรัพย์ประกันตัว และจะต้องเดินทางมารับฟังการพิจารณาคดีวันที่ 9 ก.พ.นี้ หากมีความผิดจริงอาจต้องรับโทษจำคุกสูงสุดถึง 6 เดือน ปรับอีกราว 2 หมื่นบาท หรือทั้งจำทั้งปรับ