เปิดภาพ New year's eve 2022 ทั่วโลกเฉลิมฉลองเข้าสู่ปีใหม่
การเฉลิมฉลองในคืน New year's eve 2022 ส่งท้ายปีเก่าต้อนรับปีใหม่ในหลายประเทศ เป็นไปอย่างคึกคัก มีการแสดงจุดพลุดอกไม้ไฟ สีสันสวยงาม พร้อมกับมีประชาชนและนักท่องเที่ยว หลั่งไหลไปร่วมกิจกรรมจำนวนมาก
เริ่มคืน New year's eve จากเมืองโอ๊คแลนด์ ในนิวซีแลนด์ ซึ่งเป็นเมืองใหญ่เมืองแรก ที่เริ่มงานเฉลิมฉลองต้อนรับปี 2023 ในวันอาทิตย์ที่ 1 มกราคม โดยมีการจุดดอกไม้ไฟจากอาคาร "สกาย ทาวเวอร์" ของเมือง ท่ามกลางความตื่นเต้น และความสนุกสนานของประชาชนและนักท่องเที่ยวในนิวซีแลนด์ ที่มาเฝ้าดู ดอกไม้ไฟที่สว่างไสวพุ่งขึ้นสู่ท้องฟ้า ซึ่งนิวซีแลนด์ เป็นกลุ่มประเทศแรก ๆ ของโลกที่ได้เข้าสู่ปีใหม่ก่อน
การแสดงดอกไม้ไฟจากอาคารสกาย ทาวเวอร์ ที่มีความสูง 328 ชั้น กลับมาอีกครั้ง หลังจากต้องยุติไปเมื่อปีที่แล้ว เนื่องจากวิตกกังวลเกี่ยวกับไวรัสโควิด-19 โดยการแสดงดอกไม้ไฟครั้งนี้ ใช้เวลานาน 5 นาที มีการแสดงดอกไม้ไฟ 500 กิโลกรัมจากหอคอยดังกล่าว พร้อมกับเปิดไฟสะพานโอ๊คแลนด์ฮาร์เบอร์ด้วย
ส่วนนครซิดนีย์ ของออสเตรเลีย เริ่มต้อนรับปีใหม่ 2023 ด้วยการแสดงดอกไม้ไฟหลากสีสวยงาม และเป็นครั้งแรกที่มีการแสดงน้ำตกสายรุ้ง นอกสะพาน “ฮาร์เบอร์ บริดจ์” สัญลักษณ์ของซิดนีย์ โดยจัดการแสดงประกอบด้วยเอฟเฟกซ์ 7,000 ชิ้น จาก 184 ตำแหน่งบนสะพาน และยังมีการยิงดอกไม้ไฟ 2,000 นัด จาก “ซิดนีย์ โอเปรา เฮ้าส์” และยังมียิงจากสถานที่อื่น ๆ ด้วย รวมเวลาทั้งหมด 12 นาที
ขยับมาที่ฝั่งเอเชียคืน New year's eve 2022 ที่ฮ่องกง ต้อนรับปีใหม่ด้วยการแสดงแสงสีแบบมัลติมีเดีย เหนืออ่าววิคตอเรียเป็นเวลานาน 25 นาที โดยเริ่มต้นขึ้นในเวลา 23.45 น.ของคืนวันเสาร์ตามเวลาท้องถิ่น
การแสดงมัลติมีเดียที่ประสานแสงและเสียง ทำให้ท้องฟ้าและท่าเรือบริเวณอ่าววิคตอเรียสว่างไสวด้วยแสงเลเซอร์และลำแสงที่พุ่งออกจากหลังคาของอาคาร และสถานที่ท่องเที่ยวมากมายบนเกาะฮ่องกงและในเกาลูน เพื่อเป็นจุดเริ่มต้นของปี 2023
ทั้งนี้ รัฐบาลฮ่องกง ได้ยกเลิกกฎเว้นระยะห่างทางสังคมทั้งหมด หลังจากมีมาตรการป้องกันโควิด-19 เป็นเวลานานเกือบ 3 ปี ทำให้การเข้าสู่ปีใหม่ในปีนี้ เป็นการฉลองส่งท้ายปีเก่าต้อนรับปีใหม่ที่ใหญ่ที่สุดของฮ่องกงตั้งแต่ปี 2019
ไปที่ฝั่งตะวันออกกลาง ที่สหรัฐอาหรับเอมิเรตส์ หรือยูเออี ได้จัดงานฉลองคืนวันส่งท้ายปีเก่าต้อนรับใหม่อย่างยิ่งใหญ่ไม่แพ้ที่อื่นๆทั่วโลก ท่ามกลางประชาชนรอชมการแสดงแสงสีเสียงและการจุดพลุดอกไม้ไฟที่เบิร์จ คาลิฟาร์ อาคารสูงที่สุดในโลกในนครรัฐดูไบ และในนครรัฐราส อัล ไคมาห์ที่อยู่ติดกัน มีการแสดงพลุดอกไม้ไฟฉลองปีใหม่อย่างยิ่งใหญ่สวยงามเช่นเดียวกัน จนท้องฟ้ากลายเป็นสีทองและสีแดง เพื่อต้อนรับปีใหม่ 2566
ส่วนบรรยากาศ New year's eve 2022 ที่ยุโรป ชาวเยอรมัน ได้ร่วมงานส่งท้ายปีเก่าต้อนรับปีใหม่ที่บริเวณประตู แบรนเดินเบิร์ก และ แม่น้ำสปรี กันอย่างคึกคัก พร้อมกันนี้มีการจุดพลุดอกไม้ไฟฉลองอย่างยิ่งใหญ่พร้อมการแสดงแสงสีเสียง ผู้ร่วมงานบางคนต้องการสันติภาพ และ การสิ้นสุดของปัญหาขัดแย้งรัสเซีย-ยูเครน ส่วนนักเรียนหวังให้ผลการเรียนที่ดีในปีใหม่ 2566
ที่กรุงปารีส ชาวฝรั่งเศสและนักท่องเที่ยวต่างชาตินับล้านคนร่วมงานเคานต์ดาวน์ คืนส่งท้ายปีต้อนรับปีใหม่ที่บริเวรถนนฌองเซลิเซ และประตูชัย ที่ปีนี้จัดขึ้นอย่างยิ่งใหญ่หลังจากเว้นการจัดงานมาสองปีหลัง เนื่องจากการระบาดของไวรัสโควิด-19 ไฮไลต์เป็นการแสดงพลุดอกไม้ไฟอย่างยิ่งใหญ่ ผู้เข้าร่วมงานต่างปรารถนาให้ปีใหม่นี้ เต็มไปด้วยสันติภาพ ความสุข และ ความสำเร็จ.
ข้อมูลจาก : รอยเตอร์
ภาพจาก : รอยเตอร์